ก็เป็นเรื่องธรรมดา เป็นปกติ วิสัยของคนไทย ที่ถ้าไม่ใกล้ถึงวัน ไม่ถึงวันสุดท้าย การจะหยิบจะจ่ายหรือนำเงินออกจากกระเป๋านั้น เป็นเรื่องยาก ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้อะไรที่จ่ายช้าได้ ไม่ถึงวันจ่าย ก็ต้องดึงกันไว้ก่อน เพื่อให้สภาพคล่องมีอยู่ในมือมากที่สุด

ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ความวุ่นวาย ความตึงเครียด ตามสำนักงานเขต หรือบรรดาองค์กรปกครองท้องถิ่น หรืออปท. ทั่วประเทศ จึงบังเกิดขึ้น

จะด้วยนิสัยของคนไทย หรือด้วยความไม่พร้อมของหน่วยงานปฎิบัติ ก็แล้วแต่ สุดท้าย!! ปัญหาการเก็บภาษีที่ดินฯ จึงมีออกมาให้เห็นอย่างที่พ่อแม่พี่น้อง เห็นข่าวคราวอยู่นั่นแหล่ะ

ดังนั้น… ”ทางออก” ที่ดีที่สุดเวลานี้ จึงต้องมีการขยายเวลาออกไป เพื่อบรรเทาปัญหา อย่างที่ “กรุงเทพมหานคร” ได้ออกประกาศขยายเวลาการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ออกไปอีก 2 เดือน จนถึงวันที่ 31 ต.ค.63

อย่างน้อย ก็ทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายนั้นคลี่คลายความกังวลของบรรดาผู้ที่ต้องเสียภาษีให้ลดน้อยลง ตามสไตล์ ถ้าไม่ถึงเวลา ไม่ยอมทำ หรือไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา!!

แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีการส่งสัญญาณออกมาเป็นระลอก ๆ จากคนที่เกี่ยวข้อง หรือจากบรรดา “กูรู” ว่า เมื่อถึงเวลาย่อมมีปัญหาแน่นอน จึงไม่แปลกหรอกที่ใคร ๆ จะเห็นวิธีการแก้ปัญหาของเจ้าของที่ดินเปล่า ที่ดินรกร้าง จากเดิมที่ไม่เคยมีอะไร ก็หันไปปลูกกล้วย ปลูกมะนาว และอีกสารพัดชนิด โดยเฉพาะบรรดาที่ดินที่ในเขตชานเมือง

แต่ในเมื่อหลักการของกฎหมาย เพื่อต้องการกระจายอำนาจการจัดเก็บภาษีให้กับบรรดาท้องถิ่น เพื่อให้เป็นรายได้ของท้องถิ่นเอง รวมถึงสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้เสียภาษีทุกคน ที่สำคัญในสุดท้ายปลายทางแล้วยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้น เรื่องของการทบทวน ที่มีหลายฝักหลายฝ่ายพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเดินหน้าต่อ เพียงแต่ขยับขยายเวลาให้ผู้เสียภาษีหายใจหายคอสะดวกขึ้นก็เท่านั้น

การขยายเวลาเสียภาษที่ดินฯ ออกไปครั้งนี้ บรรดาผู้เสียภาษีไม่ต้องชำระเบี้ยปรับและเงินเพิ่มอะไรทั้งสิ้น ส่วนคนที่ได้รับเอกสารประเมินภาษีและตรวจสอบเอกสารประเมินแล้วเห็นว่าถูกต้อง ก็สามารถจ่ายภาษีได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือผ่านคิวอาร์โค้ด ที่อยู่ในส่วนท้ายของเอกสารประเมิน หรือถ้าไม่สะดวก ก็ไปชำระได้ที่สำนักงานเขตทุกแห่ง

แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพมหานคร เท่านั้น ที่ขยายเวลาออกไปให้ ในส่วนของจังหวัดอื่น ๆ ก็เช่นกัน ถ้าบรรดาอปท.ไม่มีหนังสือแจ้งประเมินไปถึง ก็หมายความว่า…ผู้เสียภาษียังไม่ต้องไปเสียภาษีอะไร

เพราะ 1. ผู้เสียภาษีอาจได้รับการยกเว้น กรณีที่เป็นเจ้าของบ้านและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัยไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือ 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี หรือ 2. เป็นบุคคลธรรมดา ใช้ที่ดินฯเพื่อการเกษตร จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีในปี 63-65
หรือ 3. หนังสือแจ้งประเมินภาษีส่งไปแล้ว ไม่มีผู้รับจดหมายแล้วถูกตีกลับ และ 4. ไม่อยู่ในฐานข้อมูลการสำรวจผู้อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี หรืออาจตกสำรวจ

จะว่าไปแล้วใช่ว่าภาครัฐเค้าจะใจไม้ไส้ระกำ กับประชาชนตาดำๆ ผู้เสียภาษี หรอกนะ เพราะการเสียภาษีที่ดินฯนั้นสามารถผ่อนชำระได้ 3 งวด ขณะที่ก่อนหน้านี้ภาครัฐเค้าก็ประกาศลดภาษีให้ 50% สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในบางประเภท เช่น ห้องชุดที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งเป็นมรดกที่ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมก่อน 13 มี.ค.62

ไม่เพียงเท่านี้ยังลดภาษีให้อีก 90% สำหรับทรัพย์สินรอการขายหรือเอ็นพีเอ ของบรรดาสถาบันการเงินที่ได้รับมาไม่เกิน 5 ปี หรือที่เป็นของผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างพัฒนาเป็นอาคารชุด เป็นนิคมอุตสาหกรรม ไม่เกิน 3 ปี หรือเป็นที่ดินของโรงเรียน สถานศึกษา สนามกีฬา สวนสนุก เป็นต้น

เอาเป็นว่า ในเวลานี้ บรรดาผู้เสียภาษีก็มีเวลาหายใจหายคอเตรียมตัวได้อีก 2 เดือน ส่วนใครต้องเสียเท่าไหร่ อย่างไร หากยังข้องใจ ก็ติดต่อไปที่กองรายได้ ของกทม. และที่กองคลัง ในแต่ละเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่ของตัวเอง

ที่สำคัญ…ควรดำเนินการก่อนหมดเวลาที่ทางภาครัฐเค้าขยายให้ จะได้ไม่วุ่นวาย ไม่กังวลใจ โดยอย่ารอถึงวันสุดท้ายก็เท่านั้น!!
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”