นับว่าสร้างความฮือฮาไม่น้อย วันเด็กแห่งชาติ ปี 2566เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ปีนี้มีภาพข่าวของบรรดาเด็ก ๆน้อง ๆ กรี๊ดกันสนั่นหวั่นไหวที่ได้เห็นตัวเป็น ๆ ของ 2 นักร้องหนุ่มวงเปเปอร์ เพลนส์ (Paper Planes) ที่ขึ้นแสดงโชว์ในซาฟารีเวิลด์ กับเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” แม้จะเป็นแนวเพลงร็อกอัลเทอร์เนทีฟ แต่กลายเป็นไอดอลขวัญใจ แฟนคลับฟันน้ำนม ทั่วประเทศ ถึงขั้นเปรียบเปรยให้เป็น เพลงชาติของเด็กอนุบาล
เสียงร้องตะโกนท่อนว้าก “แบดบอย…” ดังกระหึ่มกึกก้องไม่พอ เด็ก ๆ บางคนยังออกลีลาโยกหัวสุดมัน จนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของงานวันเด็กปีกระต่าย สื่อเกือบทุกแขนงต่างนำเสนอ โลกโซเชียลก็แชร์ทั้งคลิปภาพ ใครเห็นแล้วก็คงอดยิ้มไม่ได้ ปัจจุบันเพลงทรงอย่างแบด มียอดวิวในยูทูบขยับถึง 50 ล้านวิวไปเรียบร้อย
ที่สำคัญแทบจะแย่งซีนข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดห้องให้เด็กเยี่ยมชมและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี!!
ปีนี้ลุงตู่ ได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ เอาไว้ว่า ’รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี“ แทบไม่น่าเชื่อเวลาผ่านไปรวดเร็ว เผลอแวบเดียวลุงตู่ ได้มอบคำขวัญมาแล้วรวม 9 ครั้ง (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558) ถ้าลองไปส่องดูคำขวัญที่ผ่านๆมาอาจจะไปสะดุดกับของปี 2564 ’เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม“ ช่างบังเอิญเสียจริงเชียว ในคำขวัญเจอคำว่า ’รวมไทยสร้างชาติ“ ประกอบอยู่ด้วย
สัปดาห์ที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งไปสมัครเข้าเป็นสมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานยิ่งใหญ่อลังการถึงขั้นสามารถจัดโซนสีเสื้อผู้มาร่วมงานให้นั่งเป็นภาพสีธงชาติไทย พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยออกแอ๊คชั่นมาดนักการเมืองเต็มตัว “ที่มายืนตรงนี้เพราะเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศ ที่มาไม่ได้อยากมาอยู่เพื่อตำแหน่งอะไรต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ บนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความรุ่งเรือง ที่ผ่านมาแก้ปัญหาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหามีมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแก้ต่อไป“กลายเป็นเหมือนลั่นฆ้องส่งสัญญาณถึงการเตรียมพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง !!
ถัดจากนั้น 3 วันยังมี จดหมายเปิดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถ้าสรุปเนื้อหาคร่าว ๆ ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงจุดยืนทางการเมืองเแยกทางจาก พปชร. ที่เคยสนับสนุนขึ้นเป็นนายกฯ ไปร่วมงานการเมืองกับ รทสช. พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.จะขอรับผิดชอบและไม่มีวันทอดทิ้งสมาชิกพรรค พร้อมเดินนำทุกคนที่มีความเชื่อมั่นในความตั้งใจอันแน่วแน่ เข้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ฟางเส้นสุดท้าย ของพี่ป้อม–พล.อ.ประวิตร และ น้องตู่–พล.อ.ประยุทธ์ มาแยกกันไปตามเส้นทางการเมือง ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพียงแค่กลเกมการเมืองของ “พี่น้อง 3 ป.” หรือจะลับลวงพรางตามยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน–ร่วมกันตี”
แต่ที่แน่ ๆ ช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลประยุทธ์ บรรยากาศปี่กลองโหมโรงเลือกตั้งเริ่มมีสีสัน เพราะฝั่ง พรรคเพื่อไทย(พท.) ขยับจัดเวทีปราศรัยใหญ่เดินหน้าสู่แลนด์สไลด์ ประเดิมปักหมุดที่เมืองหลวงเสื้อแดงอุดรธานี นำคณะโดย อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถึงแม้จะอุ้มท้องก็ประกาศพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ
ตอนนี้จึงพอจะเห็นเค้าลางแคนดิเดตท้าชิงเก้าอี้นายกฯของแต่ละพรรค อยากได้นายกรัฐมนตรีทรงอย่างไหนนั้น? จะทรงอย่างผู้นำรัฐประหารที่ให้สัญญาปฏิรูปบ้านเมือง แต่ผ่านมา 9 ปีสารพัดปัญหายังเหมือนเดิม หรือถ้าชื่นชอบทรงประชาธิปไตย ก็อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ ใช้ “ปากกา” เข้าไปกากบาทในคูหาเลือกตั้ง ชี้ชะตาประเทศในอนาคต
—————–
เชิงผา
