ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ที่ส่งผู้สมัครครั้งแรกในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี “นาที รัชกิจประการ” เป็นแม่ทัพหญิง สามารถล้มผู้สมัครของ “ประชาธิปัตย์” อย่าง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ส.ส. 7 สมัย ส.ส.เขต 2 และ “สุพัชรี ธรรมเพชร” ส.ส.เขต 1 ได้สำเร็จ แบบที่คนของ ปชป. ไม่เคยคาดคิด ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 3 “นริศ ขำนุรักษ์” แห่งประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย “ป้ายแดง” ในขณะนี้ ชนะผู้สมัครของ “ภูมิใจไทย” อย่าง “ฉิวเฉียด” และแม้ว่าหลังจากที่ 2 ส.ส.ของ “ภูมิใจไทย” ทำหน้าที่เป็น ส.ส.ได้ระยะหนึ่ง และถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ใน ข้อหา “เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน” และถูกศาลพิพากษาให้พ้นจากการเป็น “ผู้แทนราษฎร” และถูก “ตัดสิทธิ” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
“พัทลุง” เป็นบ้านเกิดของ “นาที รัชกิจประการ” แม่ทัพใหญ่ของภูมิใจไทย และเป็น “ศรีภรรยา”ของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ “เจ๊เปี๊ยะ” ประกาศชัดว่า “ภูมิใจไทย” ต้องยกจังหวัด โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 ส่ง ภุชงค์ วรศรี อดีตประธานสภา อบจ.พัทลุง และอดีตผู้สมัคร นายก อบจ.พัทลุง ลงแข่งขัน ในขณะที่ “ประชาธิปัตย์” ส่ง “สุพัชรี ธรรมเพชร” ซึ่งสอบตกในครั้งที่แล้วลงสมัครเพื่อกู้ชื่อกู้ตำแหน่ง ส.ส.คืนอีกครั้ง ในขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคอื่น ๆ ยังไม่มีความชัดเจน
ส่วนเขต 2 เป็นเขตที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” เคยปักธงเป็น ส.ส. ถึง 7 สมัย ในสีเสื้อ “ประชาธิปัตย์” ก่อนที่จะซาโยนาระ ไปอยู่กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ “บ้านใหญ่” ที่เคยเป็นฐานเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน อย่าง “ตระกูลธรรมเพชร” ได้ถอนสมอไป “สนับสนุน” พรรครวมไทยสร้างชาติ โดย “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” นายก อบจ.พัทลุง รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และส่ง “เสี่ยเดี่ยว” นิติศักดิ์ ธรรมเพชร ลงสมัครในเขต 2 ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยส่ง “วรท เทิดวีระพงศ์” ลูกชายของ “ฉลอง เทิดวีระพงศ์” ส.ส.เจ้าของพื้นที่ผู้ล้ม “เสาโทรเลข” 7 สมัย อย่าง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” แต่ตนเองกลับถูกศาลตัดสินให้พ้นจากการเป็น ส.ส. ในข้อหา “เสียบบัตรแทนกัน” โดยเชื่อว่าคะแนนที่ “ฉลอง” เคยได้จะ “ส่งผ่าน” มายัง “วรท” ผู้เป็นลูกชาย ส่วน “ประชาธิปัตย์” ต้องการกู้หน้าชิงพื้นที่คืน ส่ง ดร.ปิยกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บุตรสาวของ สานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีตนายก อบจ.พัทลุง ลงสู้ศึกครั้งนี้ สำหรับเขตนี้ “บ้านใหญ่” ของตระกูลธรรมเพชรประกาศชัดเจนว่า “เสี่ยเดี่ยว” ต้องได้ ส.ส.
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 เลือกตั้งครั้งนี้ “นริศ ขำนุรักษ์” มีตำแหน่ง “รมช.มหาดไทย” พ่วงท้ายมาด้วย จึงยิ่งทำให้ต้องรักษาเก้าอี้ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ให้ได้ ในขณะที่ “นาที รัชกิจประการ” แม่ทัพหญิงของภูมิใจไทย ก็ประกาศที่จะล้มแชมป์ในเขต 3 ให้ได้ โดยส่ง “ประเทือง มนตรี” ซึ่งมีศักดิ์เป็น “พี่ชาย” ลงชนกับ “นริศ” ในเขตนี้ สำหรับ “รวมไทยสร้างชาติ” ส่ง “ปรัชญา นวลเปียน” หลานชายของ “สมคิด นวลเปียน” อดีต ส.ส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีฐานคะแนน เดียวกับ “นริศ” ลงสมัคร โดยหวังใช้ความเป็น “บ้านใหญ่” ของ “ตระกูลธรรมเพชร” ในการสร้างคะแนนเสียง
“ประชาธิปัตย์” ต้องการกู้ศักดิ์ศรี และเอาที่นั่งคืนมาให้ได้ และ “นริศ” ยังเป็น ส.ส.หนึ่งเดียวที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคในภาคใต้ที่ต้องยืนหยัดกู้ชื่อประชาธิปัตย์กลับคืนมา ส่วน “ภูมิใจไทย” นั้น “พัทลุง” คือ “บ้านเกิด” คือ “ฐานที่มั่น” ของ “เจ๊เปี๊ยะ” ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของภาคใต้ที่แพ้ในจังหวัดอื่นได้ แต่ห้ามแพ้ที่ “พัทลุง” และ “รวมไทยสร้างชาติ” ถ้าบ้านใหญ่ซึ่งส่งลูกชายเป็นเดิมพัน หากเกิดแพ้ขึ้นมาย่อมเป็นการลบลายเสือ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ จ.พัทลุง แม้จะมี ส.ส.เพียง 3 คน แต่การ “สัประยุทธ์” ที่นี่จะเต็มไปด้วยความ “ดุเดือด” ทั้งด้านการใช้ “อิทธิพล บารมี” พร้อมแล้ว
นี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แต่ละพรรคแพ้ไม่ได้ ก็ต้องดูกันว่าสนามเลือกตั้งครั้งนี้ใครจะคว้าชัยชนะ.
ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล