ไปดูมุมมองว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม จากพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เผยโฉมแล้วพูดเรื่องการพัฒนาพื้นที่ตนเอง เช่น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม 5 สมัย อดีตสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด แต่เลือกตั้งครั้งนี้ย้ายไปอยู่กับ “ลุงตู่’ พรรครวมไทย
สร้างชาติ บอกว่าปัญหาของ จ.สมุทรสงคราม ที่อยากจะแก้ไขคือเรื่อง โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่มีพื้นที่น้อยทำให้คับแคบ อีกทั้งการจราจรติดขัด จึงมีความคิดจะย้ายไปอยู่ที่ราชพัสดุ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง ซึ่งมีพื้นที่ 200 กว่าไร่ พร้อมตั้งสถานรับเลี้ยงคนชราภาคกลางวัน ลูกหลานที่ไปทำงาน ไม่มีใครดูแลพ่อแม่ก็พาไปฝากไว้ พอตกเย็นเลิกงานก็มารับกลับไป นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเชื่อมต่อทางรถไฟจากวงเวียนใหญ่-กรุงเทพฯ จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม ที่มีอยู่แล้วไปยัง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จะทำให้สมุทรสงครามเป็นเมืองเปิด เป็นเมืองเศรษฐกิจ เป็นเมืองท่องเที่ยวยิ่งขึ้น อีกทั้ง จะทำให้การเดินทางจาก
สมุทรสงคราม ไปกรุงเทพฯ โดยทางรถไฟใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่า ๆ ประหยัดทั้งเงินและเวลา
นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมานับสิบปีแล้วที่ จ.สมุทรสงคราม ไม่มีการพัฒนาอะไรที่เด่นชัด ซ้ำร้ายช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องกลับถดถอยลง พ่อค้าแม่ค้าต่างบ่นกันว่าค้าขายลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อน้อย ข้าวของค่าไฟค่าครองชีพทยอยแพงขึ้น จากที่เป็นเมืองท่องเที่ยวกลับเงียบเหงา ชาวประมงประสบปัญหาจากกฎระเบียบที่เคร่งครัด สินค้าการเกษตรของชาวสวน เช่น ส้มโอ มะพร้าว ราคาตกต่ำ จากเมืองที่มีความเป็นธรรมชาติก็มีปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 มีน้ำเสียจากฟาร์มหมู จากโรงงานน้ำตาลใน จ.ราชบุรี ปล่อยลงมาแม่น้ำแม่กลองอยู่บ่อยๆ ตนเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองและพรรคก้าวไกล จึงอาสาเป็นตัวแทนพ่อแม่พี่น้องมาเป็นปากเสียงเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
นายธนธัส ขุนนุช ว่าที่ผู้สม้คร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า จะเน้นไปที่เรื่องเกษตรกรรมและประมง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของจังหวัด และเป็นอาชีพส่วนใหญ่ของคนสมุทรสงคราม ปัจจุบันมีความเดือดร้อนที่ต้องแก้ไขมากมาย เราจะชูนโยบายอุดหนุนกลุ่มประมงท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนกลุ่มละ 100,000 บาทต่อปี ส่วนปัญหาความเดือดร้อนประมงพาณิชย์จากที่เราต้องปฏิบัติตาม IUU เพื่อสร้างความสมดุลในการแก้ไขอย่างเป็นธรรมจากการปลดล็อกตรงนี้ขึ้นอยู่กับสากลและนานาประเทศ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายนมโรงเรียน 365 วัน จะทำให้เด็กได้รับโภชนาการที่ดี เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองช่วยลดภาระของพ่อแม่และผู้ปกครอง อีกทั้งได้ช่วยเกษตรกรโคนมอีกด้วย
นายนิทรารัตน์ แพทย์วงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคไทยสร้างไทย บอกว่า ตนมองปัญหาตลาดร่มหุบ ที่แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาดูรถไฟวิ่งเข้าออกและผ่านตลาดแม่กลองที่มีพ่อค้าแม่ค้าตั้งวางแผงขายของทั้งริมทางและบนรางรถไฟกว่า 200 ร้าน จนกลายเป็น “Amazing Thailand” มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ว่าควรจะมีมาตรการความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย การติดตั้งลำโพงให้ได้ยินตลอดทางรถไฟบริเวณตลาดร่มหุบที่มีความยาวประมาณ 120 เมตร เพื่อประชาสัมพันธ์เสียงตามสายเป็นภาษาไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ให้นักท่องเที่ยวทราบว่าอีกกี่นาทีขบวนรถไฟจะเข้าหรือออกจากชานชาลา และควรปฏิบัติตนอย่างไร หากจะถ่ายภาพจะต้องอยู่บริเวณใดจึงจะปลอดภัย เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีนักท่องเที่ยวถูกรถไฟเฉี่ยวได้รับบาดเจ็บ เพราะไม่เข้าใจภาษาที่แม้ค้าพูดเตือนแล้วหลายราย
นายดิเรกฤทธิ์ เล็กสกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคเสรีรวมไทย บอกว่า จากดินน้ำสู่ความมั่งคั่งมั่นคงและยั่งยืน ด้านเศรษฐกิจ (economic sustainability) ของประชาชน จ.สมุทรสงคราม และประเทศไทย โดยส่งเสริมการแปรรูปผลิตผลจากภาคเกษตร ประมง สร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่ตลาดโลกจากวัตถุดิบ เช่น มะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่ กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ ผ่านการวิจัยและพัฒนา (R&D , research & development) เข้าสู่เทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร สร้างนวัตกรรม ร่วมกับการตลาดและ soft power จนถึงการขายสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ กระตุ้นและสร้างความต้องการซื้อ demand เกษตรกรและชาวประมงมีรายได้ โรงงานมียอดผลิตมีการจ้างงาน ตลอดจน supply chain ทั้งระบบมีเงินหมุนเวียนเข้ามามากขึ้น
นายนพดล ธนิกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า เนื่องจากปัจจุบันสมุทรสงครามเป็นเมืองแห่งการท่อง
เที่ยว แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน้อยไปหน่อย จึงจะผลักดันและพัฒนาบ้านทุ่งหิน ต.ยี่สาร อ.อัมพวา ซึ่งมีพื้นที่ 2,623 ไร่ นอกจากเป็นสถานที่กักเก็บน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของ จ.สมุทรสงคราม และจะผลักดันสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่สามารถเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น หอชมวิว สกายวอล์ก สะพานทางเดินลอยฟ้า ส่วนปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำนั้นจะเข้าไปดูแลเป็นปากเสียงให้ชาวสวน เข้มงวดต่อการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศให้ตรงตามโควตาจริง ๆ และให้ความสำคัญกับมะพร้าวในประเทศก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนด้านประมงนั้น เนื่องจากสมุทรสงครามมีเรือประมงพื้นบ้านเป็นจำนวนมาก แต่เรือเหล่านี้ไม่มี GPS นำทาง เรือเล็กเหล่านี้ต้องการแสงไฟที่เป็นสัญญาณคือ ประภาคาร กระโจมไฟนำทางเพื่อนำเรือกลับเข้าฝั่ง เช่น เรือหาปลาทู ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสมุทรสงคราม และกลุ่มผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่ เป็นต้น
สุดท้าย น.ส.ณิชาภา โกวิทานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคเพื่อไทย บอกว่า ตนมองเห็นความยากลำบากในการทำมาหากินของพ่อแมพี่น้องประชาชนที่ต้องดิ้นรนแบบปากกัดตีนถีบ และต้องประหยัดกับการใช้จ่าย เสียงบ่นว่ายุคนี้เป็นยุคที่ข้าวของแพงและค้าขายลำบากที่สุด เศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอาชีพหลักของชาว จ.สมุทรสงคราม เช่น ภาคประมงที่มีปัญหาเรื่อง IUU จนทำให้บางคนต้องขายเลิกกิจการแล้วหันไปประกอบอาชีพอื่นพร้อมกับหนี้สินที่ติดตัวไป อีกอาชีพหนึ่งที่ไม่เคยลืมตาอ้าปากได้ คือ ชาวสวนมะพร้าว ที่ราคาตกต่ำตลอดปี ขณะที่ราคาปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชกลับแพงขึ้นเป็นเท่าตัว อาชีพทำนาเกลือก็เช่นกัน ขณะที่การท่องเที่ยวต้องประสบกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ซึ่งตนมองว่าเมื่ออาชีพเหล่านี้มีปัญหาก็ทำให้การใช้จ่ายในจังหวัดสะดุดลงทันที นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังอาชีพที่ต่อเนื่องอีกด้วย.
มานพ จันทร์ฤทธิ์