จิ้งจก ตุ๊กแกร้องทักมาว่าบรรดาสตาฟฟ์ของลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกิดอารมณ์ขุ่นเคืองแทนนาย จึงหารือถึงช่องทางยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาถอดถอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง

เนื่องจากปี 62 พล.อ.ประยุทธ์ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐเพียงคนเดียว แล้วมีการหาเสียงนำเสนอนโยบายของพรรคทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ แต่จู่ ๆ ไปเปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หน้าตาเฉย!

สำหรับประเด็นในข้อกฎหมายนั้น บรรดาสตาฟฟ์ของลุงป้อมยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะถึงขั้นสามารถ “ถอดถอน” พล.อ.ประยุทธ์ได้หรือไม่ได้ก็ตาม! แต่อย่างน้อยก็เพื่อกระตุ้นต่อม “มารยาท-จริยธรรม” ทางการเมืองควรจะมีกันบ้าง เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน

พล.อ.ประยุทธ์อยากย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ย้ายไป! ไม่มีใครว่าอะไรหรอก! แต่ด้วยเพื่อความสง่างามในระบอบประชาธิปไตย ควร “ยุบสภา” เสียก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นจึงไปสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะดูดีกว่านี้

เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องอย่าลืมว่า พรรคพลังประชารัฐและบรรดาส.ส.ในพรรค ช่วยกันเป็นบันได ช่วยกันเป็นนั่งร้านสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ มาเกือบครบเทอมแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็เอา “ต้นทุน” ที่ตัวเองได้มาจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ

นอกจากนี้ยังตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นเลขาฯนายกฯ รวมทั้งล่าสุดยังตั้ง “แรมโบ้ อีสาน-ชัช เตาปูน-ชุมพล กาญจนะ” เป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้วย

ถามว่า “ต้นทุน” เหล่านี้! พล.อ.ประยุทธ์ได้มาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายพีระพันธุ์ อย่างนั้นหรือ? หรือว่าได้ “ต้นทุน” มาจากพรรคพลังประชารัฐกับลุงป้อม กันแน่?

แต่ พล..ประยุทธ์กลับใช้ประโยชน์จาก “ต้นทุน” ที่ว่านั้น ไปช่วยทั้งคน ช่วยทั้งพรรคการเมืองที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อออกไปต่อสู้กับพรรคพลังประชารัฐในสนามเลือกตั้งอย่างนั้นหรือ?

หรือ พล..ประยุทธ์คิดว่าพรรคพลังประชารัฐถูกยุบไปแล้ว หรือมองเป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจที่เป็นนั่งร้านให้ พล..ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ จนสมใจอยาก และปัจจุบันพรรคนี้ได้ล้มหายตายไปจากการเมืองไทยแล้วใช่มั้ย?

พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่รู้สึกกระมิดกระเมี้ยนที่ไปเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ และเปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร

ที่มองอย่างนั้นเพราะขนาดรวมกัน “3 ป.” พรรคพลังประชารัฐยังแพ้การเลือกตั้ง ต้องรวมเสียง ส.ส. เกือบ 20 พรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ! แล้ววันนี้ พล.อ.ประยุทธ์แตกออกไปเป็นไผ่แยกกอแบบนั้น จะสู้ “อุ๊งอิ๊ง” ไหวหรือ?

————-
พยัคฆ์น้อย