เรียกว่าช่วงนี้เกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุ โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู สังคมไทยได้เห็นภาพบรรดาตำรวจหลายจังหวัด ต้องเข้าแถว ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด กลายเป็นภาพที่ทำเอาผู้คนในสังคมถึงกับตั้งคำถาม?

ประเทศมาถึงยุคที่แม้กระทั่ง “ตำรวจ” ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ยังต้องถูกตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด!!

จะให้เป็นอีก 1 ผลงานของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง บริหารมา 8 ปี เพิ่งจะมางัดมาตรการเร่งด่วนทั้งการแก้ปัญหายาเสพติด-อาวุธปืน

ตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนปราบปรามยาเสพติด” ดึงหน่วยงานเกี่ยวข้องไล่ตั้งแต่ ตำรวจ, ทหาร, ..., ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และ สาธารณสุข เข้าร่วมเดินหน้า ประกาศสงครามกับยาเสพติด ยกเป็นวาระแห่งชาติอีกเรื่อง

เชิงผา ลองโฉบเฉี่ยวเข้าไปชมความเคลื่อนไหวของ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี-PMOC ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานข้อมูลผลงานของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหา ยาเสพติด-อาวุธปืน เพื่อให้ประชาชนที่ท่องโซเชียลได้เข้าไปเกาะติดความเคลื่อนไหวผลงานรัฐบาล เขียนบรรยายเอาไว้ว่า

นายกรัฐมนตรียืนยัน อะไรที่ทำได้ จะทำทันที ทุกคนต้องช่วยกัน รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุด ทั้งในเรื่องของการป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา ต้องทำอย่างครบถ้วน รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครในการรับข้อมูล ขอให้แจ้งมา จะได้นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ ส่วนปัญหาอาวุธปืน จะกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเครื่องกระสุนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการออกใบอนุญาต การต่อและการพกพาทั้งหมด มีการตรวจสอบทางจิต มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ผู้นำชุมชน รวมทั้งไม่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม ตรวจสอบทบทวนคุณสมบัติทุกรอบระยะเวลา เพิกถอนใบอนุญาตเมื่อพบปัญหาทางจิต มีการใช้ยาเสพติด กวาดล้างจับกุมปืนเถื่อน การซื้อขายออนไลน์อย่างจริงจัง และต้องทบทวนกฎหมายให้มีความทันสมัย”

การแก้ปัญหายาเสพติด-อาวุธปืน นับเป็นอีกเรื่องใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย จนทำให้กลายเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วโลกนำไปพูดถึงอย่างมาก ถ้ามองถึงการกำกับดูแลหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยตรง หนีไม่พ้น “2 ป.” คือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทั้งนายกฯ และรมว.กลาโหม รวมถึงดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วน บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กำกับดูแลกรมการปกครอง รับผิดชอบโดยตรงออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.4)

อนุพงษ์' ปัดตอบสัมพันธ์ 3 ป. ร้าว ยันลงพื้นที่กับ 'ประยุทธ์' ไม่เกี่ยว

แต่เพียงขยับเดินหน้าลุยแก้ปัญหา กลายเป็นว่ามี หน่วยงานรัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันทั้งยาเสพติดและอาวุธผิดกฎหมายเสียเอง เหมือนกรณี ผบก..จว.ระนอง เพิ่งย้ายมาใหม่ สั่งตรวจสอบยอดบัญชี “ปืนหลวง” กลายเป็นโป๊ะแตก นอกจากจะพบว่า มีอาวุธปืนสูญหายไปเพียบ ตำรวจ 3 นาย ร่วมกันแอบขโมยไปขาย แถมยังเอาเงินไปซื้อไอซ์มาเสพด้วย

ปัญหายาเสพติด-อาวุธปืน เป็นเรื่องของภัยใกล้ตัว ที่ชาวบ้านต่างประสบพบเจอกันอยู่ในสังคมไทยยุคปัจจุบัน ยิ่งชาวบ้านพูดกันมาหลายปี ยาบ้ามันกลับมาแล้ว“ มีคนเมายาโผล่มาเขย่าขวัญ สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านแทบจะรายวัน จึงเป็นบทสะท้อนฝีมือการแก้ปัญหาด้านสังคมอีกเรื่องของรัฐบาลประยุทธ์

8 ปีผ่านไป การแก้ปัญหาภัยใกล้ตัวชาวบ้าน ผลงานของ “2 ป.” ที่กำกับดูแลหน่วยงาน ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง อุตส่าห์วางหมากผูกขาดอำนาจเอาไว้ที่ตัวเองกำกับดูแลโดยตรงมานาน แต่ทำไมผลงานออกมาถดถอยลงเรื่อย ๆ แถมมีภาพตำรวจทั้งประเทศ ต้องมาเข้าแถวรอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดได้สะท้อนเป็นข่าวออกไปทั่วโลก

ตอนนี้การแก้ปัญหายาเสพติดกลายเป็นวาระแห่งชาติ ต้องปูเสื่อรอดูผลงานพี่น้อง 2 ป. กันอีกครั้ง จะทำได้มากน้อยเพียงใด ขออย่างเดียวอย่าให้เป็นแค่ไฟไหม้ฟาง!!

———————–
เชิงผา