โดยที่ “ทองคำ” ก็เป็นหนึ่งในของขวัญของรางวัลที่ได้รับความนิยม รวมถึงโดยการซื้อเองเพื่อเป็นรางวัลชีวิตแก่ตนเองด้วย ซึ่งวันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มเกี่ยวกับทองคำมา “ย้ำเตือน” กันไว้อีก…ในโอกาสที่ใกล้จะถึงช่วงเวลาหาของขวัญของรางวัล…

ภัย “ทองคำปลอม” นี่ “ในไทยยังคงมี”

ยิ่ง “ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี” มักจะ “มีมาก”

และยุคนี้ “คนไทยก็ต้องระวังทองเก๊!!”

ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ปัดฝุ่นพลิกแฟ้มเรื่องภัยนี้มาย้ำเตือนกันไว้อีกครั้งว่า…เรา ๆ ท่าน ๆ “อย่าประมาทการเป็นเหยื่อตุ๋น!!” กรณี “ทองปลอม” ซึ่งที่ผ่าน ๆ มา ขนาดร้านค้าทองที่ย่อมจะสันทัดกรณีนี้โดยตรงก็ยังพลาดท่า เป็นเหยื่อตุ๋นกันอยู่เนือง ๆ และยิ่งยุคนี้ ราคาทองคำสูงลิ่ว แตะหลัก 3 หมื่นบาทต่อ 1 บาททองคำ เมื่อประกอบกับ สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซบอยู่มาก แต่ถึงกระนั้น ความต้องซื้อหาทองช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะมีมากกว่าช่วงปกติ …ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นแรงผลัก-เป็นแรงจูงใจให้ “มิจฉาชีพทองปลอม” โผล่ออกมา “อาละวาดมากขึ้น” ก็เป็นไปได้

ทั้งนี้ ย้อนดูภัยนี้เรื่องนี้ในอดีตที่ผ่านมา ทางผู้บริหารห้างค้าทองแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งในฐานะหนึ่งในทีมบริหารสมาคมค้าทองคำ ได้วิเคราะห์และสะท้อนผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ โดยสังเขปมีว่า… ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี และผลพวงจากการที่ทองคำราคาสูง จึงทำให้มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีทองคำในครอบครอง “จำนำทอง” กับร้านทอง

หากต่อแถวกันมากก็อาจเกิดช่องโหว่…

อาจมี “มิจฉาชีพแฝงจำนำทองปลอม!!”

แหล่งข่าวในแวดวงทองคำแจกแจงขยายความไว้อีกว่า… จากการที่ทองคำราคาสูงขึ้นนั้น นอกจากจะทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งตัดสินใจนำทองออกมาขายแล้ว ยังมีส่วนที่ใช้วิธี “ฝาก” หรือจำนำ หรือ “ตึ๊ง” ไว้กับร้านทอง เพื่อนำเงินสดไปใช้จ่าย ซึ่งหากวันใดมีคนจำนวนมากนำทองมาตึ๊ง ทางร้านทองต้องรับจำนำทองจากประชาชนจำนวนมาก แม้ว่าทางร้านก็ย่อมจะพยายามระมัดระวังตัวในเรื่อง “ทองปลอม” แต่ก็อาจมีช่องโหว่ทำให้ “เสียรู้-เสียท่า” ให้กับแก๊งมิจฉาชีพทองคำเก๊ได้

จากเสียงที่สะท้อนไว้ถึงปัญหากรณี “ทองปลอม-ทองเก๊” นั้น บางช่วงบางตอนยังมีการระบุไว้ว่า… ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมิจฉาชีพได้มีการพัฒนารูปแบบการนำทองปลอมมาจำนำกับร้านทอง ที่จะมีเทคนิค มีความแยบยลยิ่งขึ้นรวมถึง… “ปัจจุบันมีการพัฒนากรรมวิธีในการทำทองปลอมไปไกลมาก จนทำให้ทองปลอมดูมีคุณภาพสูง ดูเหมือนของจริง…

ทำให้การตรวจสอบทำได้ยากขึ้น!!”  

พร้อมกันนี้ก็ยังมีการระบุไว้ว่า… ยุคปัจจุบันดูเหมือน มิจฉาชีพมักจะก้าวนำไปก้าวหนึ่งเสมอ!! โดยกรณี “ทองปลอม” นั้น ในกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพประภทนี้มีการใช้ช่างทองฝีมือดีร่วมขบวนการ เพื่อพัฒนารูปแบบของทองปลอมให้ดูแนบเนียนกว่าในอดีต ซึ่ง
เมื่อมิจฉาชีพได้ทองปลอมตามที่ต้องการแล้ว…เดิมก็มักนำทองปลอมไปขายหรือจำนำตามร้านทอง โดยที่ ปัจจุบันแก๊งทองปลอมสามารถทำทองคำปลอมให้เลียนแบบจนเหมือนทองคำแท้ได้แทบจะทุกจุด ชนิดที่…

มองด้วยตาเปล่าแทบจะแยกไม่ออก!!

ทางแหล่งข่าวในแวดวงทองคำยังสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้เกี่ยวกับ “วิธีดู-วิธีแยก” ระหว่าง “ทองปลอม-ทองจริง” โดยระบุว่า… วิธีพิสูจน์เบื้องต้นทำได้หลายวิธี ซึ่งปกติแล้วร้านทองก็จะใช้หลาย ๆ วิธีในการตรวจสอบ แต่หลัก ๆ ที่นิยมกันคือ… ใช้แว่นขยายส่อง เพื่อดูบริเวณยี่ห้อ ตรา หรือโลโก้บนทอง, ชั่งน้ำหนัก โดยถ้าเป็นทองปลอมมักจะหนักไม่เท่าทองแท้ นั่นคือมักจะเบากว่าทองแท้ และอีกวิธีหนึ่งที่ก็นิยมเช่นกันคือ… เป่าไฟ เพื่อจะดูเปอร์เซ็นต์ของทองคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ร้านทองนิยมทำกันที่สุด เพราะพิสูจน์ทองได้ดีในระดับหนึ่ง แถมยังใช้เวลาไม่นานในการพิสูจน์  และก็ยังมีอีกวิธีคือ… กรีดดูเนื้อใน-กรีดดูไส้ใน เพื่อดูว่าภายในทองนั้นมีโลหะตัวอื่น ๆ เช่น เงิน ตะกั่ว ปลอมปนหรือผสมอยู่ภายในหรือไม่

การพิสูจน์ทอง ถ้าร้านทองใหญ่ ๆ ก็อาจจะมีการนำเครื่องเอกซเรย์มาใช้ด้วย เพื่อที่จะดูเปอร์เซ็นต์ทองว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ แต่วิธีใช้เครื่องเอกซเรย์นี้ก็ต้องใช้เงินทุนพอสมควร” …ทางแหล่งข่าวคนเดิมระบุไว้ และว่า… โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าวิธีพิสูจน์ที่แม่นยำมากที่สุดคือการกรีดดูเนื้อในหรือไส้ในของทอง แต่วิธีนี้ก็มี “ข้อจำกัด” นั่นคือสามารถทำได้ก็เฉพาะกรณีที่ลูกค้าขายขาดให้กับร้านทอง ซึ่งก็เป็น “ช่องโหว่” ที่ทำให้มีมิจฉาชีพใช้การ “จำนำทองปลอม” และเมื่อร้านทองในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ปิดรับฝาก ปิดรับจำนำ มิจฉาชีพก็ “เปลี่ยนเป้าหมาย”  ไปที่ร้านทองในต่างจังหวัด

ทั้งนี้ จากที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้พลิกแฟ้มนำเสนอมาข้างต้นโดยสังเขป ก็จะเห็นได้ชัดว่า… แม้แต่ร้านทองก็ยังเผชิญปัญหา “ทองปลอม” ดังนั้น “เรา ๆ ท่าน ๆ” ที่สันทัดกรณีเกี่ยวกับทองน้อยกว่าก็ยิ่งจำเป็น “ต้องระวังกันให้ดี!!”

จะซื้อทองคำก็ต้องจากแหล่งที่การันตี

ระวัง “ภัยทองเก๊อาจย้ายเป้าจากร้าน”

ร้านรู้ไต๋ “อาจมุ่งตุ๋นคนทั่วไปก็ได้??” .