ข่าว “สง่างาม” เมื่อ 2 วันก่อน เมื่อนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียขอลาออกจากตำแหน่ง เพราะล้มเหลวในการบริหารประเทศช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลตีตัวออกห่าง จนกุมเสียงข้างมากในรัฐบาลผสมไว้ไม่ได้!
“พยัคฆ์น้อย” อ่านข่าวเก่าจากหลายสำนัก ทราบว่าคนมาเลย์ได้ฉีดวัคซีนซิโนแวค แอสตราเซเนกา และไฟเซอร์
โดยเฉพาะข่าวใหญ่กรณี รมว.สาธารณสุขแถลงเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 ว่ามาเลเซียมีไฟเซอร์ 45 ล้านโด๊ส มากพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 70% และจะเลิกฉีดซิโนแวคทันทีหากหมดลอต (16 ล้านโด๊ส) เพื่อฉีดไฟเซอร์เป็นวัคซีนหลัก
ขนาดมีไฟเซอร์มากถึง 45 ล้านโด๊ส แต่คนมาเลย์ยังออกมาประท้วงไล่รัฐบาลที่บริหารจัดการโควิดล้มเหลว!
การลาออกของนายกฯ มาเลเซีย จึงสง่างาม ล้ำค่ากว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กับ “แพทย์” บางคนที่ชอบเล่นการเมือง อย่างเทียบกันไม่ติดฝุ่น!
เนื่องจากคนไทยจำนวนไม่น้อยได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัส จากปัญหาการบริหารจัดการโควิด-19 วัคซีนของรัฐบาล และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องรุมเร้า แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับรีบเห็นชอบให้แทรกการ “นิรโทษกรรม” บุคลากรการแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัคร ไว้ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ
ขณะเดียวกันวันดังกล่าว (17 ส.ค.) ครม.เพิ่งจะอนุมัติวงเงิน 9.37 พันล้านบาท เพื่อซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโด๊ส คาดว่าไฟเซอร์ลอตแรกจะมาถึงไทยประมาณเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ถือว่าล่าช้ากว่ามาเลเซียหลายเดือน
นอกจากนี้รัฐบาลยังสั่งซิโนแวคเข้ามาอีก 12 ล้านโด๊ส แล้วแพทย์บางคนออกมาบอกว่าสั่งซิโนแวคมา “ฉีดไขว้” กับแอสตราฯ ทั้งที่สำนักข่าวต่างประเทศระบุไทยขาดแคลนวัคซีน เตรียมขอยืมแอสตราฯ จากประเทศภูฏาน 1.5 แสนโด๊ส
ข่าวการขาดแคลนวัคซีนคงเป็นเรื่องจริง เพราะโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์เพิ่งบ่นปัญหาการส่งมอบวัคซีนแอสตราฯ ที่ยังเงียบอยู่ จนต้องยืมวัคซีนจากโรงพยาบาลอื่นมาฉีดให้ประชาชนไปก่อน และอีก 2 วันวัคซีนคงจะหมด
เรื่องนี้ต้องถาม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ว่าแอสตราฯ 61 ล้านโด๊สที่สั่งซื้อไว้ไปถึงไหนแล้ว? มีการทวงถามผู้ผลิตวัคซีนบ้างหรือยังว่าจะจัดส่งให้อีกเมื่อไหร่? จำนวนกี่โด๊ส? เมื่อไหร่จะครบ 61 ล้านโด๊ส?
มันน่าอายหรือเปล่า? ที่ประเทศญี่ปุ่นบริจาคแอสตราฯ มาให้กว่า 1 ล้านโด๊ส แถมต้องระบุมาด้วยว่าห้ามใช้ทางการทหาร มันน่าอายมั้ย? ถ้าไทยต้องบากหน้าไปขอยืมแอสตราฯ มาจากภูฏาน
ไหนจะกรณีอเมริกาบริจาควัคซีนไฟเซอร์มาให้ฉีดแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัคร “ด่านหน้า” ก่อน! แต่มีข่าวเชิงลบทั้ง “อม” วัคซีนไปดื้อ ๆ แพทย์บางคนก็มั่วนิ่มพาผัว-เมีย-แม่-พี่น้อง มาฉีดไฟเซอร์ด้วย
ท่ามกลางความมั่ว! ความ “ล้มเหลว” ของระบบสาธารณสุขที่ปล่อยให้มีคนตายบนถนน บนฟุตปาธ ตายคาบ้าน เพราะหาเตียงไม่ได้ แต่จู่ ๆ รีบออก “นิรโทษกรรม” ท่ามกลางความบอบช้ำของประชาชนที่ต้องป่วยและล้มตายเพียบ!
เนื่องจากยังไม่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง และการนำเข้าวัคซีนที่ประชาชนเชื่อมั่นในคุณภาพ ดูช่างแสนลำบากยากเข็ญ
แต่กลับออก “นิรโทษกรรม” โดยรัฐบาลที่มีนายกฯ เคยทำรัฐประหาร แล้ว “นิรโทษกรรม” ให้ตัวเองมาก่อน ดังนั้นประชาชนจึงไม่ได้อะไร เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ไม่เข้าท่าไว้ใช้เฉพาะกลุ่ม จึงเกิดคำถามว่าจะออกมาเพื่ออุ้มแพทย์ที่ทำเรื่องเลอะเทอะไว้กับชาวบ้านใช่หรือไม่!!.
—————-
พยัคฆ์น้อย