เริ่มที่ศึกใหญ่ระหว่างเจ้าของพื้นที่เดิมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย กับผู้ท้าชิงจากฟากฝั่งพรรคใหญ่ ที่มาจากฝ่ายรัฐบาล 2 พรรคคือ พรรคพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย อีกทั้งยังมีพรรคของคนรุ่นใหม่อย่าง พรรคก้าวไกล เข้ามาแทรกว่าจะมีแนวทางการทำงานของแต่ละท่านเป็นอย่างไร
เริ่มกันที่ จตุพร เจริญเชื้อ พรรคเพื่อไทย เขต 3 น้ำพอง-กระนวน เผยว่า ตนมีความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่าต้องการเปลี่ยนรัฐบาล เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ เห็นศักยภาพของการทำงาน เห็นนโยบายต่าง ๆ ที่ออกมา ซึ่งมันไม่ได้ตอบโจทย์ของพี่น้องประชาชน ชาวบ้านเดือดร้อนมาก แก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และที่สำคัญการแก้ปัญหาเรื่องการระบาดของยาบ้า มันเป็นปัญหาที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชนมาเนิ่นนาน ทั้งนี้ ประชาชนตอนนี้เขาตัดสินใจกันหมดแล้วว่าจะเลือกอะไร เลือกพรรคใด ซึ่งตนเองเชื่อมั่นว่าประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทย ให้เป็นรัฐบาล
เหตุผลเพราะตัวพลเอกประยุทธ์เอง เพราะการเมืองมันแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างนี้ ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ก็ต้องมาเอาฝั่งเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยนโยบายต่าง ๆ ที่พูดมา ที่ผ่านมาชาวบ้านเขาให้ความมั่นใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตนเองมั่นใจว่าชาวบ้านจะตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทยเพราะนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องราคาพืชผลการเกษตร ที่สำคัญเรื่องยาเสพติด ประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทย โดยจะเลือกทั้งผู้สมัคร และเลือกพรรคเพื่อไทย
ต่อคำถามถึงการประเมินคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายจตุพร บอกว่า พอเรามองการเมืองออกเป็นอย่างนี้ เป็นการเมืองที่ประชาชนต้องตัดสินใจแล้ว คู่แข่งไม่ได้เป็นตัวปัจจัยการแข่งขันเลย ในเรื่องของตัวบุคคลไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน เพราะได้ยินเสียงของประชาชนว่ายังไงก็เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตของเขาเอง
ในส่วนของการแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 3 อำเภอน้ำพองและอำเภอกระนวน โดยมีการแบ่งอำเภอน้ำพองเข้ามา 5 ตำบล และอำเภอเขาสวนกวาง 2 ตำบล เป็นเขตเลือกตั้งที่ 3 นั้น ตนเองถือว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเข้าทางตนเอง เพราะเดิมทีตนเองก็เป็นคนอำเภอเขาสวนกวาง เกิดที่นั่น ญาติพี่น้องก็อยู่ที่นั่น ยิ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มคะแนนเสียงให้กับตัวเองอีกด้วย
ในการกลับลงมาสู่สนามเลือกตั้งระดับชาติอีกครั้งของ นายปัญญา ศรีปัญญา อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 3 (พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคภูมิใจไทย) ปัจจุบันสวมเสื้อผู้สมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ เผยถึงการกลับลงมาอาสาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน มีแนวคิด และคาดหวังอย่างไรบ้าง อดีต ส.ส.ปัญญา กล่าวว่า ต้องเรียนว่าก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามาสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐนั้น เนื่องจากว่าพรรคการเมืองต่าง ๆ ในวันนี้เราก็มองไปว่ามีพรรคไหนบ้างที่เป็นที่พึ่งพา และสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดของเราได้ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของเราที่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายสมัย
จากการที่เราได้เฝ้าติดตามการทำงานของผู้แทนในปัจจุบันนี้ ชาวบ้านชอบบ่นว่าการเข้ามาทำหน้าที่ของผู้แทนนั้นไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ตนเองกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ตั้งแต่ที่ตนเป็นผู้แทนมาตั้งแต่ปี 35/1 และ 35/2 ตนเองมีผลงานอะไรต่าง ๆ ให้พี่น้องประชาชนคนน้ำพอง คนกระนวน หรือคนในเขตนี้ สมัยก่อนเป็นการเลือกตั้งใหญ่ เลือกตั้งรวมเขต 7 อำเภอ ผู้แทนต้องวิ่งไปทั้ง 7 อำเภอ ตามเขตของตนเองหางบประมาณต่าง ๆ เพื่อที่จะไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่มาระยะหลังจะเป็นเขตเลือกตั้งเขตละคน พื้นที่ในการดูแลรับผิดชอบมันเล็กลงซึ่งเป็นผลดีในการพบปะกับพี่น้องประชาชน นำงบประมาณมาช่วยเหลือได้เต็มที่
อีกสาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจเข้ามาสนามเลือกตั้งตอนนี้คือ คนที่เป็นผู้แทนหลายสมัยในเขตเลือกตั้งเขต 3 น้ำพอง-กระนวน ทำให้พี่น้องเราเสียโอกาสหลายอย่าง ยกตัวอย่างง่าย ๆ การที่จะมาพบปะพี่น้องตามหาตัวไม่เจอไม่รู้อยู่ไหน ถึงจะรู้ว่าบ้านอยู่ไหนไปก็ไม่เจอ ในขณะเดียวกันชาวบ้านจะบ่นตลอดเวลาว่าคนเป็นผู้แทนราษฎรเลือกไปแล้วไม่ทำอะไรให้เขา ซึ่งผิดกับสมัยที่พวกตนเองเป็นผู้แทน
วันนี้ตนเองกล้ายืนยันพร้อมที่จะเข้ามาอาสาเป็นผู้ที่รับใช้พี่น้องชาวอำเภอน้ำพอง อำเภอกระนวน ที่เลือกสังกัดพรรคพลังประชารัฐนั้นเนื่องจากว่า มีนโยบายต่าง ๆ หลายนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนของเราได้มาก และคิดว่าหัวหน้าพรรคเป็นคนที่มีความตั้งใจจริง
นายปัญญา กล่าวทิ้งท้ายแล้ว เมื่ออาสามาเป็นผู้แทนของประชาชน เหมือนกับการลงสนามรบ ไม่ว่าสนามรบเป็นเช่นไร เราก็ไม่เกี่ยงสนาม ซึ่งตนเองจะลงในเขต 3 อย่างแน่นอน
หันมาดูผู้สมัครหน้าใหม่ที่ก้าวจากนายกเล็ก นักการเมืองท้องถิ่นปัจจุบันเป็นนายกเทศบาลเมืองกระนวน อ.กระนวน จ.ขอน แก่น นายชัชวาล โนนใหม่ หรือเล้ง พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวถึงเส้นทางการเมืองจากท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติว่า ตนเองเป็นนายกเทศบาลเมืองกระนวน พื้นฐานเป็นชาวกระนวนแท้ ๆ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น ครบวาระแรก 8 ปี ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งเป็นสมัยที่ 2 ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะลงสมัครการเมืองระดับชาตินั้น ได้เล็งเห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนในเขตของพื้นที่นี้ โอกาสต่าง ๆ ในการพัฒนาของอำเภอกระนวน อำเภอน้ำพอง คิดว่ายังไม่พัฒนาดีเท่าที่ควร ด้วยประสบการณ์ที่เราทำงานมากับชาวบ้าน เราก็ได้เห็นในเรื่องถึงโครงสร้างต่าง ๆ ในเรื่องของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น
ท้องที่ ในระดับต่าง ๆ ซึ่งจะต้องเกาะเกี่ยวยึดโยงกัน นี่เป็นเหตุผลที่ตัดสินใจที่จะเข้ามาเล่นการเมืองในระดับชาติ
ตนเองมองว่าพี่น้องประชาชนในเขต 3 เสียโอกาสมานับ 10 ปี โดยเฉพาะถนนเส้นหลัก เส้นใหญ่ที่เราขาดโอกาสที่จะได้ดำเนินการ ซึ่งพื้นที่อื่น ๆ ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดไปมากแล้ว นี่คือสิ่งที่เป็นความเห็นส่วนตัวที่จะเข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้
พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่
จากคำถามถึงการสังกัดพรรคการเมือง ได้มีการมองในใจก่อนไหมว่าจะสังกัดพรรคใด นายกเล้ง เผยว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 65 มีหลายพรรคการเมืองเข้ามาติดต่อทาบทามตนเองให้สังกัดพรรค ซึ่งตนเองก็ใช้เวลาในการชั่งใจอยู่พอสมควร จนในที่สุดตนเองคิดว่าโอกาสในการพัฒนาบ้านเมืองของเรานั้นมาถึงแล้ว หลังจากสูญเสียมานาน ด้วยความรู้ความสามารถของตนเองแล้ว คิดว่าน่าจะพัฒนาได้มากขึ้นกว่านี้ จึงมองไปที่พรรคภูมิใจไทย เพราะว่าปัญหาของอำเภอกระนวน อำเภอน้ำพอง สิ่งที่ขาดอยู่คือเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็อยู่ในพรรคนี้ ถือได้ว่าเป็นประเด็นหลักในการเข้าร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทย
สำหรับเรื่องของกระแสพรรคการเมืองเดิมเจ้าของพื้นที่ที่จะประกาศจะแลนด์สไลด์ การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่จะพิสูจน์การตัดสินใจของพี่น้องประชาชน แต่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นเลือกตั้งที่แยกระหว่างบัญชีรายชื่อ กับ ส.ส.เขต คือบัตร 2 ใบ ตนเชื่อถึงการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนว่าปัญหาของพื้นที่เราเป็นอย่างไร นายชัชวาล กล่าว
ถึงการประกาศยุบสภาจะยังไม่มี แต่การเตรียมความพร้อมของแต่ละพรรคแต่ละคนก็เริ่มต้นกันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าการช่วงชิงสังกัดพรรคการเมืองที่เป็นพรรคแม่เหล็ก หรือการสังกัดพรรคที่เป็นกระแส การช่วงชิงพื้นที่การแบ่งเขตเลือกตั้ง จะออกมาเป็นในรูปแบบใด แต่การตัดสินใจของพี่น้องประชาชนคือข้อพิสูจน์ว่านักการเมืองท่านใด พรรคใดจะออกหัวหรือออกก้อย สำหรับเขตเลือกตั้ง 3 จังหวัดขอนแก่น.
ยศวิน รัตนโชติกุลชัย