แม้ว่ามาร์กอสจะแสดงการประเมินของเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งจนถึงขณะนี้ โดยกล่าวว่าสามารถดูแลรัฐบาลที่ทำหน้าที่ได้ และมีความคิดที่ดีมาก ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าในแง่ของเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่เข้มงวดต่าง ๆ แต่ นายลุยส์ ทิโอโดโร นักข่าวผู้มากประสบการณ์, ผู้รอดชีวิตจากกฎอัยการศึก และผู้ดูแลผลประโยชน์จากศูนย์เพื่อเสรีภาพและความรับผิดชอบของสื่อ (ซีเอ็มเอฟอาร์) มองว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกถึงเรื่องเหล่านั้น

ทิโอโดโร กล่าวเสริมว่า มันมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ได้เห็นจากประธานาธิบดีมาร์กอส เช่น การตั้งคณะรัฐมนตรีที่ยังไม่เสร็จ หรือการแถลงการณ์ต่อสาธารณะแบบไม่คาดคิด ในประเด็นที่เป็นข้อโต้แย้งด้านนโยบายที่สำคัญของประเทศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ไม่ว่ามาร์กอสจะแสดงความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน มากกว่าผู้นำฟิลิปปินส์คนก่อนหรือไม่นั้น มันมีตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้บางอย่างอยู่ ทว่ามันยังไม่มีขั้นตอนแบบรูปธรรมที่ทำให้เห็นว่า ตัวบ่งชี้เหล่านั้นเป็นเรื่องเกินคำบรรยายหรือไม่

Manila Bulletin Online

อย่างไรก็ตาม ตระกูลมาร์กอสยังคงเอาแต่ฉลอง ตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และยังคงเป็นเป้าของการวิจารณ์เกี่ยวกับ กลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อ โดยทีมเศรษฐกิจของมาร์กอส จูเนียร์ ยกย่องอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 7.6% เมื่อไตรมาสที่สอง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีก 0.7% เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา, อัตราการว่างงานที่สูงขึ้น 0.1% ในเดือน ส.ค. และที่น่ากังวลมากที่สุดคือ ค่าเงินเปโซฟิลิปปินส์ที่ยังคงร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้ได้ผลักดันราคาอาหารและเชื้อเพลิงให้สูงขึ้นไปอีกด้วย

ปัจจุบัน มาร์กอส จูเนียร์ ควบตำแหน่ง รมว.เกษตรของฟิลิปปินส์ด้วย แต่คำมั่นสัญญาของเขาในการปรับราคาข้าวให้เป็นมาตรฐานที่ 20 เปโซฟิลิปปินส์ต่อกิโลกรัม (ประมาณ 12.85 บาท) ยังไม่เป็นจริง กระนั้น ผู้นำฟิลิปปินส์ยืนกรานว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา และต้องเป็นข้าวที่จัดหาโดยภาครัฐเท่านั้น จึงจะได้ราคาดังกล่าว

Manila Bulletin Online

เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวถึงความสำคัญของการเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตร ต่อที่ประชุมใหญ่สภาคองเกรส ในกรุงมะนิลา แต่สำหรับขบวนการชาวนาของฟิลิปปินส์ (เคเอ็มพี) แผนของมาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งจะดำเนินการตามแรงผลักดันของรัฐบาลชุดก่อน สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในภาคส่วนที่มากขึ้น ขณะที่รักษาให้ตลาดยังเป็นเสรีได้นั้น “เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด”

นายดานิโล รามอส ประธานขบวนการชาวนาของฟิลิปปินส์ (เคเอ็มพี) ประณามว่า รัฐบาลของมาร์กอส จูเนียร์ เพิกเฉยต่อภาคอุตสาหกรรมที่ล้มเหลว พร้อมกับกล่าวว่า นอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติแล้ว เกษตรกรของฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับ “ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และราคาหน้าฟาร์มที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของการเป็นหนี้และการล้มละลาย นอกจากนี้ รัฐบาลมะนิลาดูจะมีความกังวลกับปณิธานของการพัฒนาการเกษตร มากกว่าปัญหาที่แท้จริงในอุตสาหรรมการเกษตรที่ต้องให้ความสนใจ.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES