แต่ด้วยความที่เมืองไทยมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน และฝนตก ทำให้ “นักบิด” มีปัญหาหมวกกันน็อกเหม็นอับ เกิดเชื้อรา แบคทีเรียสะสม ส่งผลกระทบต่อโรคทางผิวหนังบริเวณศีรษะ ผมร่วง ศีรษะล้าน ตามมา

ล่าสุด “นักศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีที่ 1 วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ” ทำเจ๋ง พัฒนา “เครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัย เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสาร” ออกมาช่วยแก้ปัญหาเชื้อโรคสะสมในหมวกกันน็อก โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ล่าสุดได้นำมาเปิดตัวรุ่น 2 ในงานกิจกรรม “หยุด
สูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้” ครั้งที่ 9 ซึ่งจัดโดย คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ สสส. และ กรมควบคุมโรค และภาคีเครือข่าย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา

โดย “นายวุฒิธนา” ผู้พัฒนาเครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัยฯ เล่าที่มาที่ไปของการพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวว่า เริ่มมาจากแนวคิดที่อยากจะให้นักศึกษาในวิทยาลัยมีการสวมหมวกกันน็อกให้แพร่หลาย และสวมเป็นประจำ ด้วยความสมัครใจ ไม่ถูกบังคับ เดิมพัฒนาขึ้นเป็นเครื่อง 2 ชั้น และมีการนำไปทดลองใช้ในกลุ่มผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและส่งโครงการเข้าประกวดที่ สสส. และได้งบประมาณมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็นำมาพัฒนาเป็นเครื่องให้เล็กลง ใช้งานง่ายเป็นแบบหยอดเหรียญ มีความปลอดภัยมากขึ้น

“เครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัยด้วยระบบโอโซน มีพัดลม 3 ตัว พอหยอดเหรียญลงไป กดการทำงานที่ 2 นาที พัดลม 2 ตัว คือข้างหลัง 1 ตัว ข้างใต้ 1 ตัว จะทำการดูดอากาศเข้ามาเพื่อทำปฏิกิริยากับโอโซน พอทำงานครบ 2 นาที แล้ว อีก 20 วินาทีสุดท้าย พัดลมอีก 1 ตัวจะทำการดูดอากาศออก ซึ่งจากการทดลองทางจุลชีววิทยา โดยซื้อเครื่องตรวจจากแล็บมาเอง และมีอาจารย์ทางด้านวิทยาศาสตร์คอยให้คำปรึกษา ทดสอบประเมินผลการทำงานก่อนใช้กับหลังใช้ พบว่าสามารถฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรียได้ถึง 99%”

นายวุฒิธนา ระบุว่า ปัจจุบันได้มีการตั้งไว้บริการที่วินมอเตอร์ไซค์ 2 แห่งและที่วิทยาลัยอีก 1 แห่ง ซึ่งที่วินฯ ได้รับผลตอบรับดีมาก มีคนหมุนเวียนมาใช้จำนวนมาก เรื่องการทำความสะอาดและการซ่อมบำรุงยังต้องให้ทีมผู้พัฒนาเป็นคนรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ทางทีมยังมีการพัฒนาเรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถใช้ และบำรุงรักษาได้เอง

“ก่อนหน้านี้เราเคยนำเครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัยเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะของผู้ขับขี่จักรยานยนต์และผู้โดยสารไปจัดบูธ และได้แนะนำเครื่องนี้ต่อท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วย ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ก็ให้กำลังใจ และบอกว่าหากทำเครื่องใหม่เสร็จแล้ว และมีคุณภาพดี ให้ส่งไปให้ท่านดู ถ้าโอเค ก็จะสั่งไปติดตั้ง 10 เครื่อง”

ขณะที่ “นายดำรงฤทธิ์ จิตถาวรมณี” ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จุดรับผู้โดยสารระหว่างทางกรมควบคุมโรค และกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เป็นอันรู้กันดีในหมู่ของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ การสวมหมวกกันน็อก เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้มีปัญหาหมักหมมของเชื้อโรคเชื้อราต่าง ๆ เกิดกลิ่นอับ คันหนังศีรษะ บางคนถึงขั้นผมร่วง ต้องพบหมอ ซื้อยามาทา

“เมืองไทยอากาศร้อน เหงื่อออกมาก ทำให้หมวกกันน็อกมีกลิ่นอับ คันศีรษะ ผมต้องมีหมวกกันน็อกไว้หลายใบไว้สับเปลี่ยนอันไหนที่ไม่ได้ใช้ก็จะนำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ แต่ปัญหาคือบางครั้งไม่มีแดด ยิ่งหน้าฝนยิ่งลำบากหมวกจะมีความอับชื้นมาก เพราะฉะนั้นถ้ามีเครื่องหยอดเหรียญอบฆ่าเชื้อในหมวกกันน็อกได้ผมยินดีใช้บริการเลย เพราะประหยัดเวลาและดีต่อสุขภาพหนังศีรษะ”.

อภิวรรณ เสาเวียง