บุตรสาวของนายคิม จอง-อึน ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อ ปรากฏตัวในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ครั้งใหม่ เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ โดยเป็นภาพที่เธอเฝ้าดูการยิงขีปนาวุธ และจับมือบิดาในระหว่างที่เขาตรวจสอบขีปนาวุธ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า สิ่งนี้เป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า นายคิมมีบุตร และ “ตระกูลคิมจะอยู่ที่นี่”
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า เธอเป็นผู้สืบทอด หรือเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่สร้างความมั่นใจให้กับพลเมืองว่า อาวุธนิวเคลียร์จะปกป้องเด็ก ๆ ในประเทศ และเป็น “อนุสรณ์สถานที่ส่งต่อไปยังลูกหลานรุ่นหลัง” ตามที่สื่อเกาหลีเหนือรายงาน
นางชุน ซู-จิน ชาวเกาหลีใต้ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้นำหญิงชาวเกาหลีเหนือ กล่าวว่า โอกาสซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ จะต้อนรับบุตรสาวของนายคิมในฐานะผู้ปกครองนั้น “แทบจะเป็นศูนย์” เนื่องจากพวกเขายังไม่พร้อมต้อนรับผู้นำเพศอื่น และภาพที่ออกมาเป็นเพียงการจัดฉากโดยนายคิม เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นพ่อที่รักลูก ไม่ใช่แค่เผด็จการโหดเหี้ยมที่เอาแต่ยิงขีปนาวุธ
แต่นักวิเคราะห์คนอื่นโต้แย้งว่า เพศไม่อาจตัดสิทธิบุตรสาวหรือผู้หญิงคนอื่นจากการปกครองประเทศได้ แม้ว่าเกาหลีใต้จะมีสังคมปิตาธิปไตยแบบฝังลึกก็ตาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายไมเคิล แมดเด็น ผู้อำนวยการของ “นอร์ธ โคเรีย ลีดเดอร์ชิป วอตช์” ที่เชื่อว่า มันยังมีเวลามากพอที่จะให้นายคิมพิจารณาผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไป รวมถึงการเปลี่ยนแปลง และสร้างเงื่อนไขสำหรับผู้สืบทอดที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย
ผู้หญิงมีบทบาทระดับสูงในเกาหลีเหนือมานานหลายปี กระนั้น นายคิม จอง-อิล อดีตผู้นำสูงสุดผู้ล่วงลับ กลับไม่สนใจบุตรสาวและบุตรชายอายุมากของเขา เพื่อแต่งตั้งนายคิม จอง-อึน ให้สืบทอดอำนาจ อีกทั้งรายงานในปี 2563 ของ “38 นอร์ธ” ยังระบุว่า การมีส่วนร่วมของผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือในการเมืองระดับสูงที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบสังคม หรือระบบการเมืองในวงกว้างแต่อย่างใด
จากรายงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ น.ส.คิม โย-จอง ซึ่งเชื่อว่ามีอายุประมาณ 30 ปีตอนต้น น้องสาวคนเดียวของนายคิม ถือเป็นสมาชิกสายตรงเพียงคนเดียวในครอบครัว ซึ่งมีบทบาททางการเมืองอย่างเปิดเผย และในบางกรณี เธอยังรับหน้าที่เป็นผู้นำสูงสุดอันดับสอง “โดยพฤตินัย” ด้วย
หากอ้างอิงจากผู้นำคนก่อน ๆ แมดเด็น กล่าวว่า เด็กทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาและประสบการณ์ในการทำงาน ก่อนที่พวกเขาจะได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ ซึ่งในอีกประมาณ 10 ปีต่อจากนี้ เราทุกคนสามารถคาดหวังให้บุตรสาวของนายคิม เริ่มอาชีพอย่างเป็นทางการได้
และถ้าใน 10 ปีข้างหน้านี้ บุตรสาวของนายคิมมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่าง ๆ เมื่อนั้นแล้ว โครงสร้างทางการเมืองและทางทหารของเกาหลีเหนือ อาจวางตำแหน่งให้เธอเป็นผู้นำสูงสุดรุ่นถัดไปก็เป็นได้.
เลนซ์ซูม