หากพูดถึง “หัวเทียน” แล้วหลายๆคนคงจะมองข้ามเจ้าชิ้นส่วนเล็กๆนี้ไปไม่น้อย แต่อันที่จริงแล้ว หน้าที่ของมันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดย “หัวเทียน” เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่จุดระเบิดในเครื่องยนต์เบนซิน แก๊ส และก๊าซ หัวเทียนจะรับแรงดันกระแสไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 10,000 โวลต์ ทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 องศาเซลเซียส รับแรงอัดได้อย่างน้อย 50 กก./ตร.ซม. 

สีหัวเทียนบอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้
-หัวเทียนแห้ง คราบที่เกาะบริเวณเขี้ยวหัวเทียนมีสีน้ำตาลอ่อนๆ สภาพเช่นนี้ เป็นลักษณะของการเผาไหม้ ของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบ สุขภาพเครื่องยนต์ การทำงานของระบบต่างๆ ยังอยู่ในสภาพปกติดี

-หัวเทียนมีคราบเขม่าสีขาว-สีเหลืองจับอยู่ ลักษณะเช่นนี้บอกให้รู้ว่า องศาการจุดระเบิดผิดเพี้ยน หรือที่เราเรียกกันว่า ไฟอ่อน การแก้ไข คือปรับตั้งองศาจานจ่ายใหม่ให้แก่ขึ้น และควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ด้วย

-หัวเทียนมีสีดำแห้ง สามารถเช็ดออกได้ง่าย ลักษณะเช่นแสดงว่าส่วนผสมหนา (น้ำมันเชื้อเพลิง มีอัตราส่วนผสมที่มากเกินไป) คราบที่พบคือส่วนที่ตกค้างของละอองน้ำมันที่มากเกินกว่าความต้องการของเครื่องยนต์ การแก้ไขให้ช่างผู้ชำนาญ ตรวจเช็ค-ซ่อมระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

-หัวเทียนแฉะน้ำมันเครื่อง บ่งบอกว่าเครื่องยนต์ เกิดการสึกหรอในกระบอกสูบ จนน้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ สาเหตุอาจเกิดจากแหวนลูกสูบ – กระบอกสูบสึกหรอ-ซีลไกด์วาล์วเสื่อมสภาพ

-หัวเทียนกร่อนและไหม้ แสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์ มีอุณหภูมิที่สูงเกินไป สาเหตุอาจเนื่องมาจากการเลือกใช้เบอร์ของหัวเทียนไม่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน จนหัวเทียนไม่สามารถคายความร้อนออกสู่ภายนอกได้อย่างเหมาะสม หรือเกิดจากการชิงจุดระเบิด (PRE-IGNITION) อันเนื่องมาจากเครื่องยนต์มีอุณหภูมิร้อนจัด จนส่วนปลายเขี้ยวหัวเทียนระอุเป็นสีแดงเกือบหลอมละลาย

ลองสังเกตกันดูนะครับว่า “หัวเทียนรถยนต์” ของท่านอยู่ในสภาพใด ใกล้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนใหม่หรือยัง……
…………………………….
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ 
โดย “ช่างเอก”

ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected] 
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Pixabay