โลกสีสวยสุดสัปดาห์นี้มีโอกาสได้ต้อนรับ “มาร์มิ้งค์” มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์ และ “คนิ้ง” วิทิตา สระศรีสม 2 สาวคู่ซี้จาก CGM48 วงไอดอลชื่อดังจากเชียงใหม่ โดยทั้งคู่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์สนุก ๆ ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง The Cheese Sisters ให้เราฟัง นอกจากนี้ มาร์มิ้งค์ และคนิ้ง ยังจะมาเฉลยด้วยว่า กีฬาสุดโปรดของพวกเธอคืออะไร และกีฬาชนิดไหนที่อยากจะลองเล่นคู่กันดูสักครั้ง…

แนะนำตัวหน่อยจ้า

มาร์มิ้งค์ : “สวัสดีค่ะ มาร์มิ้งค์ มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกของวง CGM48 และเป็นนักแสดงจากภาพยนตร์ The Cheese Sisters ค่ะ มาร์มิ้งค์เป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนบุคลิกถ้าดูจากภายนอกก็จะเงียบ ๆ เรียบร้อย ๆ แต่ถ้าสนิทกันจะรู้ว่า เป็นคนสนุกสนาน และขี้เล่น รักธรรมชาติ และรักอิสระค่ะ”

คนิ้ง : “สวัสดีค่ะ คนิ้ง วิทิตา สระศรีสม เป็นคนเชียงใหม่ค่ะ โดยบุคลิกแล้ว หนูจัดอยู่ในประเภท INFP ค่ะ คือสามารถเข้าสังคมก็ได้ หรืออยู่กับตัวเองก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะชอบอยู่กับตัวเองมากกว่า ไม่ชอบความวุ่นวาย และเป็นคนที่เล่นโซเชียลมีเดียน้อยมาก ปัจจุบันยังเป็นนักเรียน และเป็นไอดอลจากวง CGM48 ค่ะ”

พูดถึงภาพยนตร์ The Cheese Sisters

มาร์มิ้งค์ : “The Cheese Sisters คือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวผ่านกระบวนการทำชีสค่ะไล่ตั้งแต่การรีดนมวัว การเอานมไปทำชีส การขนส่ง และมาจบที่คาเฟ่ค่ะ โดยภาพยนตร์จะแบ่งเป็น 4 พาร์ต สำหรับพาร์ตของเราชื่อว่า Baker ซึ่ง มาร์มิ้งค์ จะรับบทเป็นแพทหญิงสาวเจ้าของคาเฟ่ที่ชอบเก็บตัว และจะได้พบกับ คนิ้ง ที่รับบทเป็นเมจิเด็กสาวข้างบ้าน ซึ่งทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน และมีความสัมพันธ์กันค่ะ”

คนิ้ง : “นี่เป็นครั้งแรกที่หนู และพี่มาร์มิ้งค์ได้เล่นภาพยนตร์อย่างจริงจังค่ะ เนื้อหาก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านกระบวนการทำชีส ไล่ตั้งแต่การรีดนมวัว นำไปทำชีส ขนส่งมาที่ร้านเบเกอรี่จนถูกนำไปทำเป็นชีสพาย โดยในแต่ละขั้นตอนก็จะเกิดความสัมพันธ์ของตัวละคร ซึ่งก็เปรียบได้กับความรักที่ต้องผ่านการบ่มเพาะ ซึ่งไม่ต่างกับชีสที่ต้องใช้เวลาในการทำเช่นกันค่ะ”

ประสบการณ์ครั้งแรกในฐานะนักแสดง

มาร์มิ้งค์ : “จากการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการแสดงภาพยนตร์แบบจริงจังครั้งแรกของเรา ก็ทำให้มีความกดดัน และตื่นเต้นเล็กน้อยค่ะ ส่วนอุปสรรคน่าจะเป็นเรื่องของเวลาค่ะ เพราะเรามีเวลาเตรียมตัวกันน้อยมาก และใช้เวลาถ่ายทำไปแค่ 3 วันเท่านั้น รู้สึกประทับใจทีมงานที่ช่วยให้กำลังใจเราตลอด และผู้กำกับที่ใจเย็นกับพวกเราเพราะเข้าใจว่า เรายังเป็นมือใหม่กันทั้งคู่”

คนิ้ง : “ความประทับใจอย่างแรกก็คือนี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้แสดงอย่างจริงจังค่ะ เราอาจจะทำพลาดไปบ้างระหว่างถ่ายทำแต่ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนอุปสรรคก็น่าจะเป็นประสบการณ์ในการแสดงของเราที่ยังน้อยมาก ๆ ค่ะ แต่ก็ได้ผู้กำกับที่คอยแนะนำเทคนิคต่าง ๆ ให้ค่ะ อีกอย่างเรามีเวลาน้อยก็เลยไม่สามารถทำความรู้จักกับตัวละครได้มากนัก”

รู้สึกยังไงนะเวลาเข้าฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกัน

มาร์มิ้งค์ : “เราทั้งคู่เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาเข้าฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกัน มันก็จะรู้สึกไม่เชิงเขินอาย แต่น่าจะเป็นขำมากกว่า โดยเฉพาะฉากที่ต้องจ้องตากันก็ต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ หรือบางทีก็จะมีหลุดขำไปบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกดีค่ะ”

คนิ้ง : “สำหรับในพาร์ตของพวกหนู มันไม่ได้มีฉากที่กุ๊กกิ๊กอะไรกันมากขนาดนั้นค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็มีฉากที่ต้องอยู่ใกล้ ๆ กันบ้าง ซึ่งก็ถ่ายกันนานอยู่ค่ะเพราะต้องมานั่งกลั้นหัวเราะ เพราะเวลาเรา 2 คนอยู่ใกล้ ๆ กันแล้วมันจะชอบหลุดขำออกมา”

บทบาทที่อยากลองแสดงสักครั้ง

มาร์มิ้งค์ : “บทที่ได้รับใน The Cheese Sisters ไม่ได้ห่างไกลจากความเป็นตัวเรามากเท่าไร ดังนั้นถ้ามีโอกาสจึงอยากจะลองแสดงบทอะไรที่มันดูไกลตัวเราหน่อย คิดว่าน่าจะตื่นเต้นดีค่ะ แต่ไม่ได้มีบทไหนที่รู้สึกว่าอยากลองเล่นเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้ามีโอกาสเข้ามาก็อยากจะลองเล่นทุกบทเลยค่ะ”

คนิ้ง : “สำหรับหนูแล้วการแสดงมันช่วยให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ รู้สึกเหมือนเป็นตัวเราอีกคน ส่วนบทที่อยากจะลองแสดงก็เป็นบทแนวสืบสวนสอบสวนค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบภาพยนตร์แนวนี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองแสดงดูค่ะ”

การค้นพบความสามารถในการเขียนเพลงของมาร์มิ้งค์

มาร์มิ้งค์ : “ก่อนหน้านี้เคยได้ร่วมโปรเจคท์ อินดี้ แคมป์ ค่ะ ทำให้เรามีโอกาสได้ลองแต่งเพลง และได้ลองทำเพลงของตัวเองขึ้นมา นี่คือจุดที่ทำให้เริ่มต้นแต่งเพลงค่ะ ส่วนวัตถุดิบก็เอามาจากประสบการณ์ของตัวเอง เอามาจากสิ่งที่เรารู้สึก เอามาจากสิ่งที่เราได้เจอก็จะหยิบมาเขียนเป็นเพลงค่ะ”

ความรู้สึกของ คนิ้ง เมื่อได้ไปทะเลครั้งแรก

คนิ้ง : “ความจริงเคยไปทะเลตอนเด็ก ๆ มาแล้วค่ะ แต่มันนานมากจนลืมความรู้สึกในตอนนั้นไปแล้ว ดังนั้นพอได้กลับมาทะเลอีกครั้งตอนซิงเกิล Sayonara Crawl ซึ่งเราโตพอจะจดจำความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้แล้ว มันก็เลยรู้สึกว่า ทะเลคือความแปลกใหม่ที่เด็กภาคเหนืออย่างเราไม่ค่อยได้พบเจอค่ะ (หัวเราะ) แต่ถ้าให้เลือกระหว่างทะเลกับภูเขา ก็ยังชอบภูเขามากกว่าค่ะ”

ความในใจจาก มาร์มิ้งค์ ถึง คนิ้ง

มาร์มิ้งค์ : “รู้สึกชื่นชม คนิ้ง ที่เป็นเด็กที่มีความตั้งใจ และเต็มที่กับทุกงาน รวมทั้งทุกโอกาสที่ได้รับ ซึ่งเรื่องนี้มันสื่อออกมาจากแววตาของน้องเลย นอกจากนี้ยังเป็นเด็กที่จริงใจ มีน้ำใจ มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลย แต่ก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพเพราะช่วงนี้เราทำงานกันหนักมาก อยากให้น้องรักษาสุขภาพ และพยายามพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ”

ความในใจจาก คนิ้ง ถึง มาร์มิ้งค์

คนิ้ง : “เราเติบโตขึ้นมาด้วยกันตลอด 3 ปีที่อยู่กับ CGM48 ค่ะ ก็ได้เห็นพี่มิ้งค์พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ พี่มิ้งค์เป็นคนที่มีความพิเศษเฉพาะตัวค่ะ และไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นตัวเขาที่มีเอกลักษณ์เหมือนเดิม หนูชอบพี่เค้าที่เป็นแบบนี้ค่ะ ส่วนเรื่องที่เป็นห่วงก็เป็นเรื่องงานค่ะ เพราะซิงเกิลที่ 5 ของ CGM48 ที่พี่มิ้งค์เป็นเซ็นเตอร์กำลังจะถูกปล่อยออกมา และต้องทำงานอื่นไปด้วยทำให้มีเวลาซ้อมน้อยมาก พี่มิ้งค์ก็เลยกังวลเพราะอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ส่วนหนูก็จะคอยเอาใจช่วย อยากจะเป็นแรงใจให้ค่ะ”

เพลงที่ชอบที่สุดของ 48 กรุ๊ปไทย

มาร์มิ้งค์ : “สำหรับเพลงของ 48 กรุ๊ปไทยที่ มาร์มิ้งค์ ชอบมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเพลง 2565 ของ CGM48 ที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้ค่ะ เพราะนอกจากจะชอบทำนอง และเนื้อหาแล้ว มาร์มิ้งค์ ยังมีโอกาสได้เป็นเซ็นเตอร์ด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเพลงยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาค่ะ”

คนิ้ง : “ชอบเพลง ถึงแม้จะมีน้ำตา (Temodemo No Namida) ค่ะ เป็นเพลงที่ใช้ในเธียเตอร์ ซึ่ง พี่เฌอปราง กับ พี่มิวสิค ร้องคู่กันค่ะ หนูชอบทำนองเพลงนี้มากเพราะมันให้ความรู้เชื่อมโยงกับการ์ตูนอนิเมะที่เราชื่นชอบค่ะ”

พี่ BNK48 รุ่น 1 ที่อยากเข้าไปจับมือมากที่สุด

มาร์มิ้งค์ : “เป็นคำถามที่ตอบยากมากค่ะเพราะเราชื่นชมรุ่นพี่รุ่น 1 ทุกคนเลย แต่ถ้าต้องเลือกก็ขอเลือกไปจับมือพี่เนยค่ะเพราะชื่นชอบพี่เนย พี่เนยเป็นคนน่ารักมาก ๆ เราก็เลยอยากจะลองไปจับมือกับพี่เนยในฐานะแฟนคลับดูบ้าง น่าจะได้พลังบวกกลับมาเยอะเลยค่ะ”

คนิ้ง : “ขอสัก 2-3 คนได้ไหม (หัวเราะ) แต่ถ้าให้เลือกก็อยากจะจับมือกับ พี่เปี่ยม ค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เราไม่เคยได้คุยกับเขา หรือได้ทำงานร่วมกันเลย ได้เจอกันครั้งแรกตอนงานกีฬาสีที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้รู้ว่า พี่เปี่ยมเป็นคนใจดีค่ะ ก็เลยอยากจะเข้าไปจับมือ และคุยกับพี่เปี่ยมว่า พี่เลือกเส้นทางได้ดีแล้ว และขอให้ชอบในสิ่งที่เลือก หนูชอบพี่เปี่ยมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเพราะเขาเป็นคนน่ารักมาก แรก ๆ อาจจะมีกลัวบ้างเพราะดูเหมือนจะดุ แต่พอเอาเข้าจริงพี่เปี่ยมเป็นคนตลก และน่ารักมากค่ะ”

กีฬาโปรดของ “คนิ้ง”

มาร์มิ้งค์ : “ชอบเล่นกีฬาหลายอย่างค่ะ แต่ที่ชอบมากที่สุดมี 2 ประเภท ประเภทแรกก็คือว่ายน้ำค่ะเพราะเป็นกีฬาที่เรารู้สึกว่าสนุกดีเพราะได้ทำกิจกรรมอยู่ในน้ำเหมือนได้เล่นน้ำไปด้วย ส่วนอีกประเภทก็คือแบดมินตันค่ะ มาร์มิ้งค์เรียนแบดมินตันมาตั้งแต่เด็ก และรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เล่นกับเพื่อน ๆ และครอบครัวค่ะ”

คนิ้ง : “หนูชอบเล่นแบดมินตันค่ะ เพราะตอนเด็ก ๆ จะชอบเล่นกับคุณพ่อ อีกอย่างก็เป็นกีฬาที่เล่นแล้วเรารู้สึกว่า มันถนัด เข้ามือดีค่ะ”

กีฬาประเภทคู่ที่อยากเล่นด้วยกัน

มาร์มิ้งค์ : “อยากพายเรือคยัคคู่กันค่ะ คิดว่า น่าจะสนุกดีค่ะถ้าได้ลองพายเรือคู่กับคนิ้ง บางทีน้องอาจจะมีเทคนิคพิเศษอะไรบางอย่างในการพายเรือก็เป็นได้”

คนิ้ง : “อยากเล่นกีฬาพายเรือคยัคเหมือนกันค่ะ เพราะยังไม่เคยพายเรือเลย อยากลองเล่นดูสักครั้ง”

เมื่อจิตใจมีปัญหาต้องเยียวยาด้วยวิธีนี้

มาร์มิ้งค์ : “ถ้าจิตใจมีปัญหาจะกลับมาอยู่กับลมหายใจของตัวเองค่ะ เพราะเวลาเรามีปัญหารุมเร้าเราก็จะเครียด อารมณ์เราก็จะแปรปรวน แต่ถ้าเราทำตัวให้นิ่ง ๆ กลับมาอยู่กับลมหายใจ ทำใจให้เบาสบาย ไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือเรื่องในอดีต กลับมาอยู่กับปัจจุบัน รวมทั้งพักผ่อนสักเล็กน้อยก็น่าจะช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีค่ะ”

คนิ้ง : “เวลามีปัญหาหนูจะชอบกลับไปใช้เวลาอยู่กับตัวเองค่ะ การนอนก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ แต่วิธีที่ทำบ่อยที่สุดในช่วงหลังก็คือการกลับไปอยู่กับครอบครัวค่ะ กลับไปชวนคุณพ่อคุณแม่ออกไปเที่ยว ไปสูดอากาศข้างนอก ก็เป็นการช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีค่ะ”

อยากจะบอกกับแฟนคลับว่า

มาร์มิ้งค์ : “อยากขอขอบคุณทุกคนค่ะ เพราะทุกโอกาสที่เราได้รับก็เพราะมีแฟนคลับคอยสนับสนุนเราอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังอยากขอบคุณแฟนคลับที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอไม่ว่าเราจะพบเจอกับอะไร ขอบคุณที่คอยติดตามมาร์มิ้งค์มาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุขเช่นกัน รวมทั้งรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ”

คนิ้ง : “ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว และอยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันต่อไปนาน ๆ ค่ะ ฝากคอยเป็นกำลังใจให้กัน และฝากให้เฝ้าดูการเติบโตของหนูในอนาคตด้วยเพราะปีนี้เหมือนจะผ่านอะไรมาเยอะมาก อยากให้ทุกคนคอยเอาใจช่วย และขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดนะคะ”

ฝากผลงาน และช่องทางการติดตาม

มาร์มิ้งค์ : “ฝากภาพยนตร์เรื่อง The Cheese Sisters ซึ่งเป็นเรื่องแรกของ มาร์มิ้งค์ กับคนิ้ง ด้วยค่ะ ซึ่งตอนนี้สามารถรับชมได้ทุกโรงภาพยนตร์แล้ว รวมทั้งขอฝากเพลง ลาลารัก เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ร้องโดยน้องแชมพูด้วยค่ะ ส่วนช่องทางการติดตามก็สามารถติดตามพวกเราได้ทางโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ขอบคุณมากค่ะ”

คนิ้ง : “ฝากภาพยนตร์ The Cheese Sisters ที่สามารถรับชมได้ทุกโรงภาพยนตร์แล้วอย่าลืมเข้าไปดูการแสดงของทั้งตัวหนู และพี่มาร์มิ้งค์กันเยอะ ๆ นะคะ ส่วนช่องทางการติดตามก็มีทั้งเฟซบุ๊ก และไอจี Kaning CGM48 ค่ะ พิมพ์ไปได้เลยเจอแน่นอน รวมทั้งฝากติดตามเมมเบอร์คนอื่น ๆ ของ CGM48 ด้วย ขอบคุณค่ะ”.

เรื่อง/ภาพ : ประพนธ์ ปัญหา

ชื่อ : มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์

       ชื่อเล่น : มาร์มิ้งค์

       วง : CGM48

       วันเกิด : 07 .. ปี 1999

       กรุ๊ปเลือด : AB

       ภูมิลำเนา : กรุงเทพฯ

       สิ่งที่ชอบ : ชอบสติกเกอร์, ปลูกต้นไม้, ทำอาหาร, ชอบเต้าหู้, เห็ด และผักทุกชนิด, ชอบGhibli, ชอบแต่งตัว และแฟชั่น

       งานอดิเรก : วาดรูป คุยกับโมโม่ ฟังเพลง มองออกไปนอกหน้าต่าง

       ช่องทางการติดตาม : FB : Marmink CGM48, IG : marmink.cgm 48 off ificial

ชื่อ : วิทิตา สระศรีสม

       ชื่อเล่น : คนิ้ง

       วง : CGM48

       วันเกิด : 15 .. ปี 2004

       กรุ๊ปเลือด : A

       ภูมิลำเนา : เชียงใหม่

       สิ่งที่ชอบ แมว, การทำขนม

       งานอดิเรก : วาดรูป, ฟังเพลง, ดูอนิเมะ, เล่นเกม

       ช่องทางการติดตาม : FB : Kaning CGM48, IG : kaning.cgm 48 off ificial