ผลการเลือกตั้งที่สูสีส่งให้ผู้นำฝ่ายค้านวัย 77 ปี กลับมานั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศอีกครั้ง ซึ่งลูลาเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิล 2 สมัย ระหว่างปี 2546 และ 2553 แต่ในเวลาต่อมา เขาถูกกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชั่น และจำคุกในข้อหารับสินบน ก่อนที่ศาลจะยกฟ้อง
ในช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียง ลูลามุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงต่อประชาธิปไตยจากการเคลื่อนไหวของฝ่ายขวาจัดของโบลโซนารู ซึ่งเขาตีกรอบการเลือกตั้งว่าเป็นตัวเลือกระหว่าง “ประชาธิปไตยกับฟาสซิสต์” และ “ประชาธิปไตยกับความป่าเถื่อน”
นอกจากนี้ เขายังมุ่งเป้าไปที่ปัญหาความยากจนและความหิวโหยในระดับสูงของประเทศ โดยกล่าวว่า การประมาณการว่าชาวบราซิลราว 30 ล้านคน ต้องทนทุกข์จากการขาดอาหารนั้น “ไม่สามารถยอมรับได้”
เพื่อเป็นการสนับสนุนแผนเศรษฐกิจของเขา ลูลาให้คำมั่นสัญญาที่จะยกเลิกขีดจำกัดการใช้จ่ายตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายเงินในโครงการสังคมต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานได้มากขึ้น แต่วาทศิลป์ของเขากลับสร้างความกลัวให้กับนักลงทุนบางคน
มันมีแนวโน้มว่าลูลาจะเปลี่ยนจากวิสัยทัศน์ตลาดเสรีในรัฐบาลของโบลโซนารู ไปสู่รูปแบบที่ทำให้รัฐเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เขาจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำในช่วงเวลาที่ยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง และความเป็นไปได้ของการเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐและยุโรป ที่คุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม ลูลาให้คำมั่นว่าจะหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าที่ผิดกฎหมายในป่าฝนแอมะซอน หลังจากที่การทำลายป่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายใต้การบริหารประเทศของโบลโซนารู
แม้ลูลาได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ ในการลดความยากจนในประเทศที่ไม่เท่าเทียมมากที่สุดของโลก แต่ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมองโดยเรื่องอื้อฉาวการคอร์รัปชั่นที่สั่นสะเทือนวงการธุรกิจและการเมืองของบราซิล
ลูลาถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกเกือบ 2 ปี ก่อนที่ข้อกล่าวหาการรับสินบนของเขาจะถูกยกฟ้องโดยศาลฎีกาบราซิล และผู้พิพากษาที่เป็นประธานในคดีที่พิจารณาว่ามีความลำเอียง ขณะที่คดีอื่น ๆ ของเขา ถูกเลื่อนออกไปหรือหมดอายุความ ซึ่งสมาชิกฝ่ายซ้ายยืนกรานเสมอมาว่า การสอบสวนต่าง ๆ เป็นการล่าแม่มดทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ลูลามีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอุปสรรคในสภาคองเกรสแห่งชาติบราซิล ที่ฝ่ายขวาครองเสียงข้างมาก หมายความว่า เขาจะต้องสร้างการผ่อนปรน และการประนีประนอม
“เขากลับมาเพียงเพราะความกังวลเรื่องมรดกของเขา” นายมาริโอ มาร์โคนินี กรรมการผู้จัดการของบริษัทเทเนโอ กล่าว “เขาจะต้องเป็นผู้ที่มีความคิดทางการเมืองเป็นกลาง และรับฟังทุกคน ซึ่งพันธมิตรของเขาแสดงให้เห็นว่า ลูลาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว”.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : REUTERS
