เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ปัจจุบันผมอายุ 72 ปี เป็นคนชอบดูแลสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ เช่น ออกกำลังกายด้วยการวิ่งรอบหมู่บ้านวันละชั่วโมง น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่กินเนื้อ หมู ไก่ หันมากินผักกับปลามากขึ้น ทำแบบนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าป่วยเป็นโรคหัวใจ จนต้องผ่าตัดใส่บอลลูน ตอนนี้อาการป่วยดีขึ้นมาก ไม่ค่อยเหนื่อย หายใจคล่อง ความดันเลือดก็ปกติ ที่สำคัญระดับไขมันในเลือดก็อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกตัว ทุก ๆ ปี จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์เป็นประจำปีละ 2-3 ครั้ง ซึ่งผลตรวจทุกครั้งออกมา แพทย์ก็บอกว่าปกติดี และชมว่าดูแลร่างกายดี และขอให้ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มีอยู่ครั้งล่าสุดประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ตรวจร่างกายตามโปรแกรมสุขภาพ พบว่ามีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงไปเยอะ พยายามหาทางแก้ไขด้วยตัวเองแต่ไม่เป็นผล จึงมาปรึกษาแพทย์ หากระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงไป ถ้าไม่ได้รับการเสริมฮอร์โมนเพศชายแล้ว จะมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง และหากเสริมแล้วจะมีผลกระทบต่อโรคหัวใจหรือไม่

ด้วยความนับถือ
บุญเยี่ยม 72

ตอบ บุญเยี่ยม 72

ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน เป็นฮอร์โมนเพศที่สำคัญที่สุดของผู้ชาย มีหน้าที่สำคัญคือกระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย และรักษาให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์และแข็งแรง ซึ่งรวมไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ, กล้ามเนื้อและกระดูก ภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำนี้ อาจส่งผลทำให้คุณสูญเสียความสมบูรณ์ของสุขภาพร่างกายบางอย่าง เช่น ปริมาณและการกระจายของขนตามร่างกาย, ขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, เกิดการสะสมไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) นอกจากนี้ยังทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลง เรี่ยวแรงลดลง และมีลูกอัณฑะเล็กลงด้วย

การแก้ไขในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำก็คือการได้รับฮอร์โมนเพศเสริม ซึ่งมีหลายวิธี แต่สิ่งสำคัญก่อนการได้รับฮอร์โมนเพศชายเสริม คือ การตรวจต่อมลูกหมากโดยใช้นิ้วผ่านทางทวารหนัก การตรวจระดับค่าพีเอสเอในเลือด หากต้องการความแม่นยำมากขึ้น สามารถทำการตรวจอัลตราซาวด์ต่อมลูกหมากทางทวารหนักและนำชิ้นเนื้อมาตรวจได้ ถ้าผลการตรวจเป็นปกติ การใช้ฮอร์โมนเพศชายเสริม ถือได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และควรมีการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเป็นประจำในระหว่างที่กินฮอร์โมน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

หากคนไข้เคยมีประวัติเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก โดยมีค่าพีเอสเอสูงกว่าปกติระดับ 4 แล้ว จัดว่าอยู่ในระดับเสี่ยง แม้ว่าจะมีระดับฮอร์โมนต่ำแค่ไหน ก็ไม่สามารถได้รับการเสริมฮอร์โมนได้ เพราะฮอร์โมนที่ได้รับไปอาจไปกระตุ้นให้เซลล์ในต่อมลูกหมากเกิดความผิดปกติขึ้นมาใหม่ได้.