สำหรับ “ปีใหม่ 2566” นี้ แม้เพิ่งจะผ่านพ้น “พิษโควิด-19” มา ทว่าโดยรวม “สถานการณ์โลก-เศรษฐกิจโลก” ยังคงอยู่ใน “ยุคปั่นป่วน” ที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่ ส่วนกับประเทศไทยนั้น จะเป็นไปในทิศทางใด? และอย่างไรบ้างนั้น กรณีนี้ต้องลองพิจารณาผ่าน “โฟกัสเทรนด์อาชีพ ปี 2566” ว่า… “อาชีพใด?-ธุรกิจใด?…จะรุ่ง?-จะไม่รุ่ง?” ที่วันนี้ “หน้าช่องทางทำกิน…หน้าพิเศษต้อนรับปีใหม่ 2566” มีข้อมูลมานำเสนอให้แฟน ๆ “เดลินิวส์” ได้พิจารณากัน… โดยเป็นการวิเคราะห์ของ “ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล” ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ “ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล” อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังต่อไปนี้…
“แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะเป็นยุคที่โลกมีความปั่นป่วน มีความผันผวนสูง ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะดีหรือแย่มากนั้น จึงดูยากมากไม่เหมือนกับทุก ๆ ปี แต่ที่แน่ ๆ คือ ในเมื่อโลกตกอยู่ภายใต้ภาวะเช่นนี้ สิ่งที่ต้องทำคือ คนไทยจะต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี กับเศรษฐกิจที่มีแต่ความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม แต่ก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ถดถอยรุนแรง ซึ่งถ้าหากมีปัจจัยเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยวมาช่วยพยุงไว้ ก็น่าจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยไม่ให้ถดถอยหนัก แต่ถ้าไม่มีเลย กรณีนี้ก็น่าเป็นห่วง!!!”…นี่เป็น “แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2566” ที่ทาง ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล วิเคราะห์ไว้ กับยํ้าเตือนให้เตรียมตัวรับมือ “ความผันผวน” ใน “ยุคโลกปั่นป่วน”
ส่วน “ธุรกิจที่มีแนวโน้มดี ปี 2566” นั้น ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนไม่แน่นอนสูง ทาง ดร.ภูษิต ระบุว่า… “มีธุรกิจที่มีหวัง” และ “ที่มีโอกาสเติบโต” เช่นกัน ประกอบด้วย… “ธุรกิจสุขภาพ” ที่มาจากการที่ผู้คนห่วงใยสุขภาพมากขึ้น ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาลเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลของต่างชาติที่เติบโตขึ้นกว่าเดิม เพราะเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น และนอกจากนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเช่น อาหารเสริม วิตามิน ฟิตเนส คลินิกรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม ธุรกิจความงาม ก็มีแนวโน้มการขยายตัวเช่นกัน “ธุรกิจท่องเที่ยว” มีแนวโน้มดีขึ้นมากในปี 2566 นี้ โดยเฉพาะกลุ่ม… โรงแรม สายการบิน การขนส่งท่องเที่ยว ซึ่งจะค่อย ๆ ฟื้นตัวช้า ๆ โดยปัจจัยที่จะทำให้ฟื้นตัวช้าหรือเร็ว ขึ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นหลัก “ธุรกิจร้านอาหาร” เป็นอีกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน เพียงแต่ต้องระวัง ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นที่จะต้องบริหารให้ดี “ธุรกิจดิลิเวอรี่” เป็นอีกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต จากความนิยมสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และพฤติกรรมผู้คนที่เปลี่ยนไป
สำหรับ “ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตกลาง ๆ” ในปี 2566 นี้ ได้แก่… “ธุรกิจสินค้าเกษตร” ที่มีลุ้นมากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศมีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ขาดแคลนด้านอาหาร ทำให้ไทยได้อานิสงส์ “ธุรกิจร้านค้าปลีก-ร้านโชห่วย” ปีนี้เติบโตได้เช่นกัน แต่ไม่มากนัก เพราะเจอกับการแข่งขันที่สูงขึ้น จึงต้องหาสินค้าที่ใช่ ต้องหาทำเลดี ๆ จึงจะมีโอกาส
“ธุรกิจเทคโนโลยีต่าง ๆ” อาทิ…ธุรกิจแอพพลิเคชั่น ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ การติดตั้งระบบป้องกัน จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ขณะที่ “ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ” กับ “ธุรกิจดิจิทัลมาร์เกตติ้ง” เป็นอีกกลุ่มที่เติบโตในปีนี้เช่นกัน โดยเป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งการที่ธุรกิจเหล่านี้เติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้ “อาชีพเกี่ยวข้อง” อาทิ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การวางแผนสื่อ การขายผ่านสื่อดิจิทัล มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วยเช่นกัน “ธุรกิจสายบันเทิง” เช่น ธุรกิจงานอีเวนต์ งานแสดง คอนเสิร์ต และงานประชุม ก็จะเป็นธุรกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น
“ธุรกิจพลังงานทดแทน” เป็นอีกกลุ่มที่มีศักยภาพเติบโต ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนพลังงานที่แพงขึ้น ทำให้คนหันมาเลือกใช้พลังงานทางเลือก หรือพลังงานทดแทน จนทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องขยายตัว เช่น ธุรกิจโซลาร์รูฟ (พลังงานแสงอาทิตย์), ธุรกิจผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ EV หรือยานยนต์ไฟฟ้า “ธุรกิจการศึกษา” ในช่วงโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ธุรกิจนี้มาถึงจุดตํ่าสุด ดังนั้นเมื่อสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น จึงส่งผลทำให้ธุรกิจนี้ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมา โดยที่น่าโฟกัสคือ โรงเรียนนานาชาติ ที่จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 นี้ “ธุรกิจการเงินการลงทุน” โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการให้คำแนะนำด้านการลงทุนต่าง ๆ อาทิ การลงทุนหุ้น กองทุน ประกันชีวิต และประกันภัย …นี่เป็น “ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตกลาง ๆ” ในปี 2566 นี้
ส่วน “ธุรกิจที่ต้องลุ้นหนัก” ในปี 2566 นั้น ทาง ดร.ภูษิต ได้วิเคราะห์ว่า…จะเป็น “ธุรกิจเกี่ยวข้องกับโควิด-19” ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผลิตหน้ากากอนามัย และชุดตรวจATK ที่มีการบริโภคน้อยลง ทำให้ธุรกิจนี้ถดถอยไปตามเหตุการณ์ด้วย และอีกกลุ่มคือ “ธุรกิจเมตาเวิร์ส”ที่จะไปต่อหรือหยุดอยู่แค่นี้? รวมถึง “ธุรกิจคริปโต” ที่มีแนวโน้มเติบโตลดลง จากการที่คนขาดความมั่นใจ
ขณะที่ กับ “อาชีพเด่น” หรือ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2566” นั้นดร.ภูษิต กล่าวว่า…จะเป็นกลุ่ม…อาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ รวมถึง… อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ติ๊กต็อกเกอร์ และ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี กับ อาชีพที่เกี่ยวกับสุขภาพ และความสวยความงาม ที่มีแนวโน้มดีและสดใสมากขึ้นในปี 2566
“ในปี 2566 หากจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดต้องให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ต้องเกาะตามกระแส โดยเมื่อลมเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตาม เพื่อให้ธุรกิจอยู่ในกระแส 2.ต้องพัฒนาตัวเอง โดยหาความรู้เพิ่มเติม อัพสกิลให้ตัวเอง 3.ต้องวิเคราะห์ความเสี่ยง ด้วยการติดตามสถานการณ์ เพื่อดูแนวโน้มทิศทางของเศรษฐกิจ” …เป็นคำแนะนำจากทาง ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการหลักสูตร aMBA (Analyst MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ทางด้าน ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้วิเคราะห์และสะท้อนว่า… “เศรษฐกิจประเทศไทยปี 2566 พูดยาก…เพราะมีความผันผวนอยู่มาก ทำให้คาดเดาได้ลำบาก ซึ่งถ้าไม่เกิดปัจจัยลบเข้ามาแทรกแซง เศรษฐกิจไทยก็คงจะเดินหน้าไปได้แบบราบรื่น หรือเติบโตไปอย่างที่ควรจะเป็น แบบค่อยเป็นค่อยไป จนค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัว” ..เป็นการระบุถึง “ภาพรวมเศรษฐกิจไทย” ปี 2566
ทาง ศ.วิทวัส ยังวิเคราะห์ว่า…สำหรับ “ปัจจัยเชิงบวก” ในปี 2566 ที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้นั้นถึงแม้จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 อีกระลอกขึ้น ก็คือ ปัจจัยจิตใจของผู้คน ที่ไม่รู้สึกกังวลกับสถานการณ์เหมือนในช่วงแรก ๆ ที่โควิด-19 เริ่มระบาด เพราะคนเริ่มไม่กลัว และเริ่มรู้วิธีดูแลตัวเองมากขึ้น รวมถึงเกิดจากการที่คนต้องการกลับมาเป็นปกติที่สุด ส่งผลทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น จนทำให้ ธุรกิจภาคบริการ การท่องเที่ยว งานอีเวนต์ ฟื้นตัวกลับมา อีกทั้งที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าปีก่อน ๆ คือ ภาคการส่งออกไทย ที่ในปี 2566 ก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมไปถึงปัจจัยอย่าง “การเลือกตั้ง ปี 2566” ที่ก็จะช่วยส่งผลทำให้เศรษฐกิจระดับรากหญ้ากลับมามีบรรยากาศที่คึกคักมากขึ้น อย่างไรก็ดี แต่มีสิ่งที่ต้องระวัง ก็คือ “ปัจจัยเชิงลบ” จาก ความอ่อนไหวทางการเมืองในประเทศ กับ ความเสี่ยงหลังการเลือกตั้ง ที่ยังคาดเดาไม่ได้ว่า…จะวุ่นวายหรือไม่??? …รวมถึง ปัญหาพลังงาน และ ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย ซึ่งถ้าเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือรายได้คนไทยไม่มากพอเท่ากับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กรณีนี้จะมีปัญหาตามมา จนเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สะเทือนเศรษฐกิจประเทศไทย
ขณะที่แนวโน้ม “ธุรกิจดาวเด่นมาแรง ปี 2566” ในมุมมองของ ศ.วิทวัส ได้วิเคราะห์เอาไว้ ดังต่อไปนี้ ได้แก่… “ธุรกิจการท่องเที่ยว” ทั้งธุรกิจที่พัก โรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ชอปปิงเซ็นเตอร์ ที่จะถูกขับเคลื่อนด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น “ธุรกิจเกี่ยวกับด้านสาธารณสุข” นับเป็นอีกกลุ่มที่ยืนยาวมาตลอด และมีศักยภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งได้แรงหนุนเสริมจากทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน และเข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ของไทยเพิ่มขึ้น “ธุรกิจด้านสุขภาพจิต” เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาและบำบัดด้านจิตวิทยา เนื่องจากคนมีความเครียดมากขึ้นจากการทำงาน ชีวิตประจำวัน และปัญหาเศรษฐกิจ “ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ” เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เวลเนสเซ็นเตอร์ ธุรกิจนวดสปา เป็นอีกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตมาแรงในปี 2566 เช่นกัน
“ธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยี” เป็นกลุ่มที่อยู่มายืนยาวเช่นกัน โดยคนที่อยู่ในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากนอกจากบริษัทใหญ่ ๆ แล้ว กับธุรกิจเอสเอ็มอีก็เริ่มหันมาทำธุรกิจนี้เยอะขึ้น จึงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มและทิศทางการเติบโตในปี 2566 แบบก้าวกระโดดเช่นกัน “ธุรกิจพลังงานทดแทน” เป็นอีกกลุ่มที่มาแรง โดยหลาย ๆ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต่างก็กระโดดเข้ามาเล่นมากขึ้น ร่วมถึงการเข้ามาในกลุ่มรถยนต์ EV ที่เป็นผลพวงจากปัญหาราคาพลังงานยุโรป ที่มีผลกระทบมาถึงราคาพลังงานของไทย จึงทำให้คนหันมาสนใจการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น รวมถึงการที่เกิดกระแสการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนด้วย ทำให้ธุรกิจพลังงานทดแทนมีแนวโน้มเติบโตในปี 2566
“ธุรกิจกลุ่มอาหาร” ก็จะมาแรงเช่นกัน อันเป็นผลพวงเนื่องจากวิกฤติต่าง ๆทั่วโลก ทั้งเรื่องของสงครามรัสเซีย-ยูเครน โควิด-19 หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้เกิดวิกฤติขาดแคลนอาหาร จนส่งผลให้ไทยได้ประโยชน์ จากการที่ภาคการผลิตของไทยยังเหลือพอที่จะส่งออกได้ สำหรับประเทศไทยยังสามารถผลิตเหลือเพื่อการส่งออกได้
นอกจากนั้น ที่น่าจับตาคือ “ธุรกิจอาหารอนาคต” เช่น อาหารแพลนต์ เบส ฟิวเจอร์ฟู้ด และโปรตีนจากแมลง ที่เริ่มมีทิศทางที่ดีในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และสุดท้าย ได้แก่ “ธุรกิจออกแบบดีไซน์สื่อดิจิทัล” ที่ในปี 2566 มีทิศทางเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเกมออนไลน์ การผลิตสื่อดิจิทัล ที่มีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ “อาชีพดาวรุ่ง ปี 2566” นั้น ทาง ศ.วิทวัส อาจารย์สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า… อาชีพเด่น ๆ ก็จะเป็นไปตามกลุ่มธุรกิจที่มาแรงในปี 2566 โดยที่น่าโฟกัสคือ “อาชีพเชฟทำอาหาร-นักเขียนโปรแกรม-นักพัฒนาซอฟต์แวร์-วิศวกรเทคโนโลยีดิจิทัล” นอกจากนั้นก็ยังมี… “อาชีพครีเอทีฟสายดิจิทัล” รวมถึง “อาชีพด้านสาธารณสุข” อย่าง…แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล จะมีความต้องการในระดับที่สูงมากขึ้น จนเกิดการแย่งตัวคนทำงานหรือบุคลากรด้านนี้ โดยเฉพาะ “ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ-ประสบการณ์สูง” …เป็นการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ ที่สะท้อนและฉายภาพเกี่ยวกับ “อาชีพเด่น-ธุรกิจมาแรง” รวมถึง “ที่ต้องลุ้น” ในปีหน้า…ปี 2566
…ทั้งนี้ นี่เป็นข้อมูลโดยสังเขปจากการวิเคราะห์ “เทรนด์ธุรกิจ-เทรนด์อาชีพ ปีใหม่ พ.ศ. 2566” โดย 2 นักวิชาการผู้สันทัดกรณีโดยมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่จะทำให้ “รุ่ง?…ไม่รุ่ง?” ใน “เศรษฐกิจยุคโลกปั่นป่วน” …ที่ทาง “หน้าช่องทางทำกิน” นำมาเสนอให้แฟน ๆ “เดลินิวส์” ได้ลองพินิจกันไว้เป็น “ทุนด้านข้อมูล” เพื่อสำหรับ “ปรับใช้กับการทำธุรกิจ-ทำงาน-ทำอาชีพ” ที่ทาง “ทีมช่องทางทำกิน” ขอเอาใจช่วยทุก ๆ ท่าน…
ขอให้สามารถ “รุ่ง ๆ” กันทั่วหน้า.
ทีมช่องทางทำกิน : รายงาน