ทั้งนี้ มีสัญญาณสำคัญอย่างน้อย 2 ประการ ที่เห็นได้จากการเยือนจีนของนายจ่อง ประการแรก นายจ่องเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรก ซึ่งเยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ หลังการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน สมัยที่ 20 อีกประการหนึ่งคือ ในฐานะที่เป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม นายจ่องต้องการสื่อข้อความที่ชัดเจนว่า พรรคของเขายังคงเป็นพันธมิตรกับจีน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคคอมมิวนิสต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ตอนนี้เวียดนามอยู่ในกระแสน้ำวนของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่เชี่ยวกรากยิ่งขึ้น ซึ่งหากไม่ใช่การเผชิญหน้าแล้ว เวียดนามต้องจัดการความสัมพันธ์กับสองประเทศมหาอำนาจอย่างระมัดระวัง อีกด้านหนึ่ง การรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน คือความสำคัญอันดับต้นในการทูตของเวียดนามมาโดยตลอด แต่ในทางกลับกัน เวียดนามพยายามพัฒนาความสัมพันธ์กับสหรัฐต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ ในทะเลจีนใต้

อันที่จริงแล้ว เวียดนามยึดนโยบาย “4 ไม่” มาอย่างยาวนาน ซึ่งระบุไว้ว่า 1) เวียดนามไม่เข้าร่วมพันธมิตรทางทหารใด ๆ, 2) เวียดนามไม่เป็นพันธมิตรกับประเทศใดก็ตามที่มุ่งเป้าไปยังประเทศอื่น, 3) เวียดนามไม่อนุญาตให้ต่างประเทศตั้งฐานทัพทหารในเวียดนาม หรือใช้ดินแดนของเวียดนามต่อประเทศอื่น และ 4) เวียดนามไม่ใช้กำลัง หรือข่มขู่การใช้กำลังในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเพื่อวางรากฐานความไว้วางใจที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม นายจ่องมีแนวโน้มที่จะยืนยันจุดยืนนี้อีกครั้ง และพยายามสร้างความมั่นใจให้กับจีนว่า ความสัมพันธ์สหรัฐ-เวียดนาม จะไม่เป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเวียดนาม

South China Morning Post

ทั้งจีนและเวียดนามมองว่า ตนเองกำลังเผชิญกับการแทรกซึมทางอุดมการณ์จากสหรัฐที่เพิ่มขึ้น การรู้สึกถึงการคุกคามโดยค่านิยมหลักของชาติตะวันตก เช่น การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเสรีภาพในการแสดงออก ดังนั้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงยกระดับการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน และดำเนินแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันระบบสังคมนิยม และอำนาจการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ของตน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เวียดนามคาดหวังเรียนรู้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมจากประสบการณ์ของจีน รวมถึงซึมซับการลงทุนและเทคโนโลยีของจีนให้มากขึ้น เพื่อประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามัคคีในสังคมของประเทศ ซึ่งในส่วนของจีนนั้น จีนจะพยายามส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม ที่เป็นมิตร และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทะเลจีนใต้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับความทันสมัยและการฟื้นฟูชาติ.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS