ยุคโควิดกับเส้นทางชีวิต 2 สาวประเภทสองเมืองอุทัยธานี ไม่ธรรมดา จากช่างเสริมสวยมีรายได้เดือนเป็นแสน วันนี้ไม่มีเลยสักบาท เพราะร้านปิดกิจการเซ่นพิษโควิดขาดรายได้ กับภาระรายจ่ายที่ต้องแบกรับถึง 7 หมื่นต่อเดือน เงินเก็บที่มีทั้งหมดถูกดึงมาใช้จึงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้
“น้องว่าน” นายณัฐญานันท์ ไวเชิงค้า อายุ 27 ปี กับเพื่อนซี้ “น้องดัมมี่“ นายชนะชัย ขำอิง อายุ 28 ปี เป็นช่างเสริมสวย แต่งหน้า สักคิ้วมือดีที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี มีลูกค้าประจำมากมาย แต่พอเจอพิษโควิด จึงชวนกันกลับมาอยู่บ้านใน ต.หนองกระทุ่ม อ.ทัพทัน
สองสาวตกงานมาสักพัก เกิดปิ๊งไอเดียขอสูตรจากกลุ่มเพื่อนทำยำต่างๆ เปิดขายยำทะเลทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน โดยช่วงเช้าจะเปิดรับออร์เดอร์ พอเที่ยงลูกค้าก็มารับอาหาร ผลลัพธ์ดีเกินคาด รายได้วันละ 3-4 พันบาท สร้างแรงผลักดันและกำลังใจในการสู้ชีวิต
ต่อมาอยากขยายตลาดเพื่อลูกค้าที่ไม่ได้เล่นโซเชียล น้องว่าน กับน้องดัมมี่ เลยหันมาเปิดร้านขาย “ยำแซ่บเว่อร์” ช่วงเย็น ริมถนนสายทัพทัน-อุทัยธานี ด้านหน้าสวนสุขภาพลานโพธิ์ เขตเทศบาลตำบลทัพทัน ประคองชีวิตร่วมกับเพื่อนชายหุ้นส่วนอีกคน
แต่จะให้ขายธรรมดาคงไม่ได้! “น้องดัมมี่” จัดเต็ม.. แต่งฮันบก สวมชุดเกาหลีมาในแบบ “แดจังกึม” เดินชูป้ายเรียกลูกค้าหน้าร้านที่ขับรถสัญจรไปมาบนเชิญชวนให้มาอุดหนุนสร้างสีสันดึงดูดลูกค้าได้อย่างมาก ขณะที่ “น้องว่าน” รับหน้าที่เป็นมือยำสุดแซ่บกับเพื่อนชายอีกคน
ส่วนเมนูยำแต่ละอย่างจะเน้นรสชาติแซ่บเว่อร์ จัดจ้าน ทั้งยำปูม้า ยำกุ้ง ยำหอยแครง ยำปลาหมึก และยำรวมมิตร ใส่ข้าวโพด มะม่วง บางคนเพิ่มปลาร้ารสชาติแซ่บนัวไปอีก ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 80 บาท ถ้ารวมมิตร 149 บาท และหากเพิ่มพิเศษจุใจ 259 บาท อาหารทะเลสดใหม่ทุกวัน มีจำนวนจำกัด เพราะของไม่สดจริงไม่เอามาขาย เน้นความสะอาด อร่อย
วันแรกของการขายหน้าสวนสุขภาพลานโพธิ์ แทบไม่น่าเชื่อ!! ลูกค้ามาอุดหนุนกันตรึม ขายหมดภายในครึ่งชั่วโมงเพราะด้วยอาหารทะเลสดใหม่มีจำกัด น้องว่าน น้องดัมมี่ รับเงินกลับบ้าน 4 พันบาทหายเหนื่อย.. วันต่อมาๆ เพิ่มปริมาณของทะเล เพราะลูกค้าเรียกร้องกันเยอะ ทำยอดขายพุ่งทุกวัน 8 พัน ถึง 1 หมื่น
“น้องว่าน” เผยเส้นทางสู้ชีวิตว่า ครอบครัวหนูฐานะไม่สู้ดี พอจบ ม.3 หนูเลยอยากทำงานหาเงินช่วยครอบครัว เริ่มจากไปเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารในตัวจังหวัด ได้ค่าแรงวันละไม่กี่สิบบาท ทำได้ 2 ปี ก็มาทำงานโรงงานผลิตรองเท้าได้เงินเดือนๆ ละ 7,800 บาท ทำได้ 4 ปี
คิดว่าอยู่ไปคงไม่ดีขึ้น จึงออกมาเรียนเสริมสวยที่วิทยาลัยสารพัดช่าง หลักสูตรระยะสั้นเรียนเพียง 2-3 อาทิตย์ก็จบ จากนั้นก็มาเรียนจับคอร์สเคมีล้วนๆ และเปิดร้านเสริมสวยนาน 4 ปี ก็ไปเรียนสักคิ้วเพิ่มเติม ช่วงนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นดี มีรายได้เดือนละ 8 หมื่น ถึง 1 แสน 5 หมื่นบาท
แต่มาเจอวิกฤติโควิด รายได้ไม่มี แต่รายจ่ายเท่าเดิม จึงตัดสินใจลงหุ้นกับดัมมี่และเพื่อนชายอีกคน เอาความเป็นตัวตนของคนทั้ง 3 คน รวมกันแล้วเอาเป็นจุดขาย “ส่วนสาเหตุที่มาเลือกทำยำเป็นอาหารขาย เพราะยำมันคู่กับกะเทย หนูเองก็ชอบกินยำ ทีแรกก็ทำไม่เป็นแต่เพื่อนไว้ใจให้ทำยำขาย”
ชีวิตหนูเคยลำบาก ตอนอายุ 16 ปี ไปทำงานต่างจังหวัด ตอนที่ไปมีเงินติดตัวไปไม่กี่ร้อยบาท มีอยู่ช่วงหนึ่งมีเงินไม่ถึง 20 บาท แต่ก็โชคดีที่มีเพื่อนดีคอยช่วยเหลือกันอยู่ตลอด
หากสถานการณ์โควิดสงบก็จะกลับไปทำอาชีพเสริมสวยที่หนูรัก เพราะอาชีพนี้ทำให้หนูมีบ้าน มีรถ และมีอะไรหลายๆ อย่างที่หนูไม่เคยมี แต่ก็จะยังขายยำด้วยถ้ายังไปได้รุ่ง ทำควบคู่กันหารายได้เพิ่ม
“หนูไม่กลัวความลำบาก เหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็สู้ เพราะความจนมันน่ากลัว หากเวลาล่วงเลย หนูแก่ตัวไปเป็นกะเทยแก่ ไม่มีเงิน ไม่มีคนเลี้ยงจะลำบาก เราต้องอยู่คนเดียวก็ต้องสู้ชีวิต”
อยากฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ หรือบางคนอาจคิดสั้นที่เจอวิกฤติโควิด ว่า ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ให้คิดถึงพ่อกับแม่เราไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะคนที่ลำบากเลี้ยงเรามาคือ พ่อกับแม่ หนูเองเคยคิดสั้นมาแล้ว แต่เอาหลายสิ่งหลายอย่างมาเป็นแรงผลักดันในการเดินหน้า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจ
ส่วน “น้องดัมมี่” เองก็เป็นคนสู้ชีวิตขอฝากเป็นกำลังใจให้ทุกคนในช่วงโควิดว่า แต่ละคนมีชีวิตที่ลำบากแตกต่างกันไป ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ขอให้ทุกคนสู้ชีวิต อย่ายอมแพ้กับโชคชะตา วันหนึ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้น
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม จ.อุทัยธานี
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]