เสียงส่วนใหญ่ของกรมการศึกษาธิการใน 38 รัฐของสหรัฐอเมริกา ที่ตอบแบบสอบถามในการสำรวจของสำนักข่าวเอพี ช่วงฤดูร้อนนี้ระบุว่า การมีโรงเรียนเสมือนจริงแบบถาวรเพิ่มขึ้น และโครงการสนับสนุนน่าจะเกิดขึ้นมาได้ ในปีการศึกษาที่จะถึงนี้
สิ่งที่ขับเคลื่อนให้ผู้ปกครองเห็นด้วยกับแนวคิดโรงเรียนเสมือนจริงนั้น ก็มาจากความวิตกกังวลเป็นหลักจากผลของการแพร่ระบาด แต่ก็เห็นด้วยกับการยืดหยุ่นและเป็นอิสระขึ้น กับกลไกด้านการศึกษาทางไกล เขตการศึกษาเองก็ยังอยากให้รักษาระบบการรับสมัครเพื่อศึกษาเหมือนเดิม หลังเห็นนักเรียนหันไปสนใจกับบทเรียนเสมือนจริงมากขึ้น การเรียนที่บ้าน โรงเรียนเอกชน และอื่น ๆ เพราะหากตัวเลขลดลง งบประมาณสนับสนุนเพื่อการนี้ ก็จะลดลงตามไปด้วย
แดน โดมินิก ผอ.บริหารสมาคมผู้บริหารโรงเรียนอเมริกัน บอกว่า นี่คืออนาคต บางรัฐอาจจะยังไม่ยอมรับในตอนนี้ แต่ไม่ช้าก็จะเข้าใจและดำเนินตาม เมื่อได้เห็นรัฐอื่น ๆ ทำแล้วและได้ประโยชน์
คาเรน สเตราส์ ผู้ปกครองจากรัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งสูญเสียน้องเขยไปจากไวรัสโควิด-19 บอกว่า เด็กวัยรุ่นซึ่งฉีดวัคซีนแล้วคงอยากกลับไปเรียน แต่เธอก็อยากให้โลแกนลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ อยู่ที่บ้านในเมืองบริดจ์วอเตอร์ก่อน จนกว่าลูกชายจะได้ฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งลูกชายก็ทำผลงานได้ดีในการเรียนออนไลน์ ภายใต้การสอนของคุณครู ซึ่งคงจะไม่ได้มาสอน หากเธอสอนเขาเองอยู่ที่บ้าน เธอบอกว่า ถ้าเรียนจากที่บ้านแล้วเป็นผลดีกับเด็ก ทำไมจะไม่ลองแบบนี้ นี่คือเหตุผลของการสนับสนุน ยกเว้นแต่คุณจะไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
แผนของเขตการศึกษาของการเรียนระยะยาว ในโครงการเสมือนจริงเต็มเวลา ซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะการแพร่ระบาดใหญ่ นักเรียนในสถาบันเสมือนจริง จะเรียนต่างจากนักเรียนอื่น ๆ ของเขตการศึกษา
ในรัฐเวอร์จิเนียก่อนการแพร่ระบาด โรงเรียนส่วนใหญ่จะเสนอโครงการเรียนเสมือนจริงให้กับนักเรียนในระดับเกรด 6-12เท่านั้น ส่วนที่เรียนเต็มเวลาก็มี ในปีการศึกษาใหม่พบว่า 110 โรงเรียนจาก 132 โรงเรียนในเครือ ใช้หลักสูตรเสมือนจริงเวอร์จิเนีย โครงการของรัฐปฏิบัติการเค-12 เพื่อให้นักเรียนบางส่วนหรือทั้งหมดของการเรียนเต็มเวลาได้เรียน พบว่า 7,636 คน สมัครเรียนเต็มเวลาในภาคเรียนนี้ เทียบกับจำนวน 413 คน สมัครเรียนเมื่อปีการศึกษา 2562-2563
ส่วนในรัฐเทนเนสซีก็ได้อนุมัติโรงเรียนออนไลน์ใหม่ 29 โรงเรียน สำหรับปีการศึกษา2564-2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงสิบปีก่อน รัฐโคโลราโดจัดตามคำร้องขอเปิดเรียนออนไลน์ถาวร 1 แห่ง และออนไลน์หลายเขตถาวรด้วย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนไวรัสระบาดใหญ่ รัฐมินนิโซตาก็พบตัวเลขเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงได้อนุมัติเรียนออนไลน์ใหม่ 26 โรงเรียน เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และกำลังพิจารณาให้อีก 15 รายที่ยื่นคำร้องมา
รัฐนิวเม็กซิโกก็เหมือนกับอีกหลายรัฐ ที่เสนอให้เรียนแบบตัวต่อตัวในปีนี้ และโรงเรียนเอกชนริโอ แรนโช ใช้งบประมาณช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางมาสนับสนุนการเรียนทางไกลเต็มตัว เค-5สปาอาร์อาร์เค อะคาเดมี ซึ่งผลการสำรวจยังพบว่าเกือบ 600 ครอบครัว ของนักเรียน 7,500 คน สนใจที่จะให้มีการเรียนเสมือนจริงต่อไป
แม้ว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะแพร่ระบาดไปทั่ว ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นเรื่องใหญ่บดบังการเริ่มภาคเรียน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และผู้บริหารการศึกษาทั่วประเทศสนับสนุนให้ใช้การเรียนแบบตัวต่อตัว เพราะยังกังวลเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคมจะถูกเพิกเฉย และไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั่นเอง
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AP
