ปลายเดือนกุมภาพันธุ์นี้ มีภาพยนตร์ที่น่าสนใจทยอยจัดฉายในโรงกันเพียบ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง The Point Men หรือ “ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก” สร้างจากเรื่องจริงเมื่อปี 2007 จากเหตุการณ์ในประเทศ “อัฟกานิสถาน” ซึ่งมีการจับตัวประกันไปทั้งหมด 23 คน ซึ่งเป็นชาวเอเชีย เรื่องสุดวิกฤตตึงเครียดสะเทือนโลกเริ่มขึ้นเมื่อเมื่อ “ตาลีบัน” เริ่มส่งสัญญาณจะสังหารตัวประกันไปเรื่อย ๆ ทำให้ทุกฝ่ายต้องหาหนทางช่วยชีวิตตัวประกันให้ได้เร็วที่สุด
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ 3 ดาราแม่เหล็กของเกาหลี ร่วมกันถ่ายทอดผลงานการแสดง ได้แก่ ฮยอนบิน, ฮวังจองมิน และ คังกียอง ความยาวภาพยนตร์ 108 นาที กุมบังเหียนกำกับโดยหญิงเหล็ก “อิม ซูนไรย์” เจ้าของผลงานคุณภาพอย่าง Waikiki Brothers, Forever the Moment และ Little Forest ซึ่งหลังจากจัดรอบฉายในประเทศเกาหลี ก็ได้สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวแรงครองอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศกว่า 3 สัปดาห์ซ้อน
เรื่องย่อ กลุ่มตาลีบันหัวรุนแรง จับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเป็นตัวประกันในฐานทัพกลางทะเลทรายของประเทศ “อัฟกานิสถาน” ฝ่ายรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องส่ง “แจโฮ” (รับบทโดย ฮวังจองมิน) นักการทูตฝีมือดีที่สุดของประเทศ ไปรับมือกับสถานการณ์นี้ แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน บีบให้เขาต้องร่วมงานกับ แดซิก (รับบทโดย ฮยอนบิน) เจ้าหน้าที่พิเศษเชี่ยวชาญพื้นที่ตะวันออกกลาง และ คาซิม (รับบทโดย คังกียอง) หนุ่มเกาหลีจอมกะล่อน ที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ จับพลัดจับผลูมาร่วมทีมเจรจาในฐานะล่ามเพื่อแลกกับเงิน และกลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในปฏิบัติการเจรจาภารกิจพิชิตนี้ ทั้งสามต้องร่วมมือกันแข่งกับเวลา เพื่อให้ตัวประกันที่เหลือมีชีวิตรอดกลับบ้านให้ได้
จุดแข็งของ The Point Men นอกจากจุดขายที่รวมเอานักแสดงระดับคุณภาพมารับบทที่แตกต่างกันแล้ว งานโปรดักส์ชั่นก็ไม่ธรรมดา เพราะต้องลงทุนไปถ่ายทำกันในประเทศจอร์แดนถึง 80% นำเสนอฉากหลังและงานภาพให้เกิดความสมจริงมากที่สุด ตั้งแต่เมืองที่มีความแออัดสุ่มเสี่ยงที่จะโดนระเบิดพลีชีพ ไปจนถึงเทือกเขาทะเลทรายยาวสุดสายตา ทั้งยังใช้ทีมงานกว่า 300 ชีวิต ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะการเผชิญกับอากาศที่ร้อนระอุกว่า 40 องศาในการถ่ายทำแต่ละฉาก
จุดอ่อนของ The Point Men แม้ว่าบทบาทการแสดงของ 3 ตัวละครหลัก จะจัดวางบทและห้วงเวลาของการนำเสนอแต่ละเหตุการณ์ได้เหมาะเจาะกับพล็อตเรื่องที่มีความซีเรียส แต่ทว่าหากต้องสู้กับความคาดหวังของผู้ชมแล้ว งานนี้อาจมีความกร่อย ด้วยข้อจำกัดของบทภาพยนตร์ที่อิงกับความเป็นจริงที่ไม่ได้เน้นเรื่องยิงต่อสู้รบ หรือทำสงคราม แต่เน้นเรื่องการหาทางช่วยเหลือตัวประกันด้วยการเจรจาเท่านั้น ทำให้เหล่าคอหนังแอ๊คชั่นเกิดความอึดอัด แทบจะไม่มีฉากบู๊สู้เดือดอย่างที่คาดหวัง คงได้แค่เพียงดูฉากสวย ๆ และการอิงไปกับบทการสนทนา และการต่อรองเท่านั้น
3/5 ภาพยนตร์ที่อิงมาจากเรื่องจริง ได้ลุ้นระทึกจริง เหมาะกับคนที่ชอบความกดดัน และอ่านความคิดของตัวละคร แต่คงไม่เหมาะกับคอแอ๊คชั่นบู๊ดุเดือด ความเนือยของหนังอยู่ในระดับ 8-9 ลากยาวคุยกันวางแผนไปมา ผู้ชมกินข้าวมาอิ่ม ๆ เจอแอร์เย็น งานนี้มีหลับได้แน่นอน.
——————————————–
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Mongkol Major Mongkol Cinema
