สามเหลี่ยมดินแดง สัปดาห์ก่อนกลายเป็นสมรภูมิไปแล้ว
กลุ่มโจ๋ป่วนเมือง หวังว่าไม่ใช่กลุ่มเดียวกับผู้ชุมนุมหรือถ้าใครกล้าบอกว่าใช่ บอกมาที นัดกันมาทุกเย็น ไม่มีข้อเรียกร้องอะไร แต่ต้องการมาไขว้กับตำรวจปราบจลาจลที่ดูแลแถวนั้นโดยเฉพาะ ที่เต็มไปด้วยประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ พลุ กับรถน้ำแรงดันสูง กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา
เย็นวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม เวลา 17.20 น. ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงที่อยู่บริเวณกรมดุริยางค์ทหารบก ว่า ให้หยุดการกระทำ ขอให้เชื่อฟังตำรวจที่เตือนด้วยความหวังดี หากไม่เชื่อฟังและคุกคามต่อตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อป้องกันทรัพย์สินของทางราชการ บ้านเรือนประชาชน และตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่
วิธีการนี้ไม่เป็นผลดีกับใคร ขอให้กลับบ้าน ถือว่าพี่ ๆ ตำรวจขอร้อง พร้อมระบุว่า นี่เป็นเสียงวิงวอนของตำรวจ ขอให้น้อง ๆ เดินทางกลับตอนนี้ยังทัน ขอให้ไปต่อสู้ในทางที่ถูกต้อง การต่อสู้แบบนี้ไม่ดีกับใคร
ขอร้องและวิงวอนขนาดนี้ ฟังซะที่ไหน ทั้งพลุ ประทัดยักษ์ปลิวสวนกลับไปในทันที แถมพยายามเข้าประชิดอีก ตำรวจเลยโต้ตอบโดยใช้รถจีโน่ฉีดน้ำให้ถอยกลับไป
ไขว้กันไปมาเป็นระยะ จน 18.15 น. ตำรวจปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็วทั้งรถตู้และรถจักรยานยนต์ลงจากทางด่วนดินแดงจู่โจมปิดล้อมจับกุม ก๊วนป่วนเมืองทิ้งจักรยานยนต์หนีกันอลหม่าน
ช่วงค่ำ ๆ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุมว่า กลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรมที่แยกคอกวัวก่อนเคลื่อนมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 19.30 น. ได้ประกาศยุติการชุมนุม
กลุ่มทะลุแก๊สที่ดินแดง เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนให้ยุติ แต่กลับใช้ระเบิดปิงปอง หิน ประทัดยักษ์ ปาใส่ ตำรวจได้ปรับกลยุทธ์จนจับผู้ก่อเหตุความวุ่นวายได้ 35 คน ยึดรถจักรยานยนต์ 20 คัน อาวุธปืนและวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย ทรัพย์สินทางราชการ และเอกชนเสียหายส่วนหนึ่ง
คุณหมอท่านหนึ่งโพสต์ ขอลงแต่ข้อความ ไม่ใส่ชื่อคุณหมอละกันว่า ดงเส้นอนุสาวรีย์ชัยฯ รัศมีไม่เกิน 3-4 กิโลเมตร คือ ดงโรงพยาบาลที่ใช้รักษาผู้ป่วยจำนวนมหาศาล นับเฉพาะเตียงผู้ป่วยใน รวมกันน่าจะใกล้ ๆ หมื่นเตียง….ยังไม่นับผู้ป่วยนอกต่อวันที่มีความจำเป็นต้องมาโรงพยาบาล น่าจะหลายหมื่นคนต่อวัน
เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี ราชวิถี สถาบันประสาทวิทยา สถาบันเด็กนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลพญาไท 1 พญาไท 2 เปาโล สถาบันโรคไตนราธิวาสราชนครินทร์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
โรงพยาบาลข้างต้นยังไม่นับรวมโรงพยาบาลสนามและ Hospitel ที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งต้องอาศัยบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางผลัดเวรกันไปดูแล
ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล คนไข้รวมทั้งญาติคนไข้เดือดร้อนมาก โดยเฉพาะหลัง 14.00 น. ยังไม่นับช่วงเย็นและกลางคืน นอกจากต้องรับมือกับผู้ป่วยโควิด ยังต้องรับมือกับผู้ได้รับบาดเจ็บอันเนื่องมาจากสถานการณ์ในขณะนี้
ไหนจะการเดินทางที่มีปัญหา ไหนจะจำนวนบุคลากรที่ขาดแคลนและอ่อนล้าเต็มที ไหนจะจำนวนเตียงที่มีจำกัดจำเขี่ยอย่างมาก ไหนจะเรื่องการเสียโอกาสของผู้ป่วยที่จะเดินทางเข้ามารับการรักษา
ต้องเข้าใจ เห็นใจและเคารพสิทธิผู้อื่นด้วย ชุมนุมอย่างสงบพอรับได้ แต่ถ้าแค่อยากป่วนเมือง ถึงเวลาตำรวจเอาจริงได้แล้ว.
————
ชายธง
