“คริปโต” เป็นคำที่คนไทยเริ่มพูดถึงกันหนาหูในไม่กี่ปีที่ผ่านมา การซื้อขายในคริปโตฯมีมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับผู้ที่กำลังจะเตรียมตัวเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือเพิ่งเริ่มศึกษา วันนี้เรามีแนวทางเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรรู้หากสนใจในการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลประเภทนี้

มือใหม่คริปโต ควรเรียนรู้เรื่องใดบ้าง?

  1. รู้จักเหรียญ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.statista.com แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลสถิติต่าง ๆ ทั่วโลก ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 ระบุถึงจำนวนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีบนโลกนี้มีจำนวนมากถึง 8,000 กว่าสกุลในปัจจุบัน โดยจากกราฟจะเห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยช่วงปี 2022 มีจำนวนมากที่สุดกว่า 10,000 เหรียญ แต่ถ้านับจำนวนเหรียญที่ได้มีการสร้างขึ้นและปิดตัวลงไปแล้วก็จะมีทั้งหมดประมาณ 21,844 เลยทีเดียว

กราฟแสดงจำนวนคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกตั้งแต่ปี 2013 ถึงกุมภาพันธ์ 2023


แต่การที่จะรู้จักเหรียญทั้งหมดคงเป็นไปได้ยากมากสำหรับนักลงทุน เพราะฉะนั้นการที่จะศึกษาข้อมูลหรือทำความรู้จักเหรียญใดเหรียญหนึ่งอาจจะเลือกจากความนิยมและความเชื่อมั่นของนักลงทุนส่วนใหญ่ หรือจะเลือกจากเหรียญที่เราสามารถเข้าถึงและค้นหาข้อมูลได้ก็เป็นวิธีเริ่มต้นที่นักลงทุนหลายคนเลือกใช้ อย่างในประเทศไทยนักลงทุนสามารถเข้าไปศึกษาและทำความรู้จักเหรียญสกุลต่าง ๆ ตามที่ศูนย์ซื้อขายกระดานเทรดหรือ Exchange นั้นได้ทำการลิสต์เข้ามา ซึ่งมีทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล

คริปโทเคอร์เรนซีคืออะไร?

คริปโทเคอร์เรนซี เป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการและใช้เพื่อแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกันเองหากผู้ใช้ยอมรับ โดยคริปโทฯที่คนรู้ไทยจักกันแพร่หลาย เช่น Bitcoin, Ethereum, Cardano และ Doge เป็นต้น

(ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Bitcoin เพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.bitkub.com/en/blog/what-is-bitcoin-8e94e8b61b5e)

โทเคนดิจิทัลคืออะไร?

โทเคนดิจิทัล คือ หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งรายได้ การครอบครอง หรือสิทธิอื่น ๆ (utility token) ตามที่ได้ตกลงกับผู้ออกโทเคนเอาไว้ เหรียญโทเคนฯที่นักลงทุนชาวไทยรู้จักกัน เช่น Gala, ApeCoin และ GuildFi เป็นต้น

ปัจจุบันคริปโทฯและโทเคนยังไม่ใช่เงินที่ธนาคารกลางทั่วโลกรับรองว่าสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Legal Tender) แต่ในหลายประเทศก็เริ่มมีการผลักดันให้เกิดนโยบายในเรื่องนี้ขึ้น จากการพัฒนาของ Central Bank Digital Currency (CBDC) ซึ่งเป็นเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ พูดง่าย ๆ ในกรณีของไทย ก็เหมือนเงินบาทหรือธนบัตรที่ออกโดยแบงก์ชาติ เพียงแต่อยู่ในรูปแบบ “ดิจิทัล” และมุ่งหวังให้เป็นการเงินรูปแบบใหม่ในอนาคต

  1. รู้จักศูนย์ซื้อขาย

ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) เป็นศูนย์กลางหรือเครือข่ายในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโทฯ/โทเคน) โดยการจับคู่ หรือหาคู่สัญญาให้ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีความน่าเชื่อถือ มีระบบที่ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานการจัดการที่ดี ที่สำคัญคือต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน หรือให้เงินลงทุนกับใครไป อย่าลืมเช็คก่อนว่า เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล หรือผู้ประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลตามกฎหมายหรือไม่ เช็คข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th/digitalasset

  1. เรียนรู้กราฟ

การดูการเคลื่อนไหวของกราฟราคาเรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานที่นักเทรดสายเทคนิคต้องทำเป็น เพราะ นอกจากจะช่วยวิเคราะห์ได้ว่าราคาจะไปทางไหนต่อแล้ว ยังสามารถวิเคราะห์ได้ด้วยว่าราคาจะเกิดการกลับตัวหรือไม่ นักเทรดก็จะสามารถวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมได้กับทุกสถานการณ์ ทั้งนี้ การจะตี Graph Pattern ได้ เราต้องรู้จักการหาแนวรับ-แนวต้านก่อน โดยสามารถดูได้จากระดับต่ำสุดและสูงสุดของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นให้ลากเส้นจากระดับต่ำสุดหนึ่งไปอีกระดับต่ำสุดหนึ่ง เช่นเดียวกันกับระดับสูงสุด เมื่อทำเช่นนั้นแล้วเราก็จะได้เส้น 2 เส้นเป็นกรอบให้กับราคา และเราก็จะกรอบนั้นในการดู Graph Pattern นั่นเอง

  1. รู้วิธีบริหารความเสี่ยง
  • ระวังเรื่องความผันผวนของสินทรัพย์ นักลงทุนจะให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นตามข่าวที่เข้ามา ส่งผลให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลบางสกุลเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็ว นักลงทุนบางท่านเมื่อเห็นราคาที่พุ่งสูงขึ้นก็อาจเกิดความกังวลว่าอาจพลาดโอกาสในการทำกำไร โดยตามกลไกของตลาดแล้ว เมื่อสินทรัพย์มีราคาพุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ก็ย่อมเกิดการเทขายเพื่อทำกำไร และราคาจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นักลงทุนเสียหายเนื่องจากซื้อสินทรัพย์ในราคาที่สูงเกินไป


  • ใช้เงินเย็นในการลงทุนเท่านั้น เงินเย็น หมายถึง เงินส่วนที่นักลงทุนสามารถเสียไปได้โดยไม่เดือดร้อน ไม่เป็นเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันหรือยามฉุกเฉิน ไม่เป็นเงินที่ยืมหรือกู้มา เป็นต้น ในทางกลับกัน เราไม่แนะนำให้ท่านนำเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
  • ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นักลงทุนควรเลือกติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือและติดตามข่าวสารจากหลากหลายแหล่งข่าวเพื่อป้องกันการรับข้อมูลที่ผิดพลาด รวมถึงศึกษาทำความเข้าใจว่าสกุลเงินดิจิทัลแต่ละสกุลมีพื้นฐานที่แตกต่างกันอย่างไร

พึงระลึกเสมอว่าการลงทุนทุกรูปแบบย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน พิจารณาใช้ต้นทุนการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม และมีความระมัดระวังในการติดตามข่าวสารเสมอด้วย

อ้างอิง : Explodingtopics, Statista, sec.or.th, Bitkub Blog

บทความโดย : bitkub.com/blog
_________________________________________

คำเตือน:
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต