ใครจะเชื่อว่า… “ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่รักก็คงต้องปล่อย” กลายเป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศเพียงชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดา “ฟันน้ำนม” ที่แทบจะไม่มีใครที่ร้องไม่ได้

ด้วยเพราะยุคนี้สมัยนี้กระแสโลกเปลี่ยนแปลงแบบไวเว่อร์ ทั้งโลกของธุรกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม และอีกมากมายในชีวิต ใครตามไม่ทันก็หลุดเทรนด์ ม้วนเสื่อกลับบ้านไปโดยปริยาย

Vector banking and finance concept illustration

อย่างล่าสุด แบงก์ชาติ ก็ผุด Virtual Bank หรือ ธนาคารไร้สาขา เข้ามาสู่การใช้ชีวิตของประชาชนคนไทยอีกระลอก แม้ทุกวันนี้!! ชีวิตของใครหลายคนก็อยู่บนโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบไปแล้ว

เรื่องนี้…ก็ต้องยกนิ้วให้กับความพยายามของภาครัฐ ที่ผลักดันให้คนไทยก้าวไปสู่ “สังคมไร้เงินสด” ขนาดผู้เฒ่าผู้แก่ พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยทั้งหลาย ยังรู้จัก “สแกน” จ่ายเงิน

“Virtual Bank” ถือเป็นโลกยุคใหม่ของการเงินดิจิทัล เป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกของการเงินดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกกับผู้ใช้บริการ และลดต้นทุนการดำเนินงาน ให้กับสถาบันการเงิน

แม้ว่าทุกวันนี้เรา ๆ ท่าน ๆ จะคุ้นชินอยู่กับส่วน Mobile Banking หรือ Internet Banking อยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ถือเป็นเพียงหนึ่งในช่องทางการให้บริการของธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมเท่านั้น

Free photo new normal after covid epidemic asian female payment progress buy scaning app by smarthine cashless and touchless new lifestyle shopping in department store cashier counter

ขณะที่ ธนาคารไร้สาขา ถือเป็น…ธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่ไม่มีสาขาเหมือนในปัจจุบันที่เรามักเห็นอยู่ทั่วไป โดยเน้นการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก เน้นลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะรายย่อย เอสเอ็มอี หรือแม้แต่คนที่ยังไม่ได้รับบริการที่ดีเพียงพอ หรือยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน

ขณะที่ธนาคารไร้สาขา ถือเป็น…ธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่ไม่มีสาขาเหมือนในปัจจุบันที่เรามักเห็นอยู่ทั่วไป โดยเน้นการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก เน้นลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะรายย่อย เอสเอ็มอี หรือแม้แต่คนที่ยังไม่ได้รับบริการที่ดีเพียงพอ หรือยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดทั้งธนาคารแบบเดิมและธนาคารไร้สาขาก็คือ ไม่มีสาขา ไม่มีตู้กดเงิน หรือ ATM ไม่มี ตู้ฝากถอน หรือ CDM ที่สำคัญคือ ‘การทำงาน’ ที่หลุดกรอบธนาคารแบบเดิม ๆ ที่ต้องใช้คนมาก เยิ่นเย้อ และยังใช้ระบบงานเก่า

ขณะเดียวกันการให้บริการแบบเสมือนจริง หรือ Virtual ยังทำให้วิธีคิดในการทำธุรกิจธนาคารเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยเช่นกัน ส่วนจะเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน คงต้องติดตาม

แบงก์ชาติ” มองว่าการปั้นธนาคารไร้สาขาขึ้นมา ก็เพราะการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลของคนไทยเวลานี้เพิ่มขึ้นกว่า 18 เท่าเข้าไปแล้ว แถมยังใช้อินเทอร์เน็ตและโมบายแบงก์กิ้งไปกว่า 3 เท่า

คาดกันว่า… ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จะได้สัมผัส ได้ใช้บริการจริง ๆ ราว ๆ กลางปี 2568 หรืออีก 2 ปีกว่า ต่อจากนี้แน่ ๆ เพราะเวลานี้มีธุรกิจมากมาย ทั้งแบงก์ ทั้งค้าปลีก ทั้งค่ายมือถือ ทั้งไทยทั้งเทศ ไม่ต่ำกว่า 10 ราย ต่างแสดงความสนใจกันเข้ามาแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด! แบงก์ชาติต้องการเห็น ทั้งการให้ บริการทางการเงินที่ครบวงจรและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งประสบการณ์การใช้บริการทางการเงินที่ดขึ้นของลูกค้า รวมไปถึงกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน เพราะเชื่อว่าจะทำให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุด

ที่สำคัญ…ผู้ให้บริการธนาคารไร้สาขาครั้งนี้ ต้องไม่เกิดปัญหาซ้ำซาก อย่างกรณี “ระบบล่ม” ที่ทุกวันนี้คนไทย ต้องประสบปัญหานี้จากแบงก์พาณิชย์ ทุกต้นเดือน ที่มีการทำธุรกรรมการเงินอย่างหนาแน่น

เงื่อนไขสำคัญที่แบงก์ชาติ “ล้อมคอก” ไว้ก็คือกำหนดให้ระบบขัดข้องได้ไม่เกินปีละ 8 ชม. และใช้เวลากู้คืนระบบในแต่ละครั้งไม่เกิน 2 ชม. เท่านั้น จากที่ปัจจุบัน เพียงแค่ครึ่งปีแรกของปี 65 แอพของธนาคารพาณิชย์ก็ขัดข้องไปแล้ว 30 ครั้ง บางแบงก์ก็ระบบล่มไปกว่า 38 ชม.

Free photo small business qr code cashless payment at store

ต้องยอมรับ “เป้าหมาย” ของแบงก์ชาตินั้น ก็เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน แต่ก็อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ “เทคโนโลยี” ไปเร็วมาก จนผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแล “ตั้งรับ” ไม่ทัน

ไม่เช่นนั้นกระแสถูก “หลอกลวง” กระแสถูก “ดูดเงิน” ย่อมไม่เกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง เหมือนในทุกวันนี้ จนส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ต่อให้ “ที่มา” จะเกิดจาก “ความโลภ” หรือ “ความไม่รู้” ก็ตาม

เรื่องนี้!! เป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงาน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องคิดให้หนักเช่นกัน!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”