ผ่านมาจะครบ 1 เดือนแล้ว ไหนๆก็เกาะติดตามต่อเนื่อง กับเรื่องราวการเปิดโปง แก๊งอาชญากรจากแดนมังกร ที่แผ่อิทธิพลมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ กำลังเตรียมฝังรากลึก บ้างก็แฝงตัวเป็นชาวไทย หากินแบบเนียน ๆ มาหลายปี

สุดท้ายบานปลาย โดนตีแผ่ออกมาให้เห็นถึง “กลุ่มทุนจีนสีเทา” กลายเป็นแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งมาเติบโตภายใต้ยุคสมัยของรัฐบาลประยุทธ์ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองว่า พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งอุตส่าห์รวบอำนาจกำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปไว้ด้วยนั้น จะหาทางออกในการแก้ปัญหาอีกเรื่องใหญ่ของสังคมที่เกิดขึ้นอย่างไร

ที่สำคัญพบด้วยว่า กลุ่มทุนจีนสีเทา ยังนำเม็ดเงินบางส่วนไปร่วมบริจาคให้พรรคการเมืองใหญ่ด้วย!!

บทสะท้อนผลงานของรัฐบาลประยุทธ์ ตอนนี้จึงแทบจะสุกงอมเกือบทุกๆด้านแล้ว ไม่ว่าจะด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 8 ปีที่ผ่านมากับการนำพารัฐนาวา แผ่นดินที่งดงามก็ยังไม่ได้คืนกลับมาเหมือนที่ตัวเองเคยวาดฝันเอาไว้ตอนยึดอำนาจใหม่ ๆ

ปัญหาสังคมโดยเฉพาะภัยอาชญากรรม นับเป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนจริง ๆ ข้อมูลที่ถูกตีแผ่ออกมาทำให้เห็นถึง กลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งทำธุรกิจมีทั้งแอบแฝงและผิดกฎหมายหลากหลายรูปแบบมานานหลายปี เพิ่งจะถูกกระชากหน้ากาก จากเคยโด่งดังเรื่อง “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ถูกปราบเงียบหายไป แล้วแปลงโฉมยกระดับมาทำธุรกิจ ผับบาร์ศูนย์เหรียญ บ่อนพนัน กาสิโนขนาดมินิฯ

ลองนึกภาพดูว่ากลุ่มทุนจีนสีเทาใจถึงหรือเส้นใหญ่ขนาดไหน ถึงขั้นกล้าเปิดทั้ง ผับบาร์บริการยาเสพติด บ่อนพนันหรูหรา ใจกลางเมืองกรุงและเมืองพัทยา หนำซ้ำเกือบทั้งหมดแทบจะโยงใยเป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งสิ้น ขนาดยังไม่นับรวม แก๊งพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึง การล่อลวงหญิงสาวค้าประเวณี

ถ้ายังพอจดจำคดีก่อนหน้านี้ เดือน ก.ย. 65 หญิงสาวชาวคีร์กีซสถาน ตัดสินใจกระโดดคอนโดหรูในพัทยา จ.ชลบุรี ฆ่าตัวตายหลังถูกแก๊งจีนลวงมาขายบริการในไทยอยู่นานกว่า 2 เดือน กระทั่งหนีออกมาได้ อุตส่าห์บากหน้าไปแจ้งความตำรวจ แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้เพราะแก๊งจีนยังโทรฯไล่ล่าตัว สุดท้ายตัดสินใจจบชีวิตอย่างน่าสงสารหดหู่ยิ่งนัก

รัฐบาลประยุทธ์ เสร็จสิ้นภารกิจ การประชุมเอเปค 2022 ในไทยไปเรียบร้อย คงต้องฝากความหวังไว้กับ บิ๊กต่อพล...ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ บิ๊กโจ๊กพล...สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กำลังลุยเดินหน้าเช็กบิลขุดรากถอนโคนเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ โดยเฉพาะเม็ดเงินผิดกฎหมายจำนวนมหาศาลที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุมาฟอกแบบแยบยล

ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ตอนนี้ แก๊งมังกรจีนข้ามชาติ กำลังถูกเด็ดปีกและขอดเกล็ดออกมาให้เห็น ในเมื่อ “บิ๊กต่อบิ๊กโจ๊ก” เปิดหน้าลุยแล้วก็ต้องไปให้ถึงที่สุด ยังมีหลากหลายปมน่าสงสัย บางคดีนอกจากจะพบ สวมบัตรประชาชนไทย ยังเจอพฤติกรรมแปลก ๆ ทั้งไปขอเป็นที่ปรึกษาให้กับบางสมาคมฯ มีรถประจำตำแหน่งหรูหรา ตกแต่งเลียนแบบรถทูต ติดประดับธงชาติไม่พอ ยังเลียนแบบรถตำรวจเอาไว้นำขบวนอีก มีคฤหาสน์ระดับร้อยล้าน หนำซ้ำบางคนยังมีเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวเสริมบารมี

สังคมยังคาใจสงสัย มีอีกหลายเรื่องกำลังเฝ้ารอคำตอบ โดยเฉพาะปม ใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง นักธุรกิจ พ่อค้า ฯลฯ เข้าไปมีเอี่ยวพัวพันช่วยเหลือ ตำรวจหน่วยงานเดียวคงสะสาง แก๊งทุนจีนสีเทา ได้ไม่สะเด็ดน้ำ ต้องมีหน่วยงานอื่นไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายปกครอง, ปปง., ดีเอสไอ, สรรพากร ฯลฯ เข้ามาช่วยเสริมทำคดีให้รัดกุม

เชื่อว่าคดียิ่งเข้มข้นมากขึ้น เมื่อ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินหน้ากัดไม่ปล่อย ทั้งไปยื่นข้อมูลหลักฐานให้ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ อีกทั้งยังหอบหลักฐานสำคัญไปยื่นต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบอีกทาง เรียกว่า การทลายเครือข่ายทุนจีนสีเทา ครั้งนี้ไม่จบง่ายต้องตามเกาะติดกันอีกยาว ๆ!!

——————-
เชิงผา