สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในยุคปัจจุบันถือได้ว่า บิ๊กตู่–พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีส่วนกำกับดูแลด้วย เพราะยังสวมหมวก ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) แต่ผลงานการจะ ปฏิรูปสีกากี ให้พลิกโฉมแตกต่างก่อนหน้าทำรัฐประหารจึงแทบไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปกว่าเดิมเลย
ยึดอำนาจมา 8 ปี ได้คุมยุทธจักรสีกากีดูแลด้วยตัวเองแล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังโดนมรสุมถล่มเล่นงานไม่ขาดสาย เอาแค่ห้วงเวลาช่วง 1-2 เดือนใกล้จะสิ้นปี 65 วงการตำรวจถูกสังคมจับตาจะสะสางสารพัดปัญหาต่าง ๆ นานา ที่กำลังเกิดขึ้นหลากหลายเรื่องต่อเนื่องกันอย่างไรบ้าง?
เดือน ต.ค. 65 ที่ผ่านมา บิ๊กเด่น–พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (ตท.22/นรต.38) ก้าวขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. เจ้าของเรียกขาน พิทักษ์ 1 อายุราชการจะเกษียณปี 2566 รับตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 65 พร้อมมอบนโยบายบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2566 มีนโยบายหลักประมาณ 10 ข้อ
สิ่งที่พิทักษ์ 1 พูดย้ำเอาไว้น่าสนใจว่า ’หัวใจสำคัญของการทำงาน คือการควบคุมความประพฤติของตำรวจ ที่ผ่านมาตรวจสอบความประพฤติ อบรมจริยธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าพบเนื้อร้ายต้องไม่ช่วยเหลือกัน ต้องตักเตือน ลงโทษ หากทำผิดลงโทษทางวินัย อาญา ผมเศร้าใจทุกครั้ง ที่ตำรวจถูกดำเนินคดี แต่หากผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย นิ้วไหนร้าย ต้องตัดทิ้ง“
แต่หลังรับตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้เพียง 6 วัน ใครจะไปคิดบ้างว่าจะมาเกิดเหตุโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู ที่สร้างความโศกสลดไปทั่วโลก ส.ต.อ.คลั่งสติแตก สังหารเด็กนักเรียนไร้เดียงสาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ไปถึง 22 คน และมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อไปด้วย ยอดรวม 36 ราย ส่วน ส.ต.อ.คลั่งยิงตัวตาย กลายเป็นศพที่ 37
รัฐบาลประยุทธ์ ถึงขั้นต้องออกมาประกาศวาระเร่งด่วน ทำสงครามยาเสพติด–อาวุธปืน ครั้งใหม่พร้อม ๆ กับภาพที่ฮือฮาสังคม ตำรวจหลายโรงพักเกือบทั่วประเทศ เข้าแถวตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เท่านั้นไม่พอ ตรวจ บัญชีปืนหลวง ก็กลายเป็นว่า มีบางโรงพักถูกตำรวจแอบฉกไปขายอีกนับร้อย ๆ กระบอก นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของตำรวจกระทำความผิดเป็นข่าวต่อเนื่อง แม้กระทั่งแอบขโมยข้อมูลประวัติประชาชนไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เชิงผา ต้องขอย้ำว่าปัญหาเรื่องของ ตำรวจนอกรีต ที่กระทำความผิดนั้นเป็นเพียงส่วนน้อย เพราะข้าราชการตำรวจทั่วประเทศมีกว่า 2 แสนนาย ทุกวงการย่อมมีคนดีคนร้ายปะปนกันไป แต่ที่สังคมให้ความสนใจแบบพิเศษใส่ไข่ เพราะอยากรู้ว่าทำไม ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องมาเป็นผู้ร้ายเสียเอง ยิ่งมาบานปลายไปอีก เมื่อ แก๊งอาชญากรจากแดนมังกร ที่กำลังเติบโตแอบแฝงอยู่ในเมืองไทย ถูก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ยอมเสี่ยงตายลุยตีแผ่ กระชากลากไส้ เครือข่ายทุนจีนสีเทา กัดไม่ปล่อยมาเกือบจะ 2 เดือน จนชาวไทยได้เห็นภาพแก๊งมังกรทั้งถูกเด็ดปีกขอดเกล็ดแบบเต็มคาราเบล
ที่สำคัญยังทำให้เห็นกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน มีสายสัมพันธ์โยงใยไปถึง กลุ่มการเมือง ทั้งฝั่งรัฐบาล ฝ่ายค้าน ไล่ไปถึง เจ้าหน้าที่รัฐนอกรีต หลายหน่วยงาน ที่ไปเอื้อประโยชน์ โดยเฉพาะตำรวจ ตั้งแต่ระดับ ’นายพล–ชั้นประทวน“ ติดร่างแหไปด้วย ทำให้เชื่อว่าช่วงส่งท้ายปีเสือ 2565 จะมีล้างบางใหญ่สีกากีอีกระลอกแน่นอน
ปัญหาพัวพันแก๊งมังกร ยังสะสางไม่จบ มี “ตำรวจนอกรีต” โผล่เข้าไปเอี่ยวขบวนการโกงสอบ “นร.นายสิบตำรวจ” บช.ภ.9 เหตุเกิดกลางปี 65 แต่มาโป๊ะแตกในช่วง บช.ศ. เพิ่งจัดสอบ “ตร.อำนวยการ” หนำซ้ำยังเจอโกงสอบซ้ำรอย งานนี้สังคมกำลังปูเสื่อรอดู “บิ๊กเด่น” จะทยอยตัด “นิ้วร้าย” เหมือนที่มอบ นโยบายฯ ก่อนหน้านี้ได้มากน้อยเพียงใด!!
——————
เชิงผา
