เมื่อขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงจากเมืองโคคูลา เมืองขนาดเล็กอันเงียบสงบของเม็กซิโก จะพบกับจุดทิ้งขยะนอกเมืองบนเนินเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกกล่าวไว้ว่าเป็นสถานที่พักสุดท้ายของนักศึกษาชาวเม็กซิกัน 43 คน ที่หายตัวไป ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับจากการประท้วงด้วยกัน

ณ ที่แห่งนั้น ท่ามกลางกองพลาสติกที่ถูกทิ้งและเศษซากสิ่งของในชีวิตประจำวัน ทางการเม็กซิโกอ้างว่าสมาชิกของกลุ่ม “เกร์เรโรส อูนิดอส” เป็นผู้ลงมือสังหารและเผาร่างของนักศึกษาทุกคนจากวิทยาลัยครูชนบทอาโยตซินาปา ภายหลังที่นักศึกษาถูกลักพาตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุจริตในเมืองอิกวาลา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน และส่งตัวให้กับแก๊งอันธพาล อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีดังกล่าวของรัฐบาลถูกหักล้างโดยกลุ่มนักสืบสวนอิสระเมื่อปี 2559

Al Jazeera English

ผ่านมาแล้วนานกว่า 8 ปี ทว่าศพของนักศึกษากลับถูกระบุตัวตนได้เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่งหลังจากหลายปีของการตรวจสอบและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนที่รุนแรงเข้มข้นนั้น คณะกรรมการความจริงที่ตั้งขึ้นโดยประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำเม็กซิโก ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็น “อาชญากรรมของรัฐ” ซึ่งเกี่ยวพันกับโครงสร้างของระบบ

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา นายเฆซุส มูริลโล คาราม อดีตอัยการสูงสุดของเม็กซิโก ถูกจับกุมเนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับคดีนี้ แม้ว่าเขาเป็นคนเปิดการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการหายตัวไปของกลุ่มนักศึกษา แต่ในตอนนี้เขาถูกตั้งข้อหาบังคับบุคคลให้สูญหาย ทรมาน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาที่หายตัวไป

ขณะที่ นายโทมัส เซรอน อดีตหัวหน้าสำนักงานสอบสวนอาชญากรรมของเม็กซิโก (ซีไอเอ) ถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลว่าทำการทรมานพยานในคดีนี้ เพื่อช่วยสนับสนุนคดีในเวอร์ชั่นของรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักฐาน ซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ และมองว่ามันเป็นแรงจูงใจทางการเมือง

BBC News

นอกจากนี้ นายโฮเซ ลูอิส อาบาร์กา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองอิกวาลา ได้หลบหนีออกจากเมืองพร้อมกับภรรยาของเขา เพียงไม่กี่วันหลังเกิดเหตุลักพาตัว ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนถูกจับกุมที่กรุงเม็กซิโกซิตีในอีกหลายเดือนต่อมา

อนึ่ง แก๊งเกร์เรโรส อูนิดอส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่สังหารนักศึกษา ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหมือนเดิม โดยทางการเม็กซิโกระบุว่าแก๊งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการขู่กรรโชกและการลักพาตัวในรัฐเกร์เรโร และอีก 2 รัฐในเม็กซิโกด้วยเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ความลึกลับส่วนใหญ่ในคดีลักพาตัวนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของกองทัพด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทหารมีผู้ส่งข่าวที่เดินทางไปกับกลุ่มนักศึกษาในวันที่พวกเขาหายตัวไป และทราบถึงความเคลื่อนไหวของนักศึกษาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น และผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวหากองทัพเม็กซิโก ว่าปกปิดข้อมูลที่อาจช่วยค้นหากลุ่มนักศึกษาได้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES