ถึงเวลาแล้วที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องลงมากำกับดูแลแนววิธีปฏิบัติของตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) อย่างจริงจังมากขึ้น คงปล่อยให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กับ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ดำเนินการสลายม็อบสารพัดกลุ่มในรูปแบบที่ผ่านมาอีกไม่ได้

ม็อบกับการเมืองไทยนั้นอยู่คู่กันมานานหลายยุคสมัย

แต่เพิ่งเกิดปรากฏการณ์ใหม่ช่วงปี 63 เนื่องจากมีม็อบนักเรียนมัธยม-มหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป ออกมาขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ เรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ยุบสภา ลาออกจากตำแหน่ง

เนื่องจากคนรุ่นใหม่เห็นสภาพรัฐธรรมนูญฉบับนี้ บวกกับการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ช่วง 6-7 ปี ที่ผ่านมา เขารู้สึกได้ทันทีว่า “ไม่มีอนาคต” ยิ่งมีปัญหาโควิด-19 แต่รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข ไม่เร่งหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้ประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

บรรดาม็อบต่าง ๆ จึงต้องออกมาเรียกร้องขอวัคซีนดี ๆ จากรัฐบาล ออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหลายประเทศก็มีม็อบออกมาประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีที่บริหารงานล้มเหลวงเรื่องโควิด

พล.ต.อ.สุวัฒน์อย่าลืมว่ามีคนกลางจับตาดูการเผชิญหน้าระหว่างม็อบกับตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ต่างแสดงความกังวลกรณีตำรวจสลายการชุมนุมและตั้งข้อหาหนักกับผู้ร่วมชุมนุม ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่มีรัฐธรรมนูญรองรับอยู่

หลายฝ่ายกังวลกรณีรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งส่งผลเสียต่อการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการออกมาชุมนุมเรียกร้อง ดังนั้นถ้า พล.ต.อ.สุวัฒน์ จะรับงานตรงมาจากใครหรือไม่อย่างไรก็แล้วแต่! แต่ขอบอกว่าภาพลักษณ์ของตำรวจเสียหายไปกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ครั้งฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายม็อบเด็กที่สี่แยกปทุมวันเมื่อปลายปี 63

ต่อมามีการไปขนตู้คอนเทเนอร์มาตั้งเป็นกำแพงสูง พร้อมขึงลวดหนามตามรั้วกำแพง ตามบันไดสะพานลอย เพื่อป้องกันม็อบไม่ให้เข้าใกล้ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่ม็อบเข้ามาขอวัคซีนดี ๆ มาขอให้นายกฯ ลาออกก็แค่นั้นเอง!

มีคำถามว่าเจ้าหน้าที่ คฝ. ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วหรือไม่ ไม่ใช่จากหนักไปหาหนัก ถ้ามีคนเจ็บ-ตาย ต้องเลิกภารกิจ! นักข่าวหลายคนถูกกระสุนยางและแก๊สน้ำตาบาดเจ็บ หรือเป็นเพราะพวกท่านยิงมั่วหรือไม่ ไม่ยิงแบบวิถีโค้ง แต่ยิงตรงในแนวระดับลำตัวและศีรษะยิงกดลงต่ำ ยิงลงมาจากพื้นที่สูงข่ม ซุ่มยิงในที่มืดบ้างใช่แบบนั้นหรือไม่ ซึ่งเป็นการใช้ยุทธวิธีที่แย่มาก ๆ กับประชาชนและเด็ก

ไม่เช่นนั้นกระสุนจะพลาดมาถูกนักข่าวหลายคน หรือกรณียิงเข้าเบ้าตา “ไฮโซลูกนัท” รวมทั้งกระสุนปริศนาที่เจาะเข้าศีรษะเด็กอายุ 15 ปี พวกท่านจะคลี่คลายเรื่องเหล่านี้อย่างไร?

“พยัคฆ์น้อย” ขอเตือน ผบ.ตร. ด้วยความเป็นห่วง ว่าท่านควรศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับม็อบให้ละเอียด หรือปรึกษาจากรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ ทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ว่าอยู่รอดปลอดภัยจากคดีสลายม็อบมาได้อย่างไร

วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้รัก ไม่ศรัทธา พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น ผบ.ตร. อย่าคิดว่าประชาชนและม็อบเด็ก ๆ ต้องแพ้!

ไม่เช่นนั้นแล้ว หลังจากเกษียณ พล.ต.อ.สุวัฒน์อาจต้องเดินตาม พล.อ.ประยุทธ์ไปขึ้นศาล เพื่อชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ คฝ. ว่ามีการยิงลงมาจากทางด่วนแบบพร่ำเพรื่อ ยิงจากที่มืดบนโรงพัก ยิงเข้าเบ้าตาผู้ชุมนุมหรือไม่ ผบ.ตร. จะอธิบายศาลอย่างไร?.

——————–
พยัคฆ์น้อย