เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังทำให้หลายคนติดงอมแงม สำหรับ “เดอะ เดวิล จัดจ์ (The Devil Judge) ” ซีรี่ส์แนวสืบสวน ทิลเลอร์ จิตวิทยา ที่ถ่ายทอดโลกสมมุติได้ตรงใจและเฉียบคมในประเด็นสังคม โดยเล่าเรื่องราวโลกดิสโทเปียในเกาหลี หลังยุคระบาดของเชื้อโรค ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โกลาหล ผู้คนสิ้นหวัง ความเหลื่อมล้ำทวีความรุนแรง และศรัทธาของระบบยุติธรรมถูกสั่นคลอน ทำให้ทางรัฐบาลมอบอำนาจให้ผู้พิพากษาเปลี่ยนศาลยุติธรรมให้กลายเป็น “รายการเรียลลิตี้” ถ่ายทอดสดการสอบสวนในศาล โดยมีประชาชนร่วมเป็นลูกขุน โหวตตัดสินผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ได้ว่าจำเลยในแต่ละคดีสมควรโดนลงโทษอย่างไร ร่วมกับผู้พิพากษา ท่ามกลางหลากหลายปมปริศนา ที่ชวนให้ขบคิด
สำหรับ “The Devil Judge” นำแสดงโดย จีซอง พระเอกมากฝีมือ มารับบท “คังโยฮัน” หัวหน้าผู้พิพากษา ที่แสนเย็นชา เจ้าของฉายา ‘ผู้พิพากษาปีศาจ’ เขาตัดสินคดีโดยไร้ความปราณี ลงโทษจำเลยอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นใคร แต่เขาได้ซ่อนความลับไว้หลังใบหน้าอันหล่อเหลาและเต็มไปด้วยคาริสม่า โดยไม่มีใครล่วงรู้ถึงเจตจำนงแสนลึกลับของเขา ว่าเขาเป็นฮีโร่หรือเป็นปีศาจกันแน่!?
ร่วมด้วย คิมมินจอง นักแสดงสาวฝีมือดี ที่มารับบท “จองซอนอา” กรรมการบริหารแห่งมูลนิธิช่วยเหลือสังคม เธอมาพร้อมความงดงามและชาญฉลาด เธอเขามามีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญมากมาย และเธอคือคู่ปรับตัวฉกาจของ “คังโยฮัน”
นอกจากนี้ยังมี จินยอง ไอดอลหนุ่มหล่อ ขวัญใจแฟน ๆ สมาชิกวง GOT 7 ที่มารับบท “คิมกาอน” ผู้พิพากษาสมทบ ที่อายุน้อยและเต็มไปด้วยความชอบธรรม ผู้เป็นแสงส่องแห่งความหวังในโลกแห่งความวุ่นวายนี้ ซึ่งที่เขาได้เข้าไปทำงานในศาลฎีกา และร่วมต่อสู้กับความอยุติธรรม ในฐานะผู้ช่วยผู้พิพากษา และทำให้เขาสับสนในตัว “คังโยฮัน” และ พัคกยูยอง นักแสดงสาวที่กำลังมีผลงานต่อเนื่อง มารับบท “ยุนซูฮยอน” นักสืบสาวสายอาชญากรรม ในหน่วยสืบสวน เธอมีไหวพริบและและฝีมือต่อสู้ และเธอคือเพื่อนสนิทกับ “กาอน” ตั้งแต่วัยเด็ก
ซึ่งล่าสุดทางเว็บดัง “K-Popped!” ได้สัมภาษณ์เหล่านักแสดงนำ อย่าง คิมมินจอง , พัคกยูยอง และ จินยอง แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ งานนี้ “ฮาอึน” จึงไม่พลาดแปลบทสัมภาษณ์ครั้งนี้มาฝากแฟน ๆ กัน
Q : สำหรับ “คิมมินจอง” นี่เป็นร่วมงานกับ “จีซอง” เป็นครั้งที่ 2 แล้ว การทำงานด้วยกันอีกครั้งเป็นยังไงบ้าง?
คิมมินจอง : เราทั้งคู่เติบโต มีความเป็นผู้ใหญ่และมีความเอาใจใส่ต่อกันมากขึ้น ซึ่งมันนำไปสู่ทีมเวิร์คที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ
Q : “จองซอนอา” นั้นถือว่า “คังโยฮัน” เป็นศัตรูของเธอ และทั้งคู่ต่างก็มีความลับ อะไรคือการทำให้วิธีที่พวกเขาคิดและลงมือทำนั้นมีความแตกต่างกัน?
คิมมินจอง : สำหรับ ‘จองซอนอา’ และ ‘คังโยฮัน’ นั้นเป็นเหมือน ‘ฝาแฝดทางจิตวิญญาณ (ตามที่ผู้เขียนบอก)’ ความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้น คือพวกเขาได้เลือกเส้นทางที่แตกต่างกันค่ะ
Q : บท “จองซอนอา” ท้าทายคุณในฐานะนักแสดงยังไง?
คิมมินจอง : ฉันได้ทำงานด้านการแสดงมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แสดงในบทบาทที่ได้ฆ่าใครบางคน ในฐานะนักแสดงฉันรู้สึกชื่นชอบมาก ๆ และก็ตื่นเต้น เพราะว่ามันสิ่งใหม่ เป็นคาแรกเตอร์ที่ท้าทาย ‘จองซอนอา’ เป็นคนที่อันตรายร้ายกาจ แต่เธอก็มีคาแรกเตอร์ที่ไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ ด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉันในการถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ออกมาให้ดี มันเหมือนกับว่าสิ่งที่คน ๆ นั้นกำลังทำมันดูน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถเข้าใจได้ค่ะ
Q : คุณ “พัคกยูยอง” เคยแสดงเป็นตัวละครหญิงที่มีความกล้าหาญในซีรี่ส์ “Sweet Home” และ “It’s Okay to Not Be Okay” มาแล้ว สำหรับตัวละคร “ยุนซูฮยอน” นั้นเป็นยังไง เมื่อเทียบกับ “นัมจูริ (It’s Okay to Not Be Okay)” และ “ยุนจีซู (Sweet Home)”?
พัคกยูยอง : สำหรับ‘ยุนซูฮยอน’ เป็นตำรวจ และเธอตอบสนองต่อความอยุติธรรมตามสัญชาตญาณ เธอเป็นคนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่ดี มากกว่าโดยผลประโยชน์หรือจุดมุ่งหมายส่วนตัว แม้ว่ามันจะเป็นการสรุปสั้น ๆ แต่ภาพเหล่านั้นก็แสดงให้เห็นถึงการเล่าในอดีตที่ผ่านมาของ ‘ยุนซูฮยอน’ ด้วย ก็เหมือนกับคนอื่นอีกหลายคน พวกเรามีความเข้มแข็ง กล้าหาญ และหนักแน่น แต่ก็เปราะบางอย่างที่สุดเช่นเดียวกัน ในเรื่องของทรงผมและเครื่องแต่งกายนั้นมีความแตกต่างจากที่แสดงเป็น ‘จูริ’ และ ‘จีซู’ ทั้งหน้าที่การงาน , การพูด แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนดูเหมือนจะเป็นตัวละครที่มี 3 มิติ ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังที่แข็งแรงค่ะ
Q : สำหรับ “คิมกาอน” ได้ถูกอธิบายได้ว่าเป็น “ความหวัง” ของโลกยุคดิสโทเปีย ที่มีคนชั่วร้ายอยู่รอบตัวเขามากมาย ผู้ชมสามารถคาดหวังที่จะได้เห็น “คิมกาอน” ไปสู่เส้นทางสายมืดมากขึ้นได้มั้ย?
จินยอง : แทนที่จะเดินไปสู่เส้นทางสายมืด ความเชื่อของ ‘กาอน’ จะค่อย ๆ เปลี่ยนทีละนิด ๆ เมื่อเขาได้เข้าใกล้ความจริงที่ซ่อนอยู่ครับ หากคุณคอยเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนของ ‘กาอน’ คุณจะสนุกไปกับ ‘เดวิล จัดจ์ มอร์’ มากยิ่งขึ้น
Q : มีบทเรียนอะไรที่คุณได้เรียนรู้จาก นักแสดงมากประสบการณ์ อย่าง “จีซอง” และ “คิมมินจอง” บ้างมั้ย?
จินยอง : เนื่องจากรุ่นพี่นั้นมากประสบการณ์ ผมรู้สึกได้ถึงความมั่นคงในกองถ่าย ตอนที่ผมเจอกับเรื่องยากลำบาก พวกเขาก็มีวิธีแก้ปัญหาอยู่เสมอ ดังนั้นแม้ว่าผมจะวอกแวกไป แต่ผมก็สามารถกลับมาและโฟกัสได้อีกครั้งครับ
Q : นี่เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจากที่คุณเคยรับมา เมื่อเทียบกับบทบาทก่อน ๆ คุณรู้สึกยังไงกับบทบาทนี้?
จินยอง : แม้ว่าผมจะดูเด็ก (ยิ้ม) แต่จริง ๆ แล้ว ‘กาอน’ อายุเท่าผมเลยครับ ส่วนบุคลิกของ ‘กาออน’ ก็ไม่ได้เบาหรือว่าหนัก ดังนั้นระหว่างที่แสดงผมรู้สึกว่าเขามีความคล้ายกับผมมาก และก็มีจุดที่ให้เรียนรู้มากมาย มันเป็นประโยชน์กับผมมาก ๆ ที่ได้เล่นเป็น ‘กาอน’ ครับ
Q : เนื่องจากคอนเซ็ปต์แบบดิสโทเปีย มักไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่นักในซีรี่ส์เกาหลี คุณมีการเตรียมตัวในเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก่อนที่จะมารับโปรเจ็คนี้บ้างมั้ย?
พัคกยูยอง : เนื่องจากมันเป็นเสมือนโลกดิสโทเปีย และแม้ว่าสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมอาจแตกต่างออกไป แต่ ‘ยุนซูฮยอน’ นั้นเป็นอิสระจากสถานการณ์ต่าง ๆ ค่ะ และดูเหมือนว่าเธอจะพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์เพียงแค่กับคนที่เกี่ยวข้องกับเธอเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงโฟกัสเพียงแค่นักแสดงท่านอื่นและสถานการณ์ในระหว่างที่ฉันแสดง แม้ว่ามันจะเป็นโลกสมมุติ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างในแง่ของการแสดงเป็นคนที่อาศัยอยู่ในนั้นมากเท่าไหร่นะคะ ซึ่งหลังจากที่ถ่ายทำและจากมุมมองของผู้ชม มันค่อนข้างรู้สึกสนุกในการดูซีรี่ส์ที่ถ่ายทอดโลกดิสโทเปียออกเป็นแบบนี้ค่ะ
คิมมินจอง : ฉันก็ไม่มีการเตรียมตัวในเรื่องอะไรเป็นพิเศษเลยค่ะ และพวกเราก็มีความคาดหวังบางอย่างกันอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะเป็นโลกดิสโทเปีย แต่มันก็ไม่ได้เป็นโลกที่แตกต่างออกไปทั้งหมด ดังนั้นฉันจึงสามารถจัดการกับมันได้ โดยไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างใด ๆ ค่ะ
จินยอง : อย่างแรกเลยคือผู้กำกับนั้นสร้างโลกดิสโทเปียในกองถ่ายได้ดีมากเลยครับ รวมถึงผมไม่ได้คิดว่ามันมีอะไรที่แตกต่างมากมายนักในโลกดิสโทเปีย (เมื่อเทียบกับโลกจริง) เพราะว่ามันยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่อาศัย ดังนั้นในฐานะนักแสดง ผมจึงทุ่มเทพยายามในการดำรงชีวิตอยู่ผ่านทางตัวละคร ‘กาออน’ นี้ครับ
Q : หากตัวละครในเรื่องนี้ สามารถได้รับพลังเหนือธรรมชาติ 1 อย่าง คุณอยากมีพลังอะไร เพื่อที่จะนำมาเปลี่ยนแปลงโลก หรือทำให้โลกใบนี้เป็นที่ที่ดีและน่าอยู่มากขึ้นกว่านี้?
จินยอง : ผมอยากมีความสามารถในการย้อนเวลาได้ครับ
คิมมินจอง : คือฉันไม่คิดอยากได้พลังอะไรมาใช้เปลี่ยนโลกหรอกนะคะ หากเพียงแค่คุณพยายามไม่ทำร้ายคนอื่น และทำในสิ่งที่คุณทำได้ตามตำแหน่งสถานะของคุณ โลกจะไม่น่าอยู่ขึ้นอีกนิดเหรอ?
เมื่อ “วิหารแห่งความยุติธรรม” ถูกสั่นคลอน จึงทำให้ต้องเกิด “รายการเรียลลิตี้” แต่ตัวตนที่แท้จริงพวกเขาคือ “ฮีโร่” หรือ “ปีศาจร้าย” ที่อยู่ภายใต้หน้ากากผู้พิพากษาที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกันแน่ คงต้องตามลุ้นกันจนถึงอีพีสุดท้าย!
ฮาอึน / ภาพ : TVN , IMBC