โอลิมปิกเกมส์ จบลงไม่ทันไร ฟุตบอลลีกยุโรป ก็กลับมาเปิดฉากฟาดแข้งกันทันที ชนิดที่แทบไม่ให้แฟนกีฬาได้พักหายใจ
ในแง่หนึ่งมันก็ดีนะครับ สำหรับแฟนกีฬาอย่างเรา ๆ โดยเฉพาะพวกแฟนบอลที่ไม่ต้องนั่งเหงากันนาน
พูดถึงเรื่องของแวดวงลูกหนัง ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ ฟุตบอลเข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่าเดิม อย่าว่าแต่เรื่องข้อมูลข่าวสารที่รู้ได้แค่ปลายนิ้วปัดหน้าจอเลยครับ แม้กระทั่งการดูเกมสด ๆ ทุกวันนี้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องนั่งรออยู่หน้าจอทีวี แต่มีสมาร์ทโฟนกับสัญญาณอินเตอร์เนต ก็ดูบอลกันสด ๆ ได้ทุกที่ในโลก
นี่แหละครับคือสิ่งที่เรียกว่า Disruption ในโลกยุค 5G …
แม้รายได้จากลิขสิทธิการถ่ายทอดสดทางทีวีในปัจจุบันจะยังคงมหาศาล แต่แนวโน้มดูแล้วแพลทฟอร์มออนไลน์อาจจะขยับขึ้นมาเป็นแพลทฟอร์มหลักในเวลาอันไม่ไกล บรรดาพวกที่มี “ทรัพย์สิน” ในมืออย่าง ยูฟ่า หรือบรรดาลีกใหญ่ต่าง ๆ พากันขยับตัวในตลาดออนไลน์กันเกือบหมดแล้ว
อย่างล่าสุด กัลโช เซเรีย อา มีปัญหาติดขัดเรื่องการเจรจาขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในภูมิภาคแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ซึ่งพอของมันมีอยู่ในมือ ถึงจะเจรจาซื้อขายไม่ลงตัว ไอ้ครั้นจะปล่อยให้เสียเปล่าก็ใช่ที่ พวกเขาก็เลยเตรียมเปิดช่องยูทูบภาษาอารบิก เพื่อถ่ายทอดสดเกมบางคู่ในภูมิภาคดังกล่าวเองเสียเลย
แน่นอนเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่คน “เจนฯ เก่า” ต้องปรับตัวกันยกใหญ่
อ้อ! อีกเรื่องที่ทำให้คนในวัยใกล้หลักสี่อย่างผม ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกตอนได้ยินข่าวครั้งแรก คือเรื่องของสกุลเงินที่ ลีโอเนล เมสซี ได้รับจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็ฯส่วนหนึ่งของค่าเซ็นสัญญา ซึ่งในข่าวใช้คำว่า “แฟน โทเคน”
ตามข่าวบอกว่ามันคือสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยไดยินเรื่องพวกนี้ผ่าน ๆ เช่นพวก “บิตคอยน์” อะไรทำนองนั้น แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมองว่ามันไกลตัว
ยอมรับตามตรงว่าตอนอ่านข่าวนี้ครั้งแรกเล่นเอาตาลอย เพราะไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตามข่าวเขาบอกว่า เจ้า “แฟน โทเคน” ที่ว่าสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้เหมือนกับ “บิตคอยน์” และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ และมีราคาที่ผันผวนไปตามกระแส “คริปโตเคอร์เรนซี” ถ้าให้นึกเอาเอง มันก็คงคล้าย ๆ กับหุ้น ที่มีการซื้อขายตามราคาที่ผันผวน
แต่พอลองไปอ่านรายละเอียดแล้วมันมีอะไรที่แตกต่างกันไม่น้อย และถึงตรงนี้ก็ขอยอมรับอีกทีว่ายังไม่เข้าใจถ่องแท้อยู่ดี
ว่ากันว่าไอ้เจ้า “แฟน โทเคน” ที่ เมสซี ได้นั้น หากตีเป็นมูลค่าอาจจะสูงถึง 25-30 ล้านยูโร และหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ก็เริ่มมีการเปิดขาย แฟน โทเคน ของตัวเอง ถึงขนาดว่าในอนาคตอันไกลนี้ มีความเป็นไปได้ที่มันอาจถูกใช้แทนเงินในการจ่ายค่าตัวหรือค่าเหนื่อยนักฟุตบอล
ถ้าเป็นอย่างนั้น “แฟน โทเคน” ที่ว่านี้ก็คงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และจากที่ไม่เคยสนใจ ก็คงต้องศึกษาเอาไว้บ้างแล้ว
มิฉะนั้น ไม่แน่ว่าเวลาผ่านไปอีกสัก 2-3 ปี คุณอาจจะคุยกับแฟนบอล “เจนฯใหม่” ไม่รู้เรื่องแล้วก็เป็นได้…
.
.
ผยองเดช