ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยปมวาระการเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.65
ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พล.อ.ประยุทธ์ถูกสั่งพักงานในตำแหน่งนายกฯ แล้วถ้าหากวันที่ 30 ก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พักงานยาวไปเลย! “พยัคฆ์น้อย” เชื่อว่าเราจะเห็นอนาคตใหม่ของประเทศไทยในหลายมิติไม่ว่าจะเป็นทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง จะเปลี่ยนแปลงกลับมาอย่างมีความหวังและมีอนาคตมากขึ้น
ไม่ต้องอะไรมากแค่ 2 สัปดาห์ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการแทนนายกฯ ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยบอกว่า พล.อ.ประวิตรทำงานได้ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ พล.อ.ประวิตรทำงานถึงลูกถึงคนกว่า กล้าไปโน่นไปนี่ และประสานงานกับคนอื่นได้ดีกว่า
นอกจากกรณี พล.อ.ประวิตรแล้ว ยังได้เห็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เดินออกจากมุมสลัว ๆ มาประกาศตัวพร้อมเป็นนายกฯ ในโควตาพรรคสร้างอนาคตไทย เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็พร้อมเป็นนายกฯ จากพรรคไทยสร้างไทย
รวมไปถึงนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ก็มากอดคอร่วมเส้นทางการเมืองกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงพรรคเพื่อไทย ที่มี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นตัวชูโรง แต่คาดพรรคเพื่อไทยคงส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ เต็มอัตรา 3 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งที่มีตัวเลือกมากกว่า 3 คน
เนื่องจากนักธุรกิจหลายคนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯ ได้ จึงให้ความสนใจจะเป็นนายกฯ ในโควตาพรรคเพื่อไทยด้วย ประเภทที่ว่าเป็นนายกฯ แบบ พล.อ.ประยุทธ์ ใคร ๆ ก็เป็นได้!
แต่ถ้าวันที่ 30 ก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้วีซ่าไปต่อ! แล้วอะไรจะเกิดขึ้น? คำตอบคือกระบวนการยุติธรรมประเทศไทยจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถกเถียงกันทั้งในที่ลับและที่แจ้งอย่างกว้างขวาง ปัญหาความแตกแยกจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า
ปัญหาการเมืองจะมีการเผชิญหน้ากันมากขึ้น ม็อบจะออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์รุนแรงขึ้น ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนเต็มทน พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะมองหน้ากันอย่างไร จากกรณีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชา
ยาวไปถึงการประชุมเอเปคช่วงเดือน พ.ย.นี้ พล.อ. ประยุทธ์จะ “สมาร์ท” หรือ? ในฐานะผู้นำของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ
ไม่ต้องพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของแพง ค่าไฟฟ้าแพงทั้งที่กำลังผลิตไฟล้นประเทศ เงินเฟ้อสูง หนี้สาธารณะเพียบ หนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของไทยสูงกว่า 5 แสนบาท แต่ไม่มีใครฝากผีฝากไข้ไว้กับ ’นายกฯ ชำรุดยุทธ์โทรม“ อยู่แล้ว!
13 ก.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีไฟเขียวปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ สูงสุด 22 บาท น้อยสุด 8 บาท มีแค่ 6 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้น 22 บาท รวมแล้วยังไม่ถึง 400-425 บาท เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้
ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นมาอีกวันละ 8-22 บาทในยุคนี้ ถ้ามีบ้านอยู่ฟรี พร้อมน้ำ-ไฟฟรี รถยนต์พร้อมคนขับฟรี รับเบี้ยประชุมยุ่บยั่บไปหมด จะไม่มีใครบ่นเลย!!
——————————
พยัคฆ์น้อย