วันนี้บรรดานายตำรวจ ระดับ “รอง ผบก.-ผกก.”ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้าย คงได้ฤกษ์ไปปฏิบัติหน้าที่วันแรกตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประกาศช่วงกลางเดือน ม.ค. 66 ที่ผ่านมา หลังจากต้องเจอโรคเลื่อนจาก วาระประจำปี กลายเป็น โยกย้ายข้ามปี คงเหลือตำแหน่งระดับ “รอง ผกก.-สว.” ต้องรอลุ้นคิวต่อไป

บรรดากองเชียร์ของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งสวมหมวก ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงนั้น ก่อนนี้คงคาดหวังว่าจะเห็นอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนแปลงดีขึ้นในยุทธจักรสีกากี เพราะหลังรัฐประหารยึดอำนาจเป้าหมายใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศชาติ ขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น แก้ปัญหาขัดแย้งในชาติ

องค์กรตำรวจเป็นหน่วยงานจะถูกปฏิรูปอันดับแรก ๆ เวลาผ่าน 8 ปี กำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 9 แม้จะได้ ...ตำรวจแห่งชาติ พ.. 2565 (ฉบับใหม่) เพิ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 17 ต.ค. 65 ปัญหาในวงการตำรวจยังหมุนวนอยู่รูปแบบเดิม

แค่เพียงการแต่งตั้งโยกย้ายตามวาระตามวงรอบของทุก ๆ ปี แต่ของตำรวจไม่เหมือนเหล่าทัพอื่น นอกจากเจอ โรคเลื่อน บ่อย ๆ พอคำสั่งประกาศออกก็ยังมีสารพัดปัญหาตามมาอีก ลองไปไล่ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 65 แต่งตั้งโยกย้ายระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบก. ก็ถึงขั้นเจอหมูไม่กลัวน้ำร้อน บุกไปยื่นฟ้องศาลปกครอง สุดท้ายที่ประชุม ก.ตร. ก็ต้องคืนความชอบธรรม แต่งตั้งให้ขึ้นเป็น ผบช. ในวาระนอกฤดู

จากระดับ นายพลสีกากี ขยับลงมาระดับ ผกก. ที่คำสั่งเพิ่งประกาศไปหมาด ๆ มีผลวันที่ 1 ก.พ. 66 หลังคำสั่งเผยแพร่ออกมาไม่ทันไร ภาพเดียวทำเอาสั่นสะเทือนยุทธจักรสีกากี สื่อตีแผ่ภาพ นายตำรวจตบเท้านำพวงมาลัยใส่พานไปไหว้นักการเมือง ถึงจะชี้แจงว่าเป็นเพียงแค่มาสวัสดีปีใหม่เท่านั้น แต่ในขณะที่ “ผกก.” นักสืบมือดี ของ บช.น. รอบปี 2564-65 มีผลงานนำลูกน้องกวาดล้าง จับกุมคดียาเสพติดระดับบิ๊กลอต,ผู้ต้องหาคนสำคัญ ไม่เว้นแม้จับลูกน้องตู้ห่าว เครือข่ายทุนจีนสีเทา จนได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในการจับกุมยาเสพติด การสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายสำคัญ ของ บช.น. ประจำเดือน ต.ค. 65

ถึงจะมุ่งมั่นตั้งใจอุทิศตนทำงานอย่างเต็มความสามารถ ใครจะไปเชื่อว่า ผกก.นักสืบฯ ท่านนี้ จะถูกสั่งย้ายชนิดเตะโด่งออกนอกหน่วย จากกรุงเทพมหานคร ให้ไปประจำโรงพักใน อ.บ้านเดื่อ จ.ชัยภูมิ นอกจากกลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในยุทธจักรสีกากี แม้กระทั่ง พล.ต.อ.วินัย ทองสอง (นรต.32) อดีตรอง ผบ.ตร. ปัจจุบันเป็น นายกสมาคมตำรวจ ทนไม่ไหว ต้องขอปรึกษาหารือ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (นรต.38) ผบ.ตร. กระทั่งวันที่ 27 ม.ค. 66 จึงมีคำสั่ง ตร.ที่ 51/2566 เปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจโดยใช้เหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตาม ม.178 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจฯ พ.ศ. 2564 ทำให้ ผกก.นักสืบฯ ได้โยกไปเป็น ผกก.ฝสต.1 กต.9 จเรตำรวจฯ

ช่วงนี้ยังเหลือคำสั่ง ระดับ รอง ผกก.-สว. (วาระประจำปี 2565)โดยให้ออกคำสั่งพร้อมกัน 31 ม.ค. 66 มีผลใช้บังคับ 10 ก.พ. 66 ไม่รู้จะมีควันหลงแอบสอดไส้มารูปแบบไหนโผล่ให้เห็นอีก ทั้งที่หัวใจสำคัญของการพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายตำรวจที่ถูกย้ำมาตลอด ต้องคำนึงถึง อาวุโสและความรู้ความสามารถ ประกอบกันด้วยทุกครั้ง

เรียกว่ายุทธจักรสีกากีที่อยู่ในการกำกับดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงนี้มีสารพัดปัญหาใหญ่ ๆ เกิดขึ้นรายวัน จนไม่รู้ว่าเข้ามาปฏิรูปไปทิศทางไหน? ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ อุตส่าห์ไปขึ้นเวทีปราศรัยใน จ.ชุมพร ขออยู่ต่ออีก 2 ปี ย้ำด้วยว่า “ทำงานมาหลายปี ไม่ลืมคำสัญญาว่า จะพลิกโฉมประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้โดยเร็วภายใน 2 ปี!!”

————————-
เชิงผา