การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ที่นับวันจะมีความรุนแรง การร่วมกันขับเคลื่อนดูแลรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ปกป้องต้นไม้ใหญ่น้อยมีความสำคัญ…

นานาพืชพันธุ์ไม้ มีบทบาท มีความสำคัญต่อทุกสรรพชีวิต นอกจากมิติด้านอาหาร ให้ร่มเงาเป็นที่อยู่อาศัย “ต้นไม้ใหญ่” อายุยืนยาว ยังเป็นบันทึกสะท้อนความผูกพันธรรมชาติกับวิถีชีวิตผู้คน บอกเล่าประวัติศาสตร์ เล่าความสมบูรณ์ธรรมชาติ ระบบนิเวศ

บางต้นมีตำนาน มีความสำคัญทางวัฒนธรรมโดยสืบค้นได้จากต้นไม้ใหญ่ ทั้งนี้ ชวนตามรอยชม ต้นไม้ใหญ่อายุยืนยาว ชวนรู้จักพันธุ์ไม้และความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น จากการรวบรวมคัดเลือกต้นไม้ใหญ่อายุยืนยาวจากทั่วทุกภูมิภาค โครงการรุกขมรดกของแผ่นดิน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำเผยแพร่ สร้างความตระหนักคุณค่าต้นไม้ สร้างการอนุรักษ์ดูแลต้นไม้ใหญ่ร่วมกัน  

หนึ่งในกลุ่มต้นไม้ใหญ่ที่พบเห็นแทบทุกภูมิภาค มีประวัติศาสตร์ ตำนานความเป็นมาและมากด้วยเรื่องน่ารู้จากหนังสือรุกขมรดกของแผ่นดินเล่าถึง ต้นมะขาม โดยต้นมะขาม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ยืนต้นเขตร้อน ถิ่นกำเนิดในอินเดีย นำมาปลูกในประเทศไทย และแพร่กระจายไปทั่ว

เชื่อกันว่า ไม้มะขามเป็นไม้มงคล ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้ายไม่ให้มากล้ำกรายและทำให้มีคนเกรงขาม ผลของมะขาม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีสรรพคุณทางยา เช่น ขับเสมหะ บรรเทาอาการท้องผูก ฯลฯ โดยต้นมะขามที่รวบรวมไว้ อาทิ ต้นมะขามเปรี้ยวอายุยืนยาวกว่าสามร้อยปี จ.เพชรบูรณ์ โดยชุมชนบ้านปากห้วยขอนแก่น อ.หล่มสัก ดูแล เป็นต้นไม้ใหญ่ ไม้มงคลที่คุ้มครอง ปกป้องภัย 

ต้มมะขามเฒ่าเก้านาง จ.สุโขทัย เป็นอีกต้นหนึ่งที่มีอายุกว่าสองร้อยปี สูงตระหง่าน งดงาม ขณะที่ต้นมะขามจังหวัดพัทลุง ต้นนี้ขึ้นอยู่บนเนินทรายอ่อนริมชายทะเลสาบสงขลา วัดเก่าปากพล มีอายุร่วมสองร้อยปี ต้นมะขามที่นี่เป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น ฯลฯ

หรือ กลุ่มมะขาม ที่ปลูกขึ้นอยู่บริเวณสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นกลุ่มต้นมะขามที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แรกเริ่มปลูกต้นมะขามมีจำนวนกว่าสามร้อยต้น จากนั้นได้มีการปลูกเพิ่มอีกกว่าสี่ร้อยต้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบสองร้อยปี โดยปัจจุบันได้มีการสำรวจต้นมะขามและขึ้นทะเบียนไว้กว่าเจ็ดร้อยต้น เป็นต้น

ต้นไม้ใหญ่ทรงคุณค่า จากการรวบรวมพิจารณาคัดเลือกทั่วทุกภูมิภาค รวบรวมประวัติเรื่องราวต้นไม้ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตชุมชน วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ทั้งเป็นหมุดหมายเดินทางไปเที่ยวชมความงาม ความสมบูรณ์ โดยเฉพาะช่วงอากาศดีของฤดูหนาว ดังเช่น กลุ่มต้นไม้ห่มผ้าบนดอยอินทนนท์ ต้นหว้าอ่างกา และต้นทะโล้

ต้นไม้ดังกล่าว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นไม้ หว้าอ่างกา เป็นไม้ยืนต้นสูง โดยสูงได้กว่ายี่สิบเมตร เปลือกไม้สีเทาแกมขาวหรือนํ้าตาลแกมแดง ใบเป็นรูปวงรีหรือรูปไข่ ฯลฯ หว้าอ่างกาเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นต้นไม้สูงใหญ่อยู่ตามริมนํ้าป่าเมฆ โคนต้นมีพูพอนแผ่ออกเสริมความแข็งแรงให้ทรงตัวดีเมื่อต้องปะทะลมแรง ใบถูกสร้างขึ้นแข็งหนาคล้ายแผ่นหนังเคลือบด้วยขี้ผึ้งเป็นมัน เพื่อไม่ให้ต้านลม

ขณะที่ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เติบโตได้ดีในที่ร่มด้วยสภาพแวดล้อมของความชื้นในดินและปริมาณแสงแดด จึงเอื้อให้กากหมากฤาษี ซึ่งเป็นพืชกาฝากชนิดที่หายาก มาเกาะที่รากต้นหว้าอ่างกา นับเป็นกลุ่มต้นไม้ห่มที่ชวนให้ไปสัมผัสบนยอดดอยอินทนนท์ โดยปัจจุบัน อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ต้นทะโล้ ต้นไม้ใหญ่ที่มีความโดดเด่นเช่นกัน โดยต้นทะโล้ ที่นี่มีอายุกว่าร้อยปี มีความสูงใหญ่ยืนต้นอยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอินทนนท์ บริเวณอ่างกาหลวง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้นไม้ที่ปรับตัวขึ้นได้ในพื้นที่หนาวเย็นแถบเทือกเขาหิมาลัยจีนตอนใต้ผ่านประเทศไทย ไปสู่ป่าเขตร้อนในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ในประเทศไทย สามารถขึ้นได้ดีในป่าที่มีภูมิอากาศร้อนอย่างป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ต้นทะโล้ผสมเกสรได้ตลอด โดยพัฒนาดอกให้มีสีขาว ซึ่งมองเห็นได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน กลิ่นหอมของต้นทะโล้ ยังช่วยนำทางในที่มืด บริเวณลำต้นมีพืชสีเขียวห่อหุ้มโดยตลอด นับเป็นอีกกลุ่มต้นไม้ห่มผ้าที่น่าศึกษาอีกต้นหนึ่ง บนยอดดอยอินทนนท์

ป่าเสม็ดขาว จังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในกลุ่มต้นไม้ที่รวบรวมเผยแพร่ไว้ จากข้อมูลเล่าถึงป่าเสม็ดที่นี่ โดยพื้นที่กว่าสามพันไร่ ได้รับการประกาศเป็นสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดระยอง ป่าเสม็ดขาวแห่งนี้ มีต้นเสม็ดจะอยู่ตรงกลางระหว่างบึงกับแผ่นดินใหญ่ ลำต้นสูงตระหง่าน ลักษณะกิ่งก้านแผ่สาขาออกกว้าง และมีรูปทรงโดดเด่น คดโค้งและหยักงอเป็นเอกลักษณ์ โดยต้นที่เก่าแก่สุด มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี และทั้งป่ายังคงสมบูรณ์ 

ขณะที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ มีรูปทรงใบสวย ทั้งดอกมีสีเหลืองมีขนาดเล็กออกเป็นช่อตามง่ามใบ ฯลฯ ต้นสมอพิเภก อีกหนึ่งต้นไม้ที่มีหลากเรื่องราวน่าศึกษา จากลักษณะทางพฤกษศาสตร์กล่าวถึงลูกสมอพิเภกอ่อนเกือบสุกมีรสเปรี้ยว มีสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาอาการไข้ ส่วนผลแก่ มีรสเปรี้ยวฝาดหวาน ใช้เป็นยาขับเสมหะ ละลายเสมหะ ฯลฯ โดยหนึ่งในต้นสมอพิเภก ไม้ใหญ่ที่มีอายุยืนกว่าร้อยห้าสิบปี ได้แก่ ที่จังหวัดเชียงรายขึ้นอยู่ในวัดกิ่วพร้าว อำเภอแม่จัน โดยปัจจุบันทางวัดอนุรักษ์เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องต้นไม้ ในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ สะท้อนวิถีชีวิตชุมชนในอดีตร่วมด้วย เป็นต้น

ต้นสัก อีกหนึ่งกลุ่มต้นไม้ โดยลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นสัก เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อน ลำต้นเปลาตรง โคนเป็นพูพอนต่ำ ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมค่อนข้างทับ เปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องตามความยาวลำต้น ขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณ ฯลฯ

ต้นสักมักได้รับความเข้าใจผิดว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื่องจากมีลักษณะพิเศษที่เป็นไม้เนื้ออ่อน มีความทนทานกว่าไม้เนื้อแข็งหลาย ๆ ชนิด และจากการรวบรวมต้นสักที่มีอายุยืนมีหลายสถานที่ อาทิ สวนสักบ้านแม่พวก จ.แพร่ โดยที่นี่ ชุมชนร่วมกันปลูก ดูแลต้นสักมีอายุกว่าร้อยปี และยังเป็นผืนป่าสักที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์น่าสนใจอย่างสถานีรถไฟ หลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในบริเวณป่าสักให้เรียนรู้ เข้าชม

ต้นโพธิ์ ต้นไทร ไม้ใหญ่อายุยืนที่พบเห็นหลายพื้นที่ โดย ต้นโพธิ์ จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ผลัดใบ แตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นพุ่มตรง ปลายกิ่งลู่ลง ตามกิ่งมีรากอากาศห้อยลงมาบ้าง เปลือกเรียบเป็นสีนํ้าตาลปนเทา ฯลฯ ขณะที่ ต้นไทร ที่มักได้ยินชื่อคู่กันบ่อยครั้ง ต้นไทรเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรงแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทึบ บางชนิดเป็นพุ่มโปร่ง มีรากอากาศห้อยลงมาตามกิ่งก้านและลำต้น ผิวเปลือกเรียบสีขาวปนเทา ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมี ต้นไกร ต้นกร่าง โดยหนึ่งในต้นไม้ใหญ่ในกลุ่มนี้ที่น่าศึกษา น่าชม ได้แก่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม

“ต้นไม้ทั้งสี่ต้นนี้ มีอายุกว่าสองร้อยปี อยู่ที่ ตำบลบางกุ้ง เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของการไปเที่ยวชม ต้นไม้ดังกล่าวสามารถเติบโตร่วมกันปกคลุมและรัดล้อมโบสถ์เก่าของวัดบางกุ้งให้ดำรงอยู่ โดยส่วนที่เสี่ยงต่อการหักพัง รากและกิ่งก้านจะยึดเหนี่ยวไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ส่วนที่ยังคงสภาพดีกลับมีการยึดเหนี่ยวน้อยมาก

ที่น่าสนใจคือในช่องประตูและหน้าต่างของโบสถ์ จะไม่มีต้นไม้ขึ้นปิดบัง โดยที่นี่มีตำนานเล่าว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ตำบลบางกุ้ง เรียกว่าค่ายบางกุ้ง โดยสร้างกำแพงล้อมวัดให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร และต่อมาสมัยสมเด็จพระเจ้าพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพไปรบกับพม่าที่ค่ายบางแก้ว เมืองราชบุรี ในการเดินทัพครั้งนั้น ได้มาหยุดกองทัพพักพลและเสวยพระกระยาหารที่นี่”  

ต้นไม้ใหญ่กลุ่มนี้ยังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับต้นไม้ที่กล่าวมา อย่างเช่น ต้นโพธิ์ ที่วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กลุ่มระบบนิเวศป่าชายเลน, โพธิ์ใหญ่ ที่ยืนต้นภายในวัดสว่างภิรมย์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น อีกกลุ่มหนึ่ง ต้นโกงกาง ไม้ยืนต้นมีเอกลักษณ์ อย่างเช่น กลุ่มระบบนิเวศป่าโกงกาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง หรือที่ ป่าชายเลนถ้ำโกงกาง จ.พังงา เป็นหนึ่งในสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวของต้นไม้ให้ศึกษา ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวของเกาะพนัก การเข้าไปในถ้ำจะต้องรอให้นํ้าลดลงต่ำสุด จึงจะสามารถเดินเข้าไปในพื้นถ้ำได้ ความยาวของถ้ำประมาณหนึ่งร้อยเมตร ด้านในมืด เมื่อเดินพ้นถ้ำจะพบกลุ่มต้นโกงกางที่มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีอยู่ด้านใน และหากนํ้าขึ้นจะท่วมเต็มพื้นที่ ที่นี่จึงเป็นถ้ำที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ 

ต้นไม้ใหญ่ทรงคุณค่า ต้นไม้ที่บันทึกธรรมชาติ เล่าความผูกพันวิถีชีวิต วัฒนธรรมเชื่อมโยงสู่การอนุรักษ์ จากปีเก่าสู่ปีใหม่เเละปีต่อ ๆ ไป…

พงษ์พรรณ บุญเลิศ