เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประกาศความตั้งใจที่จะส่งออก และนำอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีมาใช้ และในเดือน ก.ย. รัฐบาลเปียงยางได้รับรองกฎหมายนโยบายนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ที่ทำให้ประเทศสามารถดำเนินการโจมตีทางนิวเคลียร์ล่วงหน้าต่อเกาหลีใต้ได้ อีกทั้งตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. ถึงช่วงต้นเดือน ต.ค. “หน่วยปฏิบัติการนิวเคลียร์เชิงกลยุทธ์” ของเกาหลีเหนือได้ทำการซ้อมยิงขีปนาวุธที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ของเกาหลีใต้ ซึ่งการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเกาหลีเหนือในการเข้าถึงเกาะกวมของสหรัฐ ในกรณีที่สหรัฐเข้าแทรกแซงการปะทะทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้

ด้วยความสามารถด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในการเข้าถึงอาณาเขตของสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้และสหรัฐส่วนใหญ่จึงตั้งคำถามว่า สหรัฐจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ต่อเกาหลีเหนือ หากเกาหลีใต้ถูกเกาหลีเหนือโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีหรือไม่ เนื่องจากมันเป็นเรื่องยากสำหรับสหรัฐที่จะแสดงการตอบโต้เช่นนั้น เมื่อรัฐบาลเปียงยางสามารถตอบโต้ด้วยการโจมตีใส่ดินแดนของสหรัฐด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้

ทว่ามันคือสิ่งที่รัฐบาลเปียงยางคิดเช่นกัน เกาหลีเหนือไม่คาดหวังว่าสหรัฐจะเปิดเผยการป้องกันด้านนิวเคลียร์โดยรับความเสี่ยงของการทำสงครามนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ นั่นจึงส่งผลให้เกาหลีเหนือดำเนินการอย่างชัดเจนด้วยการยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ เพื่อตอบโต้ต่อการโยกย้ายเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐ ไปยังชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี

ผู้สันทัดกรณีด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์คนหนึ่ง กล่าวว่า มันถึงเวลาแล้วที่สหรัฐต้องยอมรับความจริงที่ว่า ความพยายามในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือประสบความล้มเหลว รวมถึงการยอมรับอย่างสมเหตุสมผลว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศนิวเคลียร์โดยพฤตินัย แต่การที่สหรัฐยอมรับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออาจทำให้เกิดความรู้สึกของการทรยศในกลุ่มชาวเกาหลีใต้ได้

ขณะที่ นักการเมืองฝ่ายขวาของเกาหลีใต้บางคนเรียกร้องให้มีการปรับใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของสหรัฐ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ประชาชนของเกาหลีใต้กลับต้องการให้ประเทศพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง ทว่าผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันบางคนกังวลว่า การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้จะทำให้พันธมิตรเกาหลีใต้-สหรัฐ อ่อนแอลง จนส่งผลให้เกาหลีใต้เข้าใกล้จีนมากขึ้น แม้สถานการณ์เช่นนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นก็ตาม

อันที่จริง ความเชื่อมั่นของชาวเกาหลีใต้ในการเป็นพันธมิตรจะพังทลาย หากสหรัฐแสดงความไม่เต็มใจที่จะตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ดังเช่นที่เกาหลีเหนือทำต่อเกาหลีใต้ ซึ่งในทางตรงกันข้าม ถ้าเกาหลีใต้ดำเนินการใช้อาวุธนิวเคลียร์ รัฐบาลโซลจะสามารถตอบสนองต่อการโจมตีของเกาหลีเหนือด้วยคลังอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเองได้ และจะทำให้สหรัฐหลุดพ้นจากปัญหายุ่งยากเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องพันธมิตรในเอเชียตะวันออก.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS