การดำรงตำแหน่งของซูแน็ก เกิดขึ้นภายในเวลายังไม่ถึง 2 เดือน หลังเจ้าตัวปราชัยให้กับนางลิซ ทรัสส์ ในศึกหยั่งเสียงภายในพรรคอนุรักษนิยม เพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ และสมาชิกแถวหน้าจำนวนไม่น้อยในพรรคอนุรักษนิยม ยังคงมองว่า ซูแน็กมีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวใต้น้ำภายในพรรค เพื่อโค่นอำนาจของนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงจากสมาชิกจำนวนมากของพรรค

ขณะเดียวกัน ซูแน็กซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองร่ำรวยที่สุดของเวสต์มินสเตอร์ ก้าวเข้าสู่ดาวนิงสตรีทท่ามกลางแรงกดันมหาศาล ในการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ที่หลายฝ่ายมองว่า จำเป็นต้องมีการลดการใช้จ่ายของภาครัฐ เพื่อควบคุมไม่ให้ภาวะตึงตึวที่เกิดขึ้นลุกลามเป็นฟองสบู่แตก ซึ่งเรื่องนี้คาบเกี่ยวถึงสถานการณ์ค่าครองชีพของประชาชน และสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยืดเยื้อเข้าสู่ฤดูหนาว ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายโดยเฉพาะยุโรป เกี่ยวกับการขาดแคลนพลังงาน

BBC News

ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนซูแน็กยืนกรานว่า การที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่สำเร็จการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจโดยตรง เคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ให้กับโกลด์แมน เซคส์ และมีประสบการณ์ดำรงตำแหน่ง รมว.การคลัง ในสมัยรัฐบาลจอห์นสัน และท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในเวลานี้ ถือว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร “ปลอดภัยแล้วในระดับหนึ่ง”

นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก เดินผ่าน “แลร์รี” แมวประจำบ้านเลขที่ 10 ดาวนิงสตรีท ในกรุงลอนดอน

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า เรื่องนี้ย่อมเปรียบเสมือนดาบสองคม พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านของสหราชอาณาจักร ย่อมต้องพยายามโจมตีบุคลิกของซูแน็กว่า “ไฮโซ” ดูเข้าถึงยาก และเหินห่างจากประชาชนจำนวนมาก ท่ามกลางทิศทางเศรษฐกิจซึ่งมีแนวโน้มดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ

นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรมีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ภายในระยะเวลาไม่เกินเดือน ม.ค. 2568 ภูมิหลังทางการเมืองของซูแน็กในระยะหลัง จึงยังคงสร้างความเคลือบแคลงสงสัย และความไม่เชื่อมั่นให้กับสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมหลายคน ว่าเจ้าตัวจะสามารถฟื้นฟูความเป็นเอกภาพภายในพรรคการเมืองขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักรพรรคหนึ่งได้อย่างไร

ทั้งนี้ สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมบางส่วนให้ความเห็นว่า ซูแน็กไม่สามารถเอาชนะทรัสส์ได้ ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำพรรคคนใหม่ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดครั้งนี้ ไม่ได้มาจากการตัดสินของสมาชิกพรรคจากทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งมีจำนวนประมาณ 180,000 คนทั่วประเทศ แต่เป็นเพียงเพราะซูแน็กคือผู้แข่งขันเพียงคนเดียว ที่สามารถรวบรวมการสนับสนุนจากสมาชิกสามัญสังกัดพรรคอนุรักษนิยม ได้มากกว่า 100 คน ภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้นเอง

ผู้ประท้วงถือแผ่นป้ายต่อต้านนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ใกล้กับอาคารรัฐสภา ในกรุงลอนดอน

ในทางกลับกัน พรรคแรงงานภายใต้การนำของเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้รับความนิยมจากชาวสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหราชอาณาจักร โดยศูนย์วิจัยยูกอฟ จากกลุ่มตัวอย่าง 12,000 คน ในหัวข้อที่ว่า หากสหราชอาณาจักรจัดการเลือกตั้งทั่วไป “ทันที” ปรากฏว่า เซอร์สตาร์เมอร์จะสามารถนำพรรคแรงงานคว้าชัยชนะใน 389 เขตเลือกตั้ง

ส่วนการคาดการณ์สำหรับพรรคอนุรักษนิยมภายใต้การนำของซูแน็กอยู่ที่เพียง 127 ที่นั่ง แม้อีก 116 เขต ยังถือว่าสูสี แต่สมมุติว่า ต่อให้พรรคอนุรักษนิยมกวาดชัยชนะได้ทั้งหมด ผลที่ออกมายังคงถือว่า เป็นความปราชัยให้แก่พรรคแรงงาน

BBC News

หากแนวโน้มของการเลือกตั้งแห่งชาติครั้งต่อไปในสหราชอาณาจักรออกมาเป็นเช่นนี้จริง จะถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของพรรคอนุรักษนิยม นับตั้งแต่จอห์นสันนำพรรคคว้าชัยเหนือพรรคแรงงาน 80 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 สร้างสถิติเป็นชัยชนะดีที่สุดของพรรคอนุรักษนิยม นับตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรีมาร์กาเร็ต แธตเชอร์

ทั้งนี้ทั้งนั้น ซูแน็ก “ยังคงมีเวลา” ในการเป็นผู้ควบคุมหางเสือเรือ นำรัฐนาวาที่สั่นคลอนลำนี้ ให้ฝ่ามรสุมรอบด้านจากทั้งภายในและภายนอก เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นจากประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ “เคยให้ความสนับสนุน” พรรคอนุรักษนิยม แม้ยังคงมีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน ว่าจะยังคงเป็นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้นำรัฐบาลสหราชอาณาจักรจากพรรคอนุรักษนิยม จะต้องใช้เวลาแก้ไขความขัดแย้งภายในพรรค ที่เป็นอุปสรรคให้กับความราบรื่นของรัฐบาล ในการบริหารประเทศ.

ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, REUTERS