ก่อนหน้านี้ก็ ส.ว.ลากตั้งกลุ่มนี้ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัครเป็นสมาชิกพร้อมเปิดตัวเป็น “แคนดิเดต” นายกฯ พรรค รวมไทยสร้างชาติ ไม่ทันไร นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ซึ่งก็ไม่รู้ประชาชนคนไหนมีส่วนร่วม ก็ออกมาตีปี๊บทันที กำลังศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ ปม 8 ปี ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ไม่ติดคำวินิจฉัย 2 ปีศาลรัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ว.ลากตั้ง นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ รับลูก เพราะ ป.ประยุทธ์ เป็นคนดี แต่โดนถล่มจมธรณีจึงเงียบไป
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเอาอีก นายเสรีออกมาตบหน้าคนไทยอีกหน ย้ำว่า คนที่ ส.ว.จะเลือกให้เป็นนายกฯ มีแค่ 2 ป. ไม่ ป.ประยุทธ์ ก็ ป.(พล.อ.) ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น ต่อให้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ได้แลนด์สไลด์ ก็ไม่สน ว่างั้นเถอะ ขณะ นายกิตติศักดิ์อ้างชาติต้องมาก่อน ไม่ใช่มาแล้วทำ “หน่อมแน้ม” นายวันชัย สอนศิริ บอก ส.ว.หลายคนไม่เอา “อุ๊งอิ๊ง” เพราะไม่มีภาวะผู้นำและประสบการณ์ รวมทั้งเป็นลูกนายทักษิณที่เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง มาเป็นนายกฯ บ้านเมืองจะไม่สงบ ถึงจะรวมเสียงข้างมากได้ ส.ว.ก็ไม่เอา แต่ส่วนตัว ถ้าพรรคใดได้เสียงข้างมาก แม้เป็น “อุ๊งอิ๊ง” ตนพร้อมโหวตให้
ก็ช่วยกันจำคำพูดนายวันชัยไว้ จะพลิกลิ้นทีหลังมั้ย
ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนโครงสร้าง ส.ว.ลากตั้งที่ไม่ “ยึดโยง” ประชาชนเลย เวลาพูดในสภา ก็เห็น ส.ว.ลากตั้งบอกว่า ตัวเองในฐานะตัวแทนประชาชนทุกที ไม่เห็นจะบอกในฐานะ “ตัวแทน 2 ป.” สักครั้ง แต่ความจริงเป็นเช่นไร ประชาชนรู้ทันนานแล้ว อย่าว่าเรื่องสำคัญอย่างเลือกผู้นำประเทศเลย แม้แต่หน้าที่พื้น ๆ ช่วยกลั่นกรองกฎหมาย เอาเข้าจริง สถิติที่ I Law รวบรวมได้ หากเป็นกฎหมายที่มาจาก ครม. หรือพรรครัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ., พ.ร.ก., พ.ร.ป. ก็จะได้รับเสียงหนุนจาก ส.ว.ท่วมท้นถึง 98%
ส่วนกฎหมายที่เสนอโดยประชาชน ต่อให้เข้าชื่อเป็น “แสน ๆ” ก็เขี่ยทิ้ง เช่นหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนอุตส่าห์รวบรวมชื่อด้วยความยากลำบากเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึง 13 ฉบับ แต่ผ่านแค่ฉบับเดียว คือ แก้กติกาการเลือกตั้ง เป็นบัตร 2 ใบ ส.ส.เขต 400 และปาร์ตี้ลิสต์ 100 ที่แก้ได้ ก็เพราะ พปชร.ก่อนแตก คิดว่าแก้แล้วจะได้เปรียบคู่แข่งก็เท่านั้น สูตรปาร์ตี้ลิสต์ยิ่งกว่าชัด มีคำสั่งจากทำเนียบฯ แก้จากหาร 100 เป็นหาร 500 แล้วกลับเป็นหาร 100 อีก เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า แก้ตามใจกันขนาดนี้
ส.ว.ลากตั้ง 95% ก็ยังไม่เคยแตกแถว แล้วแต่ 2 ป. จะสั่งซ้ายหัน ขวาหัน ทั้งหมดนี้คือการทำงานของ ส.ว.ลากตั้งที่คลอดจากมดลูก คสช. โดยตรง ประชาชนและประเทศชาติได้อะไรบ้าง สาธุชนลองตรองดูเถอะ
กับพฤติกรรมล่าสุด มองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากหวังดับกระแส “แลนด์สไลด์เพื่อไทย” เป็นการส่งสัญญาณว่า ถึงฉันทามติประชาชนจะเลือกเพื่อไทยถึง 250 เสียง (ล่าสุด ไพศาล พืชมงคล อดีตผู้ช่วย รมต. พล.อ.ประวิตร เผยโพลฝ่ายความมั่นคงบอก เพื่อไทยจะได้ 300 เสียง) คะแนนที่เทให้เพื่อไทยก็จะเสียเปล่า ยังไง พรรค ส.ว.ก็ไม่เอา แล้วจะเลือกเพื่อไทย ทำไม?!?
บอกตรง ๆ ที่ว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เป็นหน้าใหม่ ประสบการณ์การทำงานไม่มาก ก็จริงเลย แถมฉายภาพ “เพื่อไทย” เป็นพรรคครอบครัว ไม่ใช่สถาบันอีก เพราะผู้นำต้องเป็นชินวัตรเท่านั้น ซึ่งหาก “อุ๊งอิ๊ง” คิดจะยึดเส้นทางการเมืองจริง สั่งสมประสบการณ์สักสมัยสองสมัย ก็ยังไม่สาย แม้ตอนนี้อุ๊งอิ๊ง ถือว่าเรียนรู้ได้เร็ว ติดดิน มีเสน่ห์ ไหวพริบตอบโต้ที่ผ่านมายังไม่พลาดก็ตาม แต่จะให้ดีเพื่อไทยสมควรเปิดโอกาสให้คนนอกชินวัตร เช่น เศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตเบอร์หนึ่ง จะลบภาพพรรคครอบครัวได้เยอะเลย ข้อสำคัญ ชื่อชั้น เศรษฐา ไม่ได้ขี้เหร่ด้วย
แต่นั่นล่ะ เมื่อ ส.ว.ลากตั้ง จงใจออกมาตบหน้าประชาชนถึงเพียงนี้ ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนสมควรตบหน้าสั่งสอน ส.ว.ลากตั้งและขบวนการที่อยู่เบื้องหลังคืน ด้วยการเทคะแนนให้ “เพื่อไทย แลนด์สไลด์ 376 เสียง” ปิดสวิตช์ ส.ว.ลากตั้ง ให้จงได้
——————
ดาวประกายพรึก
