ทิศทางวงการหมัดมวยในปีหน้า หรือปีใหม่นี้ จะเป็นอย่างไร นับว่าน่าจับตามมอง เพราะมีเรื่องราว ที่ส่งผลถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับวงการมวย ในทุกวงการเป็นอย่างยิ่ง

เริ่มกันที่ “มวยสากลสมัครเล่น” หรือ “มวยเสื้อกล้าม”  ต้องเรียกว่าอาการน่าเป็นห่วง เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) หรือไอโอซี กำลังพิจารณาตัดออกจากกีฬาโอลิมปิก 2024  “ปารีสเกมส์” แล้ว หลังสมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) หรือ ไอบ้า ภายใต้การนำของ อูมาร์ เครมเลฟ จากรัสเซีย  ยังเดินสวนทางกับนโยบายของของไอโอซี แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม 

นอกจากนั้น สำนักข่าวกีฬาดัง Insidethegames ยังรายงานว่า ไอโอซี (IOC) ได้ยกเลิก มวยสากล” จากกีฬาโอลิมปิก 2028 ที่ลอสแอนเจลิส  ไปแล้ว

กีฬา “มวยสากล” คือกีฬาความหวังของชาวไทยใน “โอลิมปิกเกมส์” เมื่อมีกระแสข่าวรุนแรงมาขนาดนี้ นับว่าน่าตกใจ และต้องจับตามดูว่าจะไปรอดหรือไม่ ภายใต้การดูแลของ อูมาร์ เครมเลฟ 

            มาที่วงการมวยสากลอาชีพ หรือ “มวยโลก” ในบ้านเรา ยังเป็นทิศทางที่ต้องดูว่าจะมีแชมป์โลกเพิ่มขึ้นได้อีกหรือไม่ ทั้ง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) 2 สมัย ที่ยังรอไปชกทำฟอร์มตามสัญญากับ “แมตช์รูม” ในการไปชกที่สหรัฐอเมริกา อีก 1 ไฟต์ หากชนะก็มีโอกาสกลับขึ้นชิงแชมป์โลกอีก แต่ถ้าแพ้ ทุกอย่างจบ

 ที่เหลือต้องลุ้นจากนักชกใหม่ฟอร์มดีอย่าง แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน จากค่ายของ “เสี่ยเอี๊ยง” ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ แห่งทีแอล บ็อกซิ่ง ,และทางค่ายของ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ที่นอกเหลือจาก ศรีสะเกษ แล้วยังมี ชายน้อย วรวุฒิ,ดนัย เงียบภูเขียว,ธนันท์ชัย จรูญภักดิ์ ที่กำลังแรงขึ้นมา หรือ นวพล นครหลวงโปรโมชั่น ที่จะได้โอกาสชกตัดเชือกเพื่อไปชิงแชมป์โลกอีกครั้งในต้นปีหน้า 

รวมทั้งค่ายเกียติกรีรินทร์ ของ “จิมมี่” ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง ที่มีมวยดี ๆ หลายคน ยิ่งมีแรงสนับสนุนจาก “บิ้กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ทำให้ได้เทรนเนอร์ทีมชาติอย่าง กามนิตย์ นารีรักษ์ มาช่วยปั้นนักมวยด้วย ก็ทำให้มวยค่ายนี้ที่ตั้งเป้าล่าแชมป์โลกในสายของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มองข้ามไม่ได้เลย

            ในขณะที่แชมป์โลกที่มีอยู่ในตอนนี้ของไทยซึ่งสังกัดเพชรยินดี ภายใต้การสนับสนุนของ “ซีพี” คือ “เจ้านูน” น็อคเอาท์ ซีพีเอฟ หรือ ธรรมนูญ นิยมตรง แชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวต (105 ปอนด์) ซึ่งครองเข็มขัดซูเปอร์แชมป์ของสมาคมมวยโลก (WBA) ต้องชกล้มแชมป์ เพื่อให้เหลือแชมป์โลกหนึ่งเดียวของรุ่นตามมติของ WBA กับ อีริค โรซา จากโดมิกัน ที่ครองเข็มขัดชมป์โลกเส้นปกติ (WBA WORLD CHAMPION) อยู่

            คู่นี้เพชรยินดีทุ่มเงินล้าน ประมูลมาจัดได้ที่เมืองไทย ที่ทางเพชรยินดีกำหนดจัดศึก “น็อคเอาท์-โรซ่า” ไว้เบื้องต้นในวันที่ 22 ก.พ. หรือ 2 มี.ค.ปีหน้า…อีกไม่นานเกินรอ ได้รู้กัน ส่วน เพชรมณี ซีพีเอฟ แชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวต (105 ปอนด์) สภามวยมวยโลก (WBC) ก็มีคิวป้องกันต้นปีหน้า เป็นอีกคนที่ต้องเชียร์

            มาที่ “วงการมวยไทย” ก็เป็นที่ฮือฮาเมื่อ “บิ๊กบอส ONE” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประกาศเดินหน้า สร้าง “ฮีโร่” ผลักดันนักมวยไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลก เพิ่มค่าตัวนักมวยไทย ระดับแชมป์โลก 4-10 ล้านบาท รวมทั้งค่าเหนื่อยนักชกไทยที่เข้าสู่ ONE แบบสมน้ำสมเนื้อ ตั้งตัวได้ พร้อมประกาศสนับสนุนค่ายมวยไทย ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ เพื่อให้ “กีฬามวยไทย” เกรียงไกร

“ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023 เป็นต้นไปศึก ONE  ที่รวมการต่อสู้ทุกประเภทจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม ถ่ายทอดสดทางทีวีทุกสัปดาห์ไปยัง 179 ประเทศทั่วโลก (เทียบกับ 154 ประเทศในปี 2022)! ปี 2023 กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ONE ด้วยอีเวนต์สด 68 รายการ (เทียบกับ 22 อีเวนต์ในปี 2022) นี่คือสิ่งที่น่าจับตา

ส่วนเวทีราชดำเนิน มีการทำงานของคนรุ่นใหม่อย่าง “เสี่นแบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ด้วยการทำมวยให้เป็น “สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์” ปรับปรุงเวทีราชดำเนินขึ้นมาทันสมัย อย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมรายการมวยที่น่าดูชม ด้วยความร่วมมือจากโปรโมเตอร์ไฟแรง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ แห่งเพชรยินดี นี่ก็เป็นอีกส่วนที่น่าจับตา

ขณะที่ปัญหาเรื่องมาตรฐานการตัดสิน “มวยไทย” ในสนามมวยต่าง ๆ ที่มีกระแสค้านสายตา ออกมาต่อเนื่อง ก็น่าจับตามองในปีหน้า ว่าจะมีทิศทาง รูปแบบ การพัฒนาไปอย่างไร

นี่คือทิศทางที่น่าจับตามอง สำหรับ “วงการมวยเมืองไทย” ในปีหน้า

                                                “คม ท่าดี”