จัดเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่สาวกจักรวาล “มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe หรือ MCU)” หลายคนรอคอยอย่างใจจดจ่อ สำหรับ “โลกิ (LOKI)” ซีรีส์เดี่ยวของวายร้ายเจ้าเสน่ห์ ที่ขโมยหัวใจแฟน ๆ จาก “มาร์เวล สตูดิโอ” ออกฉายทาง “ดิสนีย์พลัส (Disney+)” โดยยังคงได้ ทอม ฮิดเดิลสตัน นักแสดงหนุ่มหล่อ ขวัญใจแฟน ๆ กลับมาสวมบท “โลกิ” เทพแห่งความชั่วร้ายและการหลอกลวง (God of Mischief) อีกครั้ง ร่วมด้วย โอเวน วิลสัน ในบท “มอร์เบียส เอ็ม. มอร์เบียส” เจ้าหน้าที่ตำรวจกาลเวลา ที่รับหน้าที่ควบคุมภารกิจ ร่วมด้วย กูกู มบาธา-รอว์, โซเฟีย ดิ มาร์ติโน, วุนมี โมซาคุ และ ริชาร์ด อี แกรนต์ ผลงานผู้กำกับ เคท เฮอร์รอน และได้ ไมเคิล วัลดรอน ผู้เขียนบท “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” มารับหน้าที่เขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ทั้ง 6 ตอนจบ โดยมีผู้อำนวยการสร้าง นำโดย เควิน ไฟกี, หลุยส์ ดีเอสโพซิโท, วิคตอเรีย อลอนโซ, สตีเฟน โบรวซาร์ด, เคท เฮอร์รอน, ไมเคิล วัลดรอน รวมทั้ง ทอม ฮิดเดิลสตัน
กับเรื่องราวที่เล่าต่อจากเหตุการณ์ใน “Avengers: Endgame” เมื่อ “โลกิ” น้องชายบุญธรรมของเทพเจ้าสายฟ้า “ธอร์” ได้ฉกเอา เทสเซอร์แรคต์ (TESSERACT) หนึ่งใน 6 อินฟินิตี้ สโตน ที่มีขุมพลังมหาศาลไป ระหว่างที่ทีม “อเวนเจอร์ส” ได้ย้อนเวลามารวมมณีเพื่อต่อสู้กับ “ธานอส” นั่นทำให้เส้นเวลาในโลกความเป็นจริงยุ่งเหยิง ร้อนถึงหน่วย “ควบคุมกาลเวลา (Time Variance Authority หรือ TVA)” ที่ทำหน้าที่คอยตรวจสอบดูความเรียบร้อยและความเป็นไปของเส้นเวลา ต้องมาจัดการจับ “โลกิ” ไปพิพากษา ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกยื่นข้อเสนอกึ่งบังคับโดย “มอร์เบียส” ให้ร่วมมือกับองค์กร TVA เพื่อซ่อมแซมเส้นเวลาที่เสียหาย พร้อมล่าอาชญากรตัวร้าย
ซึ่งหลังจากเปิดตัว EP. 1 ที่ชื่อ ‘Glorious Purpose’ ไป ก็ได้รับเสียงตอบรับท่วมท้น โดยในเว็บ Rotten Tomatoes ก็คว้ามะเขือเทศสด ด้วยคะแนน 100% (ณ วันที่ 11 มิ.ย. 64) ส่วนคะแนนซีรีส์โดยรวม ซึ่งโหวตโดยนักวิจารณ์ ณ ตอนนี้อยู่ที่ 95% ได้ค่าเฉลี่ย 7.88/10 และได้คะแนนถังป๊อปคอร์น จากคนดูทั่วไป อยู่ที่ 94% นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ในแง่บวก ทั้งการเล่าเรื่อง ความแปลกใหม่ และการเปิดจักรวาลขยายกว้างออกไป การได้ลงลึกสำรวจจิตใจและตัวตนของ “โลกิ” ซึ่งหนุ่ม ทอม ฮิดเดิลสตัน ยังคงถ่ายทอดความเป็น “โลกิ” ได้อย่างยอดเยี่ยมและมีเสน่ห์ รวมถึงเคมีของ “โลกิ” และ “มอร์เบียส” ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวด้วย
“ทอม ฮิดเดิลสตัน” พูดถึงการได้กลับมารับบท “โลกิ” อีกครั้ง
“ผมทั้งดีใจและเซอร์ไพร้ส์ที่ได้กลับมารับบทนี้ แล้วก็ตื่นเต้นด้วยกับไอเดียของการสร้างซีรีส์โลกิ เพราะถ้าคุณได้ดู Avengers: Infinity War คุณก็ต้องรู้สึกว่ามันน่าจะถึงบทสรุปแล้วสำหรับเรื่องราวของคาแรกเตอร์นี้ แต่โลกิยังกลับมามีบทต่ออีกนิดใน Avengers: Endgame แล้วก็หายตัวไป ซึ่งนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้ โลกิยังไปได้อีกหลายที่ และมีอีกหลายความเป็นไปได้ที่เราจะได้ดู โดยเฉพาะเรื่องของการที่โลกิต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย และทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า ตัวเขาจริง ๆ คือใครกันแน่ ผมคิดว่าตรงนี้น่าตื่นเต้นมาก และผมแฮปปี้มากที่ได้กลับมาเล่นบทนี้อีกครั้งครับ”
ไมเคิล วัลดรอน หัวหน้าทีมเขียนบทพูดถึงแรงบันดาลใจในการเขียนซีรีส์เรื่องนี้
“ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้มาเขียนบทเรื่องนี้ เพราะโดยส่วนตัว โลกิเป็นคาแรกเตอร์ที่ผมชอบที่สุดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลอยู่แล้ว สิ่งที่ผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะต้องมีอยู่ในเรื่องนี้ก็คือเรื่องการเดินทางข้ามเวลา รวมถึงการได้เขียนถึงความสนุกกับความโกลาหลที่มาจากตัวโลกิ ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนเขียนบทอย่างผม นอกจากนี้ ผมบอกได้ว่า ส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการเขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ มาจากงานของผู้กำกับอย่าง “เดวิด ฟินเชอร์” โดยเฉพาะหนังเรื่อง Zodiac หรือ Se7en รวมไปถึงหนังอย่าง The Silence of the Lambs หนังเหล่านี้ถูกพูดถึงบ่อยมากเวลาที่ทีมเขียนบททำงานกัน และทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ซ่อนความเป็นหนัง ทริลเลอร์อาชญากรรมเอาไว้ ต้องลองไปติดตามกันดูครับว่าจะเป็นอย่างไร”
สำหรับแฟน ๆ ชาวไทย รอชมซีรีส์ “โลกิ” ได้ทาง “ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ (Disney+ Hotstar)” ที่จะเปิดในไทย วันที่ 30 มิ.ย นี้
