ใครจะไปเชื่อ ผ่านพ้นไป 8 ปี การยึดอำนาจรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 จากผลงานของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี
ประชาชนหลายคน ยังจดจำไม่ลืม กับท่อนฮุกติดหู เพลงคืนความสุขประเทศไทย “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” พล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำกองทัพ ซึ่งอาสาเป็นผู้นำ คสช. ลากรถถังและกองทัพออกมายึดอำนาจรัฐบาลประชาธิปไตย เพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในชาติ, ยุติความขัดแย้ง พร้อมวาทกรรมอันสวยหรู “ปฏิรูปประเทศ”
มี แผนการปฏิรูปประเทศ ที่ตั้งเอาไว้ต้องดําเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคี สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้การปฏิรูปประเทศ ต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ
8 ปีผ่านไปไวยิ่งกว่าโกหก!! ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมาถูก ศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก (5:4) สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 65 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย หลังได้รับคำร้อง วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี แม้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี
เชิงผา ลองไปไล่สำรวจ แผนการปฏิรูปประเทศ มีมากถึง 13 ด้าน พร้อมยังตั้งคณะกรรมการปฏิรูปเอาไว้ทั้ง ด้านการเมือง, การบริหารราชการแผ่นดิน, กฎหมาย, กระบวนการยุติธรรม, เศรษฐกิจ, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สาธารณสุข, สื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ, สังคม, พลังงาน, การป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ, การศึกษา, ด้านวัฒนธรรม กีฬาแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ยึดอำนาจผ่านพ้นมา 8 ปี ถ้าการปฏิรูปประเทศเดินหน้าเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ สัญญาเอาไว้ แผ่นดินคงจะงดงาม ความสุขก็จะคืนกลับมาประเทศไทยตามที่วาดฝันไว้อย่างแน่นอน แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้น
ยิ่งผลงานการบริหารประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม หลายเรื่องสะท้อนออกมาให้เห็นในปัจจุบัน เอาเพียงแค่เรื่อง การก่อสร้างโครงการใหญ่ ๆ บางโครงการฯ ที่กำกับดูแลในหน่วยงานภาครัฐ มีการก่อสร้างยาวนานผิดปกติ หรือก่อสร้างเสร็จถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้อย่างน่าเสียดาย เหมือนจะไม่คิดถึง “เงินงบประมาณ” ที่ได้จากภาษีของประชาชน
ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนนี้มีข้อมูลจากชาวบ้านที่พบเห็นความไม่ชอบมาพากลหลายพื้นที่ตามต่างจังหวัด ทยอยส่งข้อมูลเข้ามาให้ทางเดลินิวส์ จัด ทีมข่าวส่วนกลาง ลงไปตรวจสอบโครงการก่อสร้างใหญ่ ๆ หลายแห่ง มีทั้งสร้างเสร็จแล้วทำไมปล่อยทิ้งร้าง หรือบางแห่งก่อสร้างยาวนานหลายสิบปี จนชาวบ้านแทบจะลืมไปแล้วว่าสร้างอะไรแน่?
ตัวอย่าง โครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล พร้อมอัฒจันทร์ ขนาด 20,000 ที่นั่ง ในศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังทีมข่าวส่วนกลางลงไปนำข้อมูลมาตีแผ่ จนทำเอาชาวชลบุรีจำนวนไม่น้อย ยังสงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมโครงการฯ ใหญ่ ก่อสร้างมานาน 14 ปียังไม่เสร็จ แถมปัจจุบันยังปล่อยทิ้งโทรม พอไปสอบถามทาง เมืองพัทยา ยอมรับว่าโครงการฯ มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 งบประมาณ 774 ล้านบาท หลังทราบปัญหาล่าสุดจึงนำเรื่องเข้าที่ประชุม และทำเรื่องของบประมาณเพิ่ม 336 ล้านบาท เพื่อขอขยายสัญญาก่อสร้างไปอีก 2 ปี
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงจะถือเป็นโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล พร้อมอัฒจันทร์ แบบมาราธอน 14 (+2) ปี
บรรดาหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ซึ่งอยู่ในยุคของการปฏิรูปประเทศ ไม่คิดจะลงไปตรวจสอบดูบ้างเลยหรือ ว่า “เม็ดเงินภาษีประชาชน” ถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ-ประชาชน มากน้อยเพียงใด?.
———————-
เชิงผา
