เรียกได้ว่าเป็นข่าวช็อกวงการ E-sports อีกหนึ่งข่าวสำหรับการประกาศยุติการทำทีม DOTA2 ของ Fnatic เเล้วหลังจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในเอส รวมถึงสร้างชื่อเสียงในวงการมาร่วมกว่า 12 ปีเต็ม เรามาดูกันว่าทีมระดับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้พวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง
จุดเริ่มต้นของ Fnatic DOTA2
Fnatic ถือว่าเป็นสังกัดใหญ่ในวงการ Esports ของโลกอยู่เเล้ว ณ ตอนนั้น Fnatic มีเพียงทีม Counter Strike เท่านั้น จนในปี 2011 ทาง Fnatic ต้องการจะขยับขยายไปในเกมอื่นๆ จึงเลือกซื้อ Team Gamersleague หรือชุดที่เเฟนเรียกกันว่า Serbian Line-up ซึ่งทีมที่กำลังมาเเรงเเละเคยไปถึงอันดับ 3 ของการเเข่งขัน Electronic Sports World Cup 2011 ได้อีกด้วย
เเละเเม้ว่าจะได้รองเเเชมป์รายการ DreamHack Winter 2011 เเต่สุดท้าย ทางทีมก็เลือกที่จะปลด Serbian Line-up ทิ้งเเล้วเอาผู้เล่นจากเกม HON ที่ชุดนั้นมีหนึ่งที่ผู้เล่นที่ทุกวันนี้กลายเป็นตำนาน DOTA2 อย่าง พ่อใหญ่ N0tail รวมอยู่ด้วย เเละถือเป็นจุดสำคัญในการเริ่มเดินหน้าความเกียรติยศของ Fnatic ในยกเเรก
พวกเขาคว้าเเชมป์ใหญ่เเชมป์เเรกในระดับ Tier 1 นั่นก็คือ Thor Open 2012 โดยชนะ No Tidehunter ไป 2-0 เกม หลังจากนั้นก็เเข่งขันมาเรื่อยคว้าเเชมป์ระดับ Tier 2 บ้าง Tier 3 บ้าง เเละในที่สุดก็ได้ Invite ไปรายการที่ใหญ่ที่สุดของ DOTA2 อย่าง The International 2013
TI ครั้งเเรกเเละครั้งสุดท้ายที่ทำได้ดี (ในยุคเเรก)
TI ครั้งเเรกของพวกถือว่าไม่ธรรมดาเลยสามารถเอาชนะได้ทั้ง NAVI รองเเชมป์ TIครั้งที่เเล้ว เเละ Mouz ที่ฟอร์มเเรงมากขนาดนั้น เเละ Fnatic ก็ที่จะมาจอดป้ายที่อันดับ 7-8 ในการเเข่งขันถือว่าไม่ทำได้ไม่เลวสำหรับทีมที่มา TI ครั้งเเรก เเต่นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่ทำได้ดีในตอนนั้น เพราะ TI 2014 ก็จบที่ Group State พอผลงานไม่ดีก็เปลี่ยน Line-Up ปี 2015 มาเป็นชุดผู้เล่นจากผู้เล่นโซนยุโรป มาผู้เล่นโซนจาก Team Malaysia เเต่ผลงาน TI ก็ยังไม่กระเตืองขึ้น ผลงานที่ดีที่สุดคือ ESL one Frankfurt เเละ New York ที่จบอันดับ 5-8 จนกระทั่งการเข้ามาของ Support อย่าง DJ เเละ Mid0ne ในปี 2016 ในก็ทำให้ Fnatic เปลี่ยนไปตลอดกาล
ยุคทองของ Fnatic เเต่ก็ยังไม่ถึงเเชมป์ TI
การเข้ามาของ DJ ช่วยเติมเต็มให้ทีมเป็นอย่างมาก ด้วยทีเด็ดจาก Enigma ของเขารวมพลังกับ Mid0ne ทำให้ Fnatic คว้าถ้วยเเละโควตามารัวๆ เริ่มตั้งเเต่ เเชมป์ SEA เเละได้สิทธิในการ Qualifier ไป Shanghai Major ติดท็อป 6 Shanghai Major ท็อบ 3 Manila Major ได้อันดับสามใน Starladder i-League StarSeries S2 เเละ ผลงานที่ดีที่สุดคือ อันดับ 4 TI2016 หลังจากนั้นเมื่อ DJ ออกไป(ครั้งเเรก) ทีมก็เริ่มจะกลับไปสู่จุดเดิมที่เคยจากมา เเม้จะมีการดึง DJ กลับมาในภายหลังก็ตาม ส่วนผลงานที่ดีที่สุดในช่วงหลังจาก 2016 คือ ESL One Katowice 2018 ที่เคยไปได้ถึงอันดับ 4 ส่วนในรายการ The International จบวนอยู่ในรอบ Groupstage หรือ Lower Bracket ซะส่วนใหญ่
2 Player ไทย “JABZ เเละ 23savage เข้าร่วมทีม
อนุญาตข้ามทามไลน์จากช่วง 2017-2018 มาที่ปี 2019 ในช่วงปลายปี Fnatic ได้ทำการเซ็น 2 ผู้เล่นไทยอย่าง JABZ เเละ 23savage เข้าสู่ทีม นั่นก็น่าจะเป็นช่วงที่เเฟนๆชาวไทยได้รู้จักกับ Fnatic เริ่มติดตามการเเข่งขัน Dota กันช่วงนั้น โดย Jabz ประเดิมศึกแรกกับ Fnatic ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และเป็นส่วนสำคัญที่พาคว้าแชมป์ The Kuala Lumpur Major Southeast Asia Qualifier แบบไร้พ่าย พร้อมคว้าโควตา Kuala Lumpur Major มาครอง
ส่วน 23savage ที่ในขณะนั้นเป็นดาวรุ่งของวงการก็ได้ประเดิมในศึก DOTA Summit 12 Fnatic ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จบรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ก่อนที่จะระเบิดฟอร์มต่อเนื่องในรอบเพลย์ออฟ จนสุดท้าย พวกเขาสามารถเอาชนะ OG seed ในรอบชิงชนะเลิศไปด้วยสกอร์ 3-0 คว้าแชมป์กลับบ้านไปอย่างสวยงาม
กลับสู่ยุคทองเเต่กลับเจอโควิดเล่นงาน
หลังจากคว้าแชมป์ DOTA Summit 12 ประเดิมปี 2020 ไปอย่างสวยงาม Fnatic ก็ลุยศึก ESL One Los Angeles 2020 – Online: Southeast Asia ด้วยฟอร์มโหดแบบต่อเนื่อง แม้ว่าทีมเริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าที่ควรในรอบแบ่งกลุ่ม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ระเบิดฟอร์มในรอบเพลย์ออฟ เอาชนะคว้า Team Adroit ไปด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศและแชมป์ Major ระดับภูมิภาคแรกของปีได้สำเร็จ
หลังจากนั้น Fnatic ก็ยังคงฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในศึก ESL One Birmingham 2020 – Online: Southeast Asia ด้วยการผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ก่อนที่จะย้ำแค้น BOOM Esports ในรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 3-1
เรียกได้ว่าในปีนี้ Fnatic เตรียมพร้อมที่จะไปโลดเเล่นใน The International 2020 มากเเต่ในช่วงเวลานั้นสถานการณ์โควิด กำลังมาเเรงทำให้งาน TI2020 ก็ต้องยกเลิกไปหลังจากนั้น Fnatic ก็เข้าสู่ยุคตกต่ำลง
ตกชั้นเเละนำไปสู่การยุบทีม
หลังจากนั้น 2 ผู้เล่นไทยก็ออกจากทีมไปทีมก็เริ่มที่จะลดระดับลงไปเรื่อยๆ เเม้จะได้มีโอกาสไปเล่นใน The International 2022 เเต่ ก็ทำได้เเค่อันดับ 13 เเถมต้นปีนี้ก็ฟอร์มย่ำเเย่ ในการเเข่งขัน DPC SEA 2023 Tour 1: Division I โดยที่ Fnatic จบอันดับที่ 8 ของการเเข่งขันทำให้ต้องตกชั้นไปอยู่ใน Division 2 ทำให้ไปสู่การประกาศยุบทีม โดยการเเข่งรายการสุดท้ายนั่นคือ BTS Pro Series Season 14: Southeast Asia โดยจบเป็นอันดับ 2 ของรายการ 2 เเพ้ Talon Esports ไป 3-0 เป็นการปิดตำนาน 12 ปีของ Fnatic ไปอย่างน่าเสียดาย
——————————————–
GAMESTALK BY INSIDE THE GAMES
คอลลัมน์โดย Wacther
ติดตามรีวิวเกมส์ และ อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ : INSIDE THE GAMES
