วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าขอทำงานการเมืองอีก 2 ปี จากนั้นจะมีคนใหม่ที่เหมาะสม ประชาชนยอมรับ มาทำต่อเท่านั้นเอง
ตรรกะ “ประชาธิปไตย” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ฟังดูทะแม่ง ๆ จึงเจอนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ปัจจุบันทำงานการเมืองอยู่กับพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กตอกไปว่า “ขอเวลาอีก 2 ปี ไม่ว่ากัน แต่อย่าเอาเปรียบแบบไม่ใช่ลูกผู้ชาย” พร้อมทั้งขยายความอีก 4 ข้อ แต่ที่ชัดมากคือข้อ 4 กล้าพูดแบบแมน ๆ เลย ถ้าพรรคผมไม่ได้อันดับหนึ่ง ผมจะไม่แย่งตั้งรัฐบาล ผมจะไม่ขอให้ ส.ว. 250 คน โหวตเลือกผม!
นอกจากเรื่องทำงานการเมืองต่อไปอีก 2 ปีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังตอบคำถามสื่อถึงกรณี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ออกมาประกาศค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ภายในปี 70 ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลสมัยหน้า ส่วนคนจบปริญญาตรีสตาร์ตเงินเดือน 25,000 บาท
เรื่องค่าแรง 600 บาท ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขนาด 6 ริคเตอร์ เลยทีเดียว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ตอบสื่อว่า “ต้องไปดูว่าทำได้จริงหรือเปล่า การจะทำโน่นทำนี่มันไม่ง่ายนักหรอก จะเอาเงินมาจากไหน”
ส่วน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน-กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าอย่าหาเสียงเพราะนึกสนุก แต่ควรคำนึงถึงหายนะทางเศรษฐกิจ เหมือนโยนระเบิดเวลาให้เจ้าของกิจการ กระทบต่อนักลงทุนต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุน
ขณะที่ นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่าสนับสนุนค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาท/วัน หรือประมาณ 13,000 บาทต่อเดือนของพรรคเพื่อไทย และสนับสนุนแนวคิดสวัสดิการถ้วนหน้าของพรรคก้าวไกลเช่นกัน โดยสองอย่างนี้ทำพร้อมกันได้และคนได้ประโยชน์คือประชาชน คน 99% ไม่ต้องตีกัน ไม่ต้องเดือดร้อนแทนนายทุน เจ้าสัว ไม่ต้องคิดแทนประชาชน เรื่องนี้ดีทั้งคู่และไม่มีใครตายจากนโยบายทั้งหมดนี้แน่นอน เก็บแรงไว้ตีนโยบายสังคม สงเคราะห์ของพลังประชารัฐ และค่าแรงแบบพอเพียงของพวกอนุรักษนิยมดีกว่า
งานนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ออกมาโยนระเบิดเวลาค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ทำให้หลายคนเหลือบมองไปนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐช่วงต้นปี 62 ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท/วัน จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท เด็กจบใหม่เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี แต่ทำไม่ได้สักเรื่อง จึงดิ้นกันพล่าน!
เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ช่วง 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศ “จีดีพี” โตเฉลี่ยปีละ 1% กว่า ๆ รั้งท้ายในอาเซียน เรียกว่าโตไม่ทันกับค่าครองชีพของประชาชนที่พุ่งสูงขึ้นมาก จนรายได้ไม่สอดรับกับรายจ่าย “จีดีพี” โตช้ากว่าหนี้สาธารณะและหนี้ภาคครัวเรือน
1 ต.ค. 65 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ปรับค่าแรงขั้นต่ำ ชนิดที่น้ำตาของผู้ใช้แรงงานแทบไหลริน! เพราะปรับขึ้นอีกวันละ 8-22 บาท โดยอัตราสูงสุดคือวันละ 354 บาท และต่ำสุด 328 บาท
ย้อนไปยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” จะปรับเป็น 300 บาทก็มีเสียงคัดค้าน! แต่สุดท้ายปรับค่าแรงขั้นต่ำมายืนอยู่ที่ 300 บาทได้สำเร็จ! ผ่านมาเกือบ 10 ปี ค่าจ้างขั้นต่ำกระดืบมาอยู่ที่ 328-354 บาทเท่านั้นเองนายกฯประยุทธ์!
ส่วน “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช พูดชัดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลปี 66-70 จะทำให้ “จีดีพี” โตเฉลี่ยปีละ 5% นี่คือเป้าหมายก่อนไปสู่ 600 บาท ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานต้องไปด้วยกันได้!!.
