ตอนนี้ไม่ว่าจะแกนนำ หรือ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ต่างกระอักกระอ่วน เมื่อเจอนักข่าวถามเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองว่า จะอยู่กับใคร ระหว่าง “ประวิตร-ประยุทธ์”

แต่คนที่เชี่ยวกรากทางการเมือง ย่อมรู้ดีว่างานนี้เป็น “เกม” ของ 2 ป. ไม่ได้ฟาดฟันกันจริง ๆ แต่เป็น “เกม” แห่งอำนาจ ผ่านยุทธวิธีแยกกันเดิน แยกกันตี! เพื่อไม่ให้อำนาจหลุดลอยไปไหน ไม่ว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะตกอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเปลี่ยนมาเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้ทั้งนั้น

แต่อย่าลืมว่า เลือกตั้งปี 62 พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวอย่างคึกคัก กวาดต้อน ส.ส. ซุ้มต่าง ๆ มาเข้าพรรค จนถูกค่อนแคะว่าใช้ทั้ง “กล้วย” ใช้ทั้งเงื่อนไขช่วยปัดเป่า “ชนักปักหลัง”

รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายกรัฐมนตรีได้รับคะแนนไว้วางใจ 272  ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล

ทำให้พรรคพลังประชารัฐได้จำนวน ส.ส. เข้ามาเป็นอันดับ 2 แต่ต้อง “รวมเสียง” ส.ส.พรรคต่าง ๆ เกือบ 20 พรรค จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลดัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ รอบที่ 2 ได้สำเร็จ แม้จะล่วงเลยไปประมาณ 100 วัน

แต่เลือกตั้งคราวหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค มีบารมี มีกระสุนดินดำมากพอที่จะกวาดต้อน ส.ส. และอดีต ส.ส. มาเข้าพรรค เพื่ออาบน้ำประแป้งแต่งตัวรอ พล.อ.ประยุทธ์ มาตัดริบบิ้น! เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐเคยทำได้หรือเปล่า?

ก่อนประชุมเอเปค พล.อ.ประยุทธ์ บอกนักข่าวว่า จะพูดถึงอนาคตการเมืองหลังเอเปค แต่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ พลิ้วไหวว่าหลังเอเปคคือหลังปีใหม่ไปโน่น! นั่นหมายถึงการทอดเวลาของตัวเองออกไปอีก ทำให้พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ตกอยู่ในห้วงบรรยากาศความคลุมเครือต่อไปเรื่อย ๆ

ตอนนี้กติกาชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งเที่ยวหน้า จะเป็นแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และวันที่ 30 พ.ย. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 หรือหาร 500 ถ้าบทสรุปออกมาว่าเดินหน้าหาร 100 พรรครวมไทยสร้างชาติ คงไปต่อได้ลำบาก! ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้อง “ดึงเช็ง” ไว้หลังปีใหม่ เพราะยังไม่มั่นใจพรรครวมไทยสร้างชาติ จะกวาดต้อน ส.ส. และอดีต ส.ส. เข้ามาเป็น “นั่งร้าน” ได้มากแค่ไหน

วันก่อนนักข่าวถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าจุดยืนของพรรคจะอยู่ข้าง พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร นายอนุทินตอบทันทีว่าเลือกข้างนานแล้ว นั่นคือเลือกข้างประชาชน

นายกฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางชื่อ คิกออฟฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วไทย :  อินโฟเควสท์

“พยัคฆ์น้อย” ได้ยินแล้ว อยากจะสวนไปว่า ถ้าเลือกข้างประชาชนจริง ๆ นายอนุทินต้องเป็นนายกฯ ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 62 แล้ว! เนื่องจาก 6 มี.ค. 62 (ก่อนเลือกตั้ง) นายอนุทินพูดว่า ภูมิใจไทยยืนคนละขั้วกับทหารและพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พร้อมทั้งย้ำด้วยว่านายกฯ ต้องมาจาก ส.ส.

แต่หลังจากนั้น นายอนุทินยอมให้นายกฯ มาจากการโหวตของ 250 ส.ว.ลากตั้ง! ถ้าเลือกข้างประชาชนจริง ๆ นายอนุทินต้องเป็นนายกฯ ตามคำชักชวนของพรรคเพื่อไทย เพื่อ “ปิดสวิตช์” คณะรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ!

ตอนนี้ร่วมรัฐบาลมาเกือบ 4 ปี อี๋อ๋อกันเป็นอย่างดี ตอน พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งพักงาน นายอนุทินยังถ่อไปเยี่ยมถึงกระทรวงกลาโหม ดังนั้นเลือกตั้งเที่ยวหน้า นายอนุทินคงผูกปิ่นโตอยู่กับ 2 ป. อีกนั่นแหละ ถึงพรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส. 120 คน แต่ “ประวิตร-ประยุทธ์” ยังไม่ให้ “อนุทิน” เป็นนายกฯ หรอก! ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ไม่ชวน “อนุทิน” มาเป็นนายกฯ อีกแล้ว!!

——————————-
พยัคฆ์น้อย