ตั้งแต่ฟุตบอลโลกเปิดฉากมาได้ราว 1 สัปดาห์ ชีวิตของนักข่าวไทยที่นี่ในแต่ละวัน แทบไม่มีกิจกรรมอื่น นอกจาก ดูบอล ดูบอล และ ดูบอล 

อย่างที่เคยเล่าไปว่า ฟุตบอลโลกหนนี้ ทั้งแฟนบอลและสื่อ สามารถดูเกมได้ถึงวันละ 2 คู่ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นไหน ๆ ก็ได้มาร่วมบรรยากาศฟุตบอลโลกทั้งที สื่อส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องควักกระเป๋าซื้อตั๋ว (รวมถึงผมด้วย)​ ก็ย่อมอยากดูบอลกันให้คุ้ม

ตามเวลาของที่นี่ บอลเเตะคู่แรกบ่ายโมง ส่วนคู่สุดท้ายเตะ 4 ทุ่ม ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง เป็นเวลาที่ค่อนข้างดึก กว่าบอลจะเลิกก็เที่ยงคืน กลับถึงที่พัก หัวถึงหมอน ปาเข้าไปตี 2 เป็นอย่างน้อย 

จากความทรงจำนั้น ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่าน ๆ มา นับตั้งแต่มีทีมร่วมฟาดแข้งเพิ่มเป็น 32 ทีม ส่วนใหญ่จะเตะกันวันละ 3 คู่ มีบ้างที่มีโปรแกรมแทรกเตะวันเดียว 4 คู่ แต่มีเพียงแต่ไม่กี่วัน 

แต่กับศึกเวิลด์ คัพ ฉบับทะเลทรายครั้งนี้ นอกจากวันเปิดสนาม และวันที่ 2 ของทัวร์นาเมนต์ ที่มีเตะกัน 3 คู่แล้ว ที่เหลือใน 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มนั้น โปรแกรมจะตะบี้ตะบันเตะกันวันละ 4 คู่ 4 เวลา แบบยาว ๆ ไปจนกระทั่งเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก ที่แต่ละสายเตะพร้อมกัน 2 คู่ วันละ 2 กลุ่ม เป็น 4 คู่ แต่มีแค่ 2 เวลา 

เหตุผลก็คงจะเดาไม่ยาก น่าจะเป็นเพราะนี่เป็นฟุตบอลโลกที่โผล่มากลางฤดูกาล เวลากระชั้นชิด ทำให้ต้องเร่งโปรแกรมให้จบได้โดยเร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้   

ดังนั้นช่วง 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ใครที่อยากดูบอลเยอะ ๆ ก็น่าจะหนำใจ แต่กระนั้น มันย่อมแลกมาด้วยอาการ “ล้า” อย่างเลี่ยงไม่ได้ 

อธิบายให้ฟังสักนิดว่า การไปดูเกม 1 นัด ต้องใช้พลังงานไม่น้อย แม้สื่อจะมีรถชัทเทิลบัสรับส่ง แต่จุดลงรถส่วนใหญ่จะอยู่นอกตัวสนามตามมาตรการ หมายความว่า ยังต้องเดินเป็นกิโล ๆ อยู่ดี ถ้าดูวันเดียว 2 นัด ก็ล้าเป็น 2 เท่า

ยิ่งถ้าคู่ที่ 2 ของวันจบเที่ยงคืน กว่าจะกลับถึงที่พักแต่ละวัน ต้องบอกว่า “ร่างจะแหลก” ร้าวไปทั้งสรรพางค์กาย 

แต่มันก็เป็นความทรมานที่บันเทิง และเต็มใจจะทรมานเป็นอย่างยิ่ง…!!!

ผยองเดช