ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ระบาดหนัก ทำบ้านเมืองวุ่นวายหนัก!
ในแต่ละวันมีแต่เรื่อง และก็เรื่อง โทษนู่นโทษนี่ ปัดรับผิดชอบ สารพัดสารเพ
แต่ในสถานการณ์วิกฤติยังมีเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น
เมื่อโลกโซเชียลแห่ชื่นชมพลเมืองดีเก็บกระเป๋าถือส่งคืนเจ้าของ
“เสือสมุทร” ไม่รอช้า ขอพาไปพบกับเรื่องราว “น้ำใจงาม” นี้
แรกเริ่ม พ.ต.ท.สุมนชาย จำนงนิจ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าถือตกอยู่กลางถนนสาธารณะเส้นทางไปวัดป่าภูผายาว-บ้านหนองด่าน ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ภายในกระเป๋าถือมีเอกสารสำคัญและสร้อยคอทองคำ 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 5 บาท มูลค่ากว่า 1 แสนบาท จึงตัดสินใจเดินทางมาโรงพักเพื่อแจ้งตัวมารับ
สำหรับพลเมืองดีท่านนี้ทราบชื่อภายหลังคือ นางสายฝน พูลอ่อน อายุ 51 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 81 บ้านโนนตาลหมู่ 3 ต.ฝั่งแดง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เป็นอาสาจราจร (ญ) สังกัดกองร้อยน้ำหวาน สภ.นากลาง
เก็บกระเป๋าถือตกอยู่กลางถนนสาธารณะได้ขณะเดินทางกลับจากไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดตนเองที่วัดป่าภูผายาว พร้อมกับนางละเอียด ชามโป๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 ต.ฝั่งแดง อ.นากลาง
“สายฝน” เล่าว่า เมื่อเก็บกระเป๋าถือได้ตรวจสอบในกระเป๋าถือมีเอกสารสำคัญทางธนาคาร สมุดเกษตรกร และต้องตกใจเมื่อ ภายในกระเป๋ามีสร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 5 บาท 1 เส้น อยู่ในกระเป๋าพร้อมมีบัตรประจำตัวประชาชน ระบุเป็นของนายจันทร์สี ศรีภูธร อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
วินาทีนั้นไม่คิดอะไรมาก ตัดสินใจมาแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานทันที!
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกำนันตำบลอุทัยสวรรค์ ให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งเจ้าตัวมาแสดงตนเพื่อขอรับเอกสารและของมีค่าคืน
ในเวลาต่อมา นายจันทร์สี ศรีภูธร ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าเป็นเจ้าของกระเป๋าถือ พร้อมกล่าวขอบคุณพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าได้และนำมาโรงพักเพื่อส่งคืนเจ้าของ
แต่งานนี้เจ้าของกระเป๋าไม่ได้เดินทางมาเอง ได้มอบหมายให้บุตรชายมารับเอกสารพร้อมของมีค่าคืนแทน พร้อมมอบสินน้ำใจตอบแทนคนเก็บได้ โดยมี นางละเอียด ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสักขีพยาน
อส.จร.(ญ) กองร้อยน้ำหวาน เล่าถึงความรู้สึกว่า จริงๆ แล้วเห็นใจและเข้าใจเขา หากเราทำของหายโดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีค่า คงต้องเดือดร้อนอย่างมาก คนเป็นเจ้าของจะมีความทุกข์ความกังวลขนาดไหน และในใจตนเองมุ่งมั่นทำความดีเสียสละไม่เคยคิดจะเอาคนอื่นมาเป็นของตนเอง ยิ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดด้วย ไปทำบุญที่วัดมาหวังสร้างบุญบารมีให้เกิดขึ้นกับตนเองและอยากให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงยุคข้าวยาก หมากแพง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
เรื่องราวของ “สายฝน” อส.จร.(ญ) กองร้อยน้ำหวาน ได้ถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลถึงการทำดีกันอย่างมากมาย หลายหน่วยในระดับจังหวัด อำเภอทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจและวัฒนธรรม ชื่นชมในการทำความดีพร้อมจะมอบโล่เชิดชูเกียรติให้ เพื่อเป็นแบบอย่างทางสังคมที่มีน้ำใจจากการเก็บสร้อยคอทองคำมูลค่าเป็นแสนประกาศคืนให้เจ้าของ
……………………………………
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ข้อมูล-ภาพ “สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์” เดลินิวส์ จ.หนองบัวลำภู