ในช่วงเดือน ต.ค.-พย. วงการภาพยนตร์ไทย กลับมาครึกครื้นเป็นพิเศษ สังเกตได้จากค่ายภาพยนตร์ชื่อดังต่างป้อนหนังไทยเข้าฉายในโรงแทบทุกสัปดาห์ แต่ปรากฏว่ามีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่เรียกว่ากำลังถูกจับตามอง และเกิดปรากฏการณ์ “ฟีเวอร์” ในโลกโซเชียล สร้างความนิยมเป็นกระแสโด่งดังนั้นก็คือเรื่อง “รักหนูมั้ย” ฝีมือผู้กำกับป้ายแดง “โน่-ภูวเนตร สีชมพู” ผู้เคยปรากฏตัวในบทฝรั่งลูกอีสานจาก “ไทบ้านเดอะซีรีส์” โดยผู้กำกับโน่ ได้อาศัยความรู้ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์และงานออกแบบ สร้างฉากบ้านหลังเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายแต่กลับมีความอบอุ่น พร้อมนำตัวละครวัยรุ่น 4 คน เข้ามาสร้างสีสันผูกโยงพล็อตเรื่องให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ดูท้าทายด้านศีลธรรม มีมุมปัญหาวัยรุ่น เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม

แนะนำตัวละครทั้ง 4
“ต้องเต” หรือ “ธิติ ศรีนวล” ผู้เคยรับบท “คนบ้า” ใน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” กลับมาคราวนี้เขารับบท “จอห์น” หนุ่มนักศึกษาช่างศิลป์ผู้เก็บความรู้สึกไว้ภายใน แต่เวลาปลอดปล่อย เขาระเบิดมันตูมเดียวหายเกลี้ยง เรียกว่าเป็นคนที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมได้มากที่สุด, “ด้งเด้ง” หรือ “ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร” จากบทบาท “จารอด” พระเอกหนุ่มผมยาวใน  “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” กลับมารับบทเป็น “ออฟ” ช่างไม้จอมปั่น เขามีแฟนสาวสวยเป็นคนเหนือ มักจะสร้างความฮาให้ผู้ชมมากที่สุด การปล่อยมุกปั่น มุกตลก ตบโต๊ะ โชว์สกิลแบบบทที่วางไว้ให้ไม่พอ ต้องด้นสดให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ด้วย, “ตาต้า” หรือ “ชาติชาย ชินศรี” ที่เคยทำคนดูเสียน้ำตาจากบท “เซียง” หนุ่มจอมกวนผู้กลายเป็นพระใน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” กลับมาคราวนี้เขารับบทหนักที่สุดคือต้องเล่นเป็น “กิว” หนุ่มเพลย์บอยผู้ไม่เอาไหน แม้เนื้อเรื่องจะส่งบทให้เขาถูกเพื่อนมองว่าชีวิตติดลบ แต่เขาก็ยังแสดงความรู้สึกและความอบอุ่นจากภายในให้เห็นโดยตลอด และสุดท้าย นางเอกสาวหน้าใหม่ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์ หรือ “ยีนส์” รับบทสาวไซด์ไลน์ “พลอย” ที่แม้จะดูแรงเกินตัว แต่ฝีมือการแสดงของเธอในซีนดราม่า รับรองว่าไม่ธรรมดาแน่นอน เรียกน้ำตาคนดูได้จริง ๆ

เรื่องย่อ
“รักหนูไหม” ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก “เซิ้ง โปรดักชั่น” ซึ่งไม่ได้อยู่ในจักรวาลของ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” และไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอีสานหรือวิถีชีวิตที่มีวัว ควาย หรือทุ่งนา แต่เป็นการเล่าเรื่องราว มุมมองวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่มีชีวิตในช่วงเรียนหนังสือ มีฉากหลังเป็นบ้านใน จ.ศรีสะเกษ ประกอบไปด้วยตัวละคนหลัก 3 ตัว คือ จอห์น ออฟ และ กิว โดยทั้ง 3 ไปมีความสัมพันธ์กับไซด์ไลน์สาวที่ชื่อ “พลอย” แล้วเกิดความผิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา จนทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กกันแน่ “พลอย” ตัดสินใจมาขออาศัยอยู่ในบ้านของ “จอห์น” ทั้งที่รู้ว่ามีผู้ชาย 3 คนอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้ระยะแรกทุกคนในบ้านจะไม่ชอบเธอเนื่องจากเข้าใจว่าเธอเป็นสาวขายบริการ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขากลับได้รับรู้ถึงความอบอุ่นของคำว่า “ครอบครัว”

จุดเด่นของ “รักหนูมั้ย”
การเล่าเรื่อง ผ่านบทสนทนาง่าย ๆ ระหว่างตัวละคร (แบบดูเพื่อนกำลังคุยกัน) ทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้ไม่อยาก แม้จะมีภาษาอีสาน ภาษาเหนือ แต่ก็ยังใช้คำได้สละสลวย ขณะที่เนื้อหาที่ท้าทายสังคมแบบสุดโต่ง คือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากจะบอกว่าชายหนุ่มในบ้าน 3 คนมีภรรยาคนเดียวกัน แต่เพราะการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ใส่บริบทหลายอย่างให้ผู้ชมเข้าใจ ว่าการอยู่รวมกันดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องน่าอับอาย หรือ มีเนื้อหาส่อไปในทางอนาจาร แต่มันเป็นการสะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่ไม่พร้อมจะมีครอบครัว ให้กลับมาลุกขึ้นมาสู้อย่างสุดกำลัง พล็อตหนังค่อนข้างยาวและแบ่งเป็นระยะเวลา เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชีวิตวัยรุ่นมีลองผิดลองถูก ฉากซีนดราม่า เรียกน้ำตา แม้จะเป็นเพียงซีนสั้น ๆ ก็ยังทำออกมาได้ดีมาก ผู้ชมหลายคนอินและเข้าใจในอารมณ์ของตัวละครได้ไม่ยากเย็น

จุดอ่อนของ “รักหนูมั้ย”
ด้วยเนื้อหาที่ท้าทายศีลธรรม ประกอบกับไม่ได้อธิบายขยายความในประเด็นที่ล่อแหลม หรือมีการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างน้อย ทำให้คอหนังไทยที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คิดไปในแง่มุมอื่นเสียก่อน ซึ่งบางคนอาจตั้งคำถามไปแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ บ้างก็ไม่กล้าเข้าไปดูเพราะคิดว่าเนื้อหา คงเป็นเพียงเรื่องราวความรักของวัยรุ่นเท่านั้น 

5/5 กะโหลก บทหนังที่ดี ส่งให้ผู้ชมอินกับเรื่องได้อย่างเต็มที่ ครบทุกรสชาติ ตลกฮาน้ำตาไหล แฝงด้วยแง่คิดชีวิตวัยรุ่น โดยเฉพาะคนเป็นพ่อ-แม่ จะอินมาก ๆ ประทับใจแน่นอน!

ปิดท้ายกันด้วยคำถามประจำสัปดาห์ เพื่อหาผู้โชคดีรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 5 ท่าน (คนละ 2 ที่นั่ง) ในเครือโรงภาพยนตร์ “เอส เอฟ ซีเนม่า”

คำถามคือ คุณอยากไปชมภาพยนตร์เรื่อง “รักหนูมั้ย” กับใครมากที่สุดเพราะอะไร

ร่วมสนุกตอบคำถามได้ที่ช่องแสดงความเห็นด้านล่างของคอลัมน์เว็บไซต์ Dailynews (ช่องแสดงความเห็นด่านล่าง) หรือเฟซบุ๊ก “ดูหนังกับหมี” ประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 16 พ.ย. สำหรับผู้โชคดีจะต้องเข้ามายืนยันสิทธิด้วยการอินบ็อกซ์ ระบุแจ้งรับสิทธิ ในเพจเฟซบุ๊ก “ดูหนังกับหมี” ก่อนเวลา 18.00 น. ของวันที่ 17 พ.ย. (มิเช่นนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์) ดูหนังกันให้สนุกนะครับผม ^^
………………………………………….

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เว็บไซต์ ยูทูบ และ เซิ้ง โปรดักชั่น