“บ้าน” คือ วิมานของชีวิต เป็นที่อยู่อาศัยสำคัญของคนเรา

หากไร้ซึ่งบ้าน ก็ไม่ที่อยู่อาศัย ไม่ที่หลับที่นอน

แต่หลายชีวิตไม่ใช่จะมีบ้านเป็นของตัวเราเอง

เพราะต้นทุนชีวิตต่างกัน ถ้าไม่มีเงินซื้อ ก็ต้องเช่าเขาอยู่

แต่ถ้ามีบ้านเอง ย่อมเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา

สัปดาห์นี้มีเรื่องราวของสองคุณยายวัย 82 ปีกับ 83 ปี ที่เป็นผู้ยากไร้ ไม่มีบ้าน ชีวิตบั้นปลายเรียกได้ว่า “รันทด” ก่อนจะได้รับอนุมัติสร้างบ้านให้จากครงการสร้างบ้านปันสุข เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช

โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการแบ่งปัน เมื่อ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช และประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการโครงการสร้างบ้านปันสุข เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง

ดำเนินการอนุมัติก่อสร้างหลังแรกในพื้นที่หมู่ 9 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ผู้ว่าฯ เดินทางมารับตำแหน่งฯ ในสัปดาห์แรก และทำการอนุมัติก่อสร้างและทยอยมอบไปแล้ว 15 หลังในพื้นที่หลายอำเภอ

ล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการมอบบ้านจำนวน 5 หลังให้กับประชาชนผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการขุดคลองเลี่ยงเมือง เพื่อบรรเทาอุทกภัยตัวใองนครศรีธรรมราช ที่ดินและบ้านเดิมถูกเวนคืน

โดยทำการก่อสร้างในพื้นที่เช่าของวัดตรีนิมิต หมู่ที่ 1 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช มาแล้ว 118 วัน เหลือ เหลือเวลาอีก 247 วันโดยประมาณ จึงต้องรีบเร่งในการลงสำรวจและอนุมัติสร้างบ้านปันสุขให้กับประชาชนผู้ยากไร้ทั่วจ.นครศรีธรรมราช

ผู้ว่าฯ คิดว่า เมื่อถึงวันเกษียณอายุราชการอย่างน้อยจะก่อสร้างบ้านหันสุขมอบให้กับผู้ยากไร้ใน จ.นครศรีธรรมราช ได้สำเร็จไม่น้อยกว่า 50 หลังอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ได้รับมอบบ้านปันสุขฯ 5 ครอบครัวล่าสุด ประกอบด้วยครอบครัวของ นายปรีชา อินทร์ทองคำ (หนูเจี่ยง คงสีนวน),นางบุญญาภา คงสีนวน ,นางสาวพนาไพร วันทอง นายอุทัย คงสีนวน และนางดาวเรือง นิตย์พรรณ์ โดยทั้ง 5 ราย เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการของรัฐและไร้ที่อยู่อาศัย

นางพิชานันท์ ได้รับแจ้งจากนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่ามีประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 2 ครัวเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

ไม่รอช้า! ได้เดินทางพร้อมด้วยรองนายกเทศมนตรีตำบลนาสาร ฝ่ายช่างและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น ได้เดินทางลงตรวจสอบครอบครัวผู้ยากไร้

ครอบครัวแรกเป็นบ้านของนางเผียน โพธิ์โรจน์ อายุ 83 ปี อาศัยอยู่คนเดียว ในบ้านยกสูงประมาณ 1.5 เมตร สภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก จะพังมิพังแหล่ ฝากันด้วยแผ่นพื้นเก่าๆ ที่ชำรุดแตก หลังคามุงสังกะสี แต่เนื่องจากสังกะสีเก่าและชำรุดอย่างหนักและคานไม้หลังคาหักทรุดตัวลงมาทำให้แทบจะกันแดดกันฝนไม่ได้ พื้นปูบ้านด้วยไม้ไผ่ที่ชำรุดหักจนตัวนางเผียนนั่งไม่กล้าขยับตัวออกมาด้านนอก และไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนบ้านเกรงว่าบ้านจะพังถล่มลงมา

บนบ้านคุณยายเผียน ต้องเลือกมุมหนึ่งที่ยังพอแข็งแรงรับน้ำหนักตัวคุณยายได้และเป็นจุดที่หลังคารั่วน้อยที่สุด เมื่อช่วงฝนตกคุณยายเผียน จะคลานเข้าไปมุดตัวหลบอยู่ในซอกมุมดังกล่าว เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก

นางพิชานันท์ ได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างบ้านใหม่ให้คุณยายเผียน ทันทีโดยจะร่วมกับเครือข่ายผู้ใจบุญออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างทั้งหมดในวงเงินประมาณ 1.2 แสนบาท ในขณะที่ทางเทศบาล ฯและผู้นำท้องถิ่นจะรับผิดชอบในการระดมแรงงานจิตอาสาใน ต.นาสาร หรือตำบลอื่นๆ ของ อ.พระพรหม มาร่วมทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและมอบให้คุณยายเผียนภายใน 15 วัน

เมื่อคุณยายเผียน ทราบว่านางพิชานันท์ จะสร้างบ้านให้ใหม่ ก็แสดงความดีใจ แต่ในความรู้สึกของคุณยายเผียนนั้น คิดว่าการสร้างบ้านเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ต้องใช้ทุนมาก และใช้เวลาในการก่อสร้างหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีก็ได้ จึงกล่าวกับนางพิชานันท์ ว่า “ยายจะตายเสียก่อนหม้ายนิ” เมื่อได้รับการยืนยันว่าสมัยนี้การสร้างบ้านเสร็จอย่างรวดเร็วภายใน 10-15 วันเท่านั้นไม่ได้ใช้เวลานานเหมือนในสมัยโบราณ คุณยายได้อยู่บ้านใหม่แน่นอน ทำให้คุณยายเผียน ยิ้มระรื่น และกล่าวขอบคุณนางพิชานันท์ และคณะไม่ขาดปาก

หลังจากนั้นคณะจึงเดินทางไปยังบ้านของนางสมใจ พรหมมัน อายุ 82 ปี อาศัยอยู่กับบุตรสาวอาย60 เศษ ซึ่งป่วยเป็นโรคไต และไทรอยด์ ร่างกายไม่แข็งแรง ทั้งนี้ทราบว่าในอดีตเมื่อ 50-60 ปีก่อนครอบครัวคุณยายสมใจ จัดว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดี มีบ้านหลังใหญ่ 2 ชั้น 2 หลังอยู่ห่างกับประมาณ 50 เมตร แต่เนื่องจากในอดีตมีโจรผู้ร้ายซุกชุมได้เข้าปล้นสะดมครอบครัวของคุณยาย 2-3 ครั้งซ้อนกวาดเอาทรัพย์สินไปจนหมด ทำให้ครอบครัวของคุณยายมีฐานะยากจนและรับจ้างกรีดยางมีรายได้เล็กน้อย

บ้านทั้งสองหลังได้ถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมจน คานไม้หักโค่นหลังคาถล่มลงมา ทำให้แทบจะไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ คุณยายสมใจ และบุตรสาวได้มาอาศัยอยู่ในมุมหนึ่งของบ้านที่เชื่อว่าเป็นจุดที่แข็งแรงที่สุด แต่การเดินเข้าออก หรือในช่วงหลับนอนก็สุ่มเสี่ยงที่บ้านจะพังทับได้ตลอดเวลา

นางพิชานันท์ ได้ตัดสินใจอนุมัติปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้กับคุณยายสมใจ และบุตรสาว โดยจะทำการรื้อชั้นสองทิ้ง และใช้โครงสร้างชั้นล่างก่อสร้างต่อเติมเป็นทรงโมเดิร์น ห้องด้านหลังปรับปรุงเป็นห้องน้ำ ห้องส้วม คาดว่าใช้ประมาณ 1.2 แสนเช่นกัน ทางเทศบาลตำบลนาสาร และผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นจะระดมกำลังจิตอาสามาช่วยกันปรับปรุงซ่อมแซม บ้านให้คุณยายสมใจและบุตรสาว ให้เสร็จภายใน 15 วันเช่นกัน โดยคุณยายสมใจ ดีใจน้ำตาคลอเบ้าเดินเข้าไปสวมกอดนางพิชานันท์ ด้วยซาบซึ่งในบุญคุณ

ยายสมใจ ได้กล่าวเช่นเดียวกับคุณยายเผียน บ้านหลังแรกว่า “ยายจะตายเสียก่อนบ้านจะเสร็จหรือไม่ เมื่อได้รับการยืนยันว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จและมอบให้คุณยายสมใจภายใน 15-20 วัน สร้างความดีใจให้กับยคุณยายสมใจ และบุตรสาวเป็นอย่างมาก ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันเดียวกันนี้นางพิชานันท์ ได้เดินทางไปสำรวจและอนุมัติก่อสร้างบ้านปันสุขฯ ในท้องที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นการอนุมัติก่อสร้างบ้านปันสุขมอบให้ผู้ยากไร้วันเดียว 3 หลัง โดยเป็นหลังที่ 21-22-23

นับเป็นอีกเรื่องราวที่ประทับใจ ที่น่าชื่นชมยกย่องผู้ว่าฯ เมืองคอน และเหล่ากาชาด.
……………………………………..
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ “ไพฑูรย์ อินทศิลา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์  จ.นครศรีธรรมราช
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” ได้ที่นี่..