ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่กดดัน หลายคนจึงเลือกหน้าที่การงานมาก่อน ส่วนที่เลือกครอบครัวและก้าวเข้าสู่บทบาทของ Working MOM ก็ต้องเก่งต้องแกร่งทั้งในบ้านและนอกบ้าน
“พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล” ผู้อำนวยการศูนย์ Jin Wellness โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันและยังเป็นคุณแม่ลูกสาม ระบุว่า การดูแลสุขภาพก่อนป่วยเป็นสิ่งสำคัญ คนเป็นแม่ในปัจจุบันต้องดูแลตัวเองให้ครบทั้ง 3 ด้าน คือ ร่างกาย จิตใจ และ จิตวิญญาณ
โดยเฉพาะคุณแม่ที่อยู่ในช่วงของวิกฤติวัยกลางคนนอกจากการดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง ตรวจสุขภาพทุกปี เฝ้าระวังโรคภัยไข้เจ็บไมว่ ่าจะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิต โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ดูแลเรื่องของจิตใจ เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ ฯลฯ ส่วนที่นับว่ายากที่สุดคือ ด้านจิตวิญญาณ
ทั้งนี้ คำว่าวิกฤติวัยกลางคน คือกลุ่มคนอายุ 35-50 ปี ที่มักเป็น Sandwich Generation ที่ต้องรับมือกับภารกิจในบ้าน ต้องเลี้ยงดูลูก ดูแลพ่อแม่ รวมทั้งดูแลสามี ทำให้รู้สึกเหมือนถูกบีบอัดจากทุกด้านจนกลายเป็นความเครียดจนส่งผลให้นอนไม่หลับ มีปัญหาสุขภาพ จนถึงปัญหาในครอบครัว
หลายคนเมื่อเป็นแม่จะมีความตั้งใจเป็นแม่ที่ดีที่สุดจนเกิดความคาดหวังต้องการให้ลูกเก่ง มีความเป็นเลิศกลับกลายเป็นการสร้างความกดดันให้กับลูกจนเกิดบาดแผลในใจ กลายเป็นคนเก็บกดเป็นโรคซึมเศร้าจนถึงกับเลือกเดินเส้นทางผิดก็มี
“อยากให้แม่ดูแลตัวเองก่อนทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อเติมเต็มตัวเองพร้อมแล้วจึงจะสามารถไปดูแลคนรอบข้างได้ โดยไม่ปล่อยคำพูดที่จะไปทำร้ายคนอื่นจนกลับมารู้สึกผิดทีหลัง”
โดยแนะนำสัญญาณเตือนก่อนเกิดโรคเรื้อรัง 6 กลุ่มหลัก คือ
- 1. อาหารไม่ย่อย ขับถ่ายไม่สะดวก กรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ถ่ายออกมามีกลิ่นเหม็นเน่า ปวดท้องเรื้อรัง
- 2. มีปัญหาการนอน เช่น นอนกระสับกระส่าย ฝันวุ่นวาย ตื่นมาปัสสาวะเวลากลางคืนบ่อยครั้ง
- 3. ตื่นนอนมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียเรื้อรัง
4. ปวดตามตัว ไมเกรน ตึงคอบ่าไหล่ ปวดหลัง ปวดข้อเรื้อรัง
5. หน้าตาผิวพรรณไม่ผ่องใส มีฝ้า มีกระ ผมร่วงมากกว่าปกติ
6. อารมณ์แปรปรวน เครียด โมโหร้าย วิตกกังวล ซึมเศร้า
สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณความไม่สมดุลของร่างกายที่บ่งบอกว่าคุณแม่ควรได้รับการตรวจเช็กและดูแลตัวเองก่อน เพราะเมื่อใดที่คุณแม่พร้อม ไม่เพียงสามารถดูแลลูกและครอบครัวให้มีความสุข แต่พลังงานที่มีอยู่เต็มเปี่ยมนั้นจะเหนี่ยวนำสิ่งต่างๆ รอบข้างให้ดีขึ้นเช่นกัน
ที่สำคัญคือ คุณแม่ที่แข็งแรงทั้งกายใจสามารถไปดูแลคนอื่นรอบข้างได้อีกเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพัน เป็นการขยายพลังงานดี ๆ ส่งต่อไปให้กับผู้อื่นอีกทอดหนึ่งได้ ดังนั้น หากคุณแม่ท่านไหนอยู่ในภาวะอารมณ์เหล่านี้สามารถเข้ารับการปรึกษาจากสถานพยาบาลได้.
อภิวรรณ เสาเวียง