ก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่เหมาะ

นวลพรรณ อำลาจากวงการฟุตบอลทีมชาติ หลังจบภารกิจฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ฝรั่งเศส แล้วไปทำ การท่าเรือ เอฟซี เต็มตัว

มีเรื่องขบเหลี่ยมกับ สมาคมลูกหนังไทย บ้าง โดยเฉพาะประเด็น “ให้ VAR จบที่รุ่นเรา” ซึ่ง มาดามแป้ง เดินจ้วงซ้าย จ้วงขวา ส่วน สมาคมฯ พิงเชือกตั้งรับเหนียวแน่น

สำหรับการบริหารฟุตบอลชายทีมชาติไทย ในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฯ พยายามปรับระบบจากเดิมที่มีผู้จัดการทีม เป็น “มิดฟิลด์ตัวจ่าย” ก็เข้าสู่การบริหารของสมาคม เบิกได้ตามระบบ ระเบียบ

แล้วทำไมต้องเปลี่ยนมามีผู้จัดการทีมอีก

เรื่องนี้ชัดเจนในแถลงของสมาคมฯ แล้วว่า การเงินสะเทือนเพราะโควิด

ส่งทีมชาติไทย ไปแข่งต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายบานตะไท อย่างที่ไปคัดบอลโลกที่ยูเออี เห็นว่า หมดไป 20 ล้านบาท

ค่าลิขสิทธิ์ฝืดสนิท เงินบอลไทยไม่อู้ฟู่แบบเดิมแล้ว จะทำเท่อีกไม่ได้ ถึงเวลาต้องหา “ตัวช่วย”

ซึ่งตำแหน่งผู้จัดการทีมนี้ ก็อาจจะหมายถึงจ่ายเงินเดือนโค้ชด้วยก็ได้…อันนี้แล้วแต่ตกลงกัน

ถ้ามีใครสักคนมา ก็แบ่งเบาภาระไปได้เยอะ

ข่าวว่า สมาคมฯ พยายามเสาะหาอดีตผู้จัดการทีมหลายคน แต่ไม่ลงตัว จนสุดท้ายไปจบที่ “มาดามแป้ง”

ความเหมาะสมที่เป็น มาดามแป้ง อย่างแรกที่จะได้เลยคือ “กระแสบวก”

ด้วยบุคลิกของ นวลพรรณ ล่ำซำ น้อยคนนักที่จะไม่ชอบเธอ ยิ่งด้วยความเป็นผู้หญิง ดูอ่อนหวาน และแข็งกร้าวในตัวเอง

แค่ประกาศมา ก็เรียกเสียงเฮแน่นตึง

เงินทอง อย่ามาคุยกันดีกว่า ไม่รวยจริง และใจไม่ถึงจริง คงไม่ทุ่มทุนซื้อซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ การท่าเรือ กันทุกปี

ดังนั้น ตอบโจทย์ เต็มเปา ในเรื่อง “มิดฟิลด์ตัวจ่าย”

และปัจจัยสำคัญสุดที่ มาดามแป้ง มีคือเป็นมือประสาน 10 ทิศ มีแต่มิตร ไม่มีศัตรู

นวลพรรณ เข้ามาวงการฟุตบอลสมัย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฯ แต่สามารถเป็นสภากรรมการในยุค พล.ต.อ.สมยศ ได้ ทั้งที่อยู่คนละฟากฝั่ง

ไม่มีความเป็นขั้วใดขั้วหนึ่ง เข้าถึงทั้ง บุรีรัมย์, เมืองทอง, ชลบุรี ฯลฯ หรือแม้แต่ลีกล่าง ก็สร้างพันธมิตรไว้หลายสโมสร

เป็นสังกัดใหญ่ของนักเตะทีมชาติไทย ดังนั้น การเรียกนักเตะจากการท่าเรือ จะไหลลื่น นอกจากนี้ มาดามแป้ง ยังบอกว่า ได้จับเข่าคุยอีก 3 มหาอำนาจไว้แล้ว ทั้ง ระวิ โหลทอง(เมืองทอง), เนวิน ชิดชอบ(บุรีรัมย์), ปวิณ ภิรมย์ภักดี(บีจี ปทุม)

เตรียมดอกไม้ เดินสายกราบทุกสโมสร

ใครจะไม่กล้าให้ความร่วมมือ

ต้องยอมรับว่า ในเรื่องการขอตัวนักเตะ ที่ผ่านมามีกระแสเรื่องหยั่งเชิง ดูเชิง ของแต่ละทีม “ถ้าแกไม่ปล่อย ฉันก็ไม่ปล่อย” ผลเสียก็ตกอยู่กับทีมชาติ

นี่แหละ มาดามแป้ง จะมาประสานกับมหาอำนาจ

ความนิยมจากแฟน, เงินถึง, มือประสาน คือเหตุผลสำคัญ

ส่วนในมุมของ มาดามแป้ง ทำไมจึงมารับตำแหน่งทั้งที่งานล้นมือ เอาที่เรารู้ๆ ผู้บริหารเมืองไทยประกันภัย, การท่าเรือ, มูลนิธิมาดามแป้ง และอย่าลืม กับหน้าที่ ผอ.สื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ สยามไบโอไซเอนซ์

ภาพกว้างคือ มาดามแป้ง เป็นคนที่อินกับฟุตบอลจริงๆ ผมรู้สึกว่าเธอสนุกกับโลกใบนี้ สนุกกับการได้อยู่ท่ามกลางแฟนบอลที่หนุนหลัง

ผลที่ได้มาทดแทนจากการทุ่มทุน(ทั้งพลังกายและทรัพย์) แน่นอน สปอตไลท์ สาดจ้ายิ่งกว่าเดิม ถ้าทำดี จากที่ดังอยู่แล้ว ยิ่งดังกระหึ่ม ทว่าในทำนองเดียวกัน ถ้าทำไม่ถูกใจกระแสมหาชน ก็จะตีกลับแรงเช่นกัน

ขณะที่ประเด็นเรื่องการสร้างบารมี เพื่อบันไดต่อไป

สู่เวทีการเมืองไหม…มาดามแป้ง ตอบแข็งขัน ชัดเจนมาหลายครั้ง และย้ำอีกว่า “ไม่เอา”

งั้นสู่นายกสมาคมบอลไหม

…มาดามแป้ง ไม่ยืนยัน บอกว่าถึงเวลาค่อยว่ากัน

ไม่ตอบชัด แต่ไม่น่าจะตีความยาก

แถม นายกสมยศ ก็ท่าทีสนับสนุนด้วยซิ่.