ไม่ใช่แค่ลอตแรกที่ “31 งูเห่าพรรคต่าง ๆ” 11 พปชร., 7 เพื่อไทย, 5 ก้าวไกล, 2 เศรษฐกิจไทย, 1 ปชป. และ 5 จากพรรคเล็กพรรคจิ๋ว จะพากันลาออกจาก ส.ส.ในพรรคเดิมและแห่แหนเข้าพรรค ภูมิใจไทย 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา โฆษกพรรค ภราดร ปริศนานันทกุล เปิดเผยว่า ยังจะมีอีกลอตใหญ่ ๆ ตามมาเร็ววันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรค ย้ำว่า “นี่เป็นการตอกเสาเข็ม อยู่อย่างมั่นคง ไม่ใช่แลนด์สไลด์ เพราะนั่นไม่มั่นคง ไม่มีเสาเข็ม เราจะตอกไปเรื่อย ๆ” ช่างอหังการนัก เป็นที่รู้กันนานแล้วในหมู่นักการเมืองว่า พรรคนี้กล้วยแยะ ขี้หมูขี้หมาที่ผ่านมาก็ควักช่วยค่าใช้จ่ายเสริมเดือนละ 2-3 แสนแฟร์ ๆ กัน พรรคอื่นก็ทำ แต่ได้แค่ไหน มันแล้วแต่พรรคนั้นมีช่องทางได้ “ปุ๋ย” จากที่ไหนมาปลูกกล้วย
เลือกตั้งใหญ่ปีหน้า ภูมิใจไทย ตั้งเป้าเป็นพรรคใหญ่รอร่วมรัฐบาลทุกขั้ว รอส้มหล่น นายอนุทินเป็นนายกฯ คนละครึ่งอีกต่างหาก ส.ส.จึงแห่แหนไม่ขาดสาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หน.พรรค ปชป. พูดถึงการโดนดูด ส.ส.ว่า น่าห่วง มันเข้ายุค “ธนกิจการเมือง” มีการประมูลตัว ส.ส. ประมูลตัวผู้สมัคร สุดท้ายก็เป็นที่มาของการถอนทุน แล้วนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากทำลายประเทศแล้ว ยังทำลายประชาธิปไตยในที่สุด เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศต้องจับตามองและให้ความสำคัญ ต้องไม่เลือกนักการเมืองที่คนอื่นประมูลตัวไป “เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
กับวาทกรรม “ธนกิจการเมือง” นั้น ที่จริงก็ไม่ได้มาจากใคร มาจาก ปชป.นี่ล่ะ ตอน ไทยรักไทย ที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร หันเหจากนักธุรกิจมาเป็นผู้นำพรรคแล้วชู “นโยบาย” เป็นจุดขายหลัก ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP) ฯลฯ ผู้นำ ปชป.ตอนนั้นใช้ “ใบมีดโกน” กรีดหนักหน่วงว่า มีนักธุรกิจใช้เงินซื้อเสียง ซื้อ ส.ส. ซื้อประชาชน (ประชานิยม) ซื้อพรรค และซื้อประเทศ สร้างสิ่งชั่วร้ายทางการเมือง เพราะ ปชป.เองยังจมจ่ออยู่กับการเมืองแบบเก่า ๆ ที่ใช้ปากเป็นอาวุธ ดีแต่พูด ขณะที่ ไทยรักไทย เอานโยบายไปทำจนประสบความสำเร็จได้ใจประชาชน
จนนำมาซึ่งความพ่ายแพ้หมดรูป ปชป.กลายเป็น “กบต้ม” ในที่สุด (คนที่มองเห็นสัจธรรมคนแรกคือ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์) นับแต่นั้น ปชป.ก็ไม่เคยชนะเลือกตั้งอีกเลย ไม่ว่าไทยรักไทยจะเปลี่ยนผ่านเป็นพลังประชาชน หรือเพื่อไทย ปชป.ก็ยังแพ้อยู่ดี ที่ได้เป็นรัฐบาลก็ด้วยวิธีพิเศษตั้ง รบ.ในค่ายทหาร
ถ้าทักษิณ ทำบาปพลาดครั้งใหญ่ด้วย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งจนป่านนี้ดูเหมือนยัง “ถอดบทเรียน” ไม่ได้ ยังเพ้อฝันจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลานอีก แต่ ปชป.ก็พลาดใหญ่หลวงด้วยการ ล่มหัวจมท้ายกับ “กปปส.” ปูทาง คสช.ปฏิวัติ สร้างระบอบ 3 ป. ร่าง รธน.อัปยศสืบทอดอำนาจจนประเทศเดินลงเหว ปฏิรูปการเมืองแค่ปาหี่ ของจริงคือ ธนกิจการเมือง จะขอแก้ รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย ก็ต้องคุกเข่าอ้อนวอน 250 ส.ว. ลากตั้งให้เห็นใจ ห้ามกระแหนะกระแหนให้ผิดหู และไม่ว่าประชาชนจะรวมตัวกี่แสน เสนอแก้ รธน.กี่ครั้ง ก็โดนเขี่ยทิ้งทุกครั้ง
นี่คือมรกดกบาปที่ ปชป.มีส่วนร่วม?!?
อย่างที่ว่า แม้จนปัจจุบัน ปชป.นอกจากไม่เคยชนะเลือกตั้งแล้ว ยังเป็นได้แค่ “นั่งร้าน” เผด็จการ นักวิชาการบางคนมองว่า มีโอกาสที่ ปชป.จะกลายเป็นแค่พรรคท้องถิ่น มาก กว่าพรรคระดับชาติด้วยซ้ำไป
สิ่งที่นายจุรินทร์พูด เราจึงไม่เถียง ถูกต้องแล้ว แต่ด้วยความรักและหวังดี จริง ๆ นะ แค่อยากให้ อู๊ดด้า จุรินทร์ ได้ย้อนคิดว่า แล้วประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้ยังไง คิดอย่างไม่อคติ คิดอย่างถอดบทเรียน คิดอย่างไม่ใช่วัฒนธรรมคน ปชป. ที่ถูกมองว่า “เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่น”
แค่อยากให้ ปชป.กลับมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจริง ๆ …เพราะนี่อาจเป็นสงครามครั้งสุดท้าย
———————–
ดาวประกายพรึก
