สัญญาณทางเศรษฐกิจและปากท้องของคนไทยที่น่าห่วงในปี 66 นอกจากปัญหาหนี้สินครัวเรือน ปัญหาเงินเฟ้อ ราคาพลังงานแพง (ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม) ค่าครองชีพสูง และดอกเบี้ยสูงแล้ว ปัจจุบันการส่งออกกำลังหืดขึ้นคอ เนื่องจากหดตัวต่อเนื่องมา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 65 หดตัว -4.4% เดือน พ.ย. หดตัว -6% และเดือน ธ.ค. 65 หดตัว -14.6%

เมื่อค่าเงินบาทแข็ง การส่งออกมีสัญญาณไม่ดี เศรษฐกิจไทยจึงต้องหวังพึ่งเรื่องการท่องเที่ยวจากต่างชาติว่าทั้งปีจะถึง 25 ล้านคน ตามเป้าหมายหรือไม่? แต่ถ้าเศรษฐกิจโลกซบเซาเหมือนกันหมด ตัวเลข 25 ล้านคน น่าจะลำบาก!

แต่คนไทยยังพอมีความหวังอีกเรื่อง คือการเลือกตั้งปีนี้ จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีชีวิตชีวาขึ้น ตามที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า ไทย คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท

หลังจากนั้นถ้าได้ผู้นำประเทศที่มีความรู้ มีความสามารถ มีภาพลักษณ์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีทีมเศรษฐกิจที่มีความสามารถ มีประสบการณ์ทางเศรษฐกิจ ก็จะช่วยให้คนไทยมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น สภาพเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนน่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ผู้คนที่พอจะมีเงินก็กล้าลงทุน กล้าจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น

เมื่อส่องดูบรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่กำลังโหมโรงเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องมากที่สุด น่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย กับเป้าหมายของการชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์”

ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก เมื่อดร.ทักษิณ ชินวัตร (โทนี่ วู้ดซัม) อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของใครหลาย ๆ คนในพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเมื่อวันก่อนว่า “มันเป็นความต่างกันของเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลมีอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าแฟนคลับชอบแบบเอ็กซ์ตรีมทางด้านการเมืองก็ไปที่พรรคก้าวไกล แฟนคลับที่ต้องการแก้ปัญหาปากท้องก่อน และประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทยก็เลือกพรรคเพื่อไทย”

ปัจจุบันยังไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 กันแน่ แต่ในส่วนของทีมเศรษฐกิจมีความชัดเจน มีตัวบุคคลเด่นชัดขึ้น! นอกจากคณะของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งเป็น ส.ส. รุ่นใหม่หลายคน ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจของครอบครัวกันมาก่อน ออกมาเสนอมุมมองเกี่ยวกับการท่องเที่ยว-พลังงาน กันอยู่เรื่อย ๆ แล้ว

ปัจจุบันยังมีนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเข้ามาเสริมทัพด้วย รวมทั้ง ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย อดีตประธานบอร์ด ปตท. ซึ่งให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง “ภูมิรัฐศาสตร์โลก”

นี่ยังไม่รวม “ดอกเตอร์เศรษฐศาสตร์” จาก University of Illinois at Chicago อย่าง ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล กับรุ่นเก๋า ๆ อย่าง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ และ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง ที่ยังออกมาเสนอมุมมองเรื่องของค่าเงินบาท-การส่งอออก บ้างเป็นครั้งคราว

ถ้าเลือกตั้งปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็ต้องรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร และภาคอุตสาหกรรมล้าสมัย-เสื่อมถอย กันอย่างขนานใหญ่ รวมไปถึงการลงทุนในแหล่งพลังงาน บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา จะชัดเจนและคืบหน้ามากขึ้น ถ้าเปลี่ยนรัฐบาล!!

————————–
พยัคฆ์น้อย